วันนี้
(31 มี.ค. 65) ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ถนนดินแดง ซึ่งเป็นวันแรกในการรับสมัครชิงตำแหน่ง
“ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร” และ “สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร” (ส.ก.) โดยจะมีการเปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ 31 มี.ค. – 4 เม.ย. 65 เวลา 08.30 – 16.30 น.
ไม่เว้นวันหยุดราชการ และจะมีการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม 2565
ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. ซึ่งถือเป็นการเลือกตั้งใหญ่ของกรุงเทพฯ เป็นครั้งแรกในรอบ
9 ปี สำหรับตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. และเกือบ ๆ 12 ปี สำหรับการเลือกตั้ง ส.ก.
เวลา
05.50 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ปั่นจักรยานมายื่นเอกสารสมัครรับเลือกตั้ง
ผู้ว่าฯ กทม. โดยเดินทางมาเป็นคนแรก และให้สัมภาษณ์ว่า ปกติคนเป็นคนออกกำลังกาย
วันนี้จึงปั่นจักรยานมา ไม่กังวลใจ จากนั้นได้สักการะพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ที่ลานด้านหน้า
ก่อนเข้าด้านในเพื่อจับฉลากหมายเลขเพื่อยื่นใบสมัครต่อไป
โดยหลังจากจับฉลาก
นายชัชชาติ พร้อมทีมงานมีกำหนดการลงพื้นที่ หาเสียงในพื้นที่ อนุสาวรีย์ชัยฯ -
สีลม
- ปากคลองตลาด ด้วยขบวนรถ EV ต่อจากนั้นเดินหาเสียงต่อในซอยละลายทรัพย์
สาทร ช่องนนทรี
เวลา
06.10 น. นายสกลธี ภัททิยกุล อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. เดินทางมาถึงและให้สัมภาษณ์ว่า
เมื่อคืนนอนแต่หัวค่ำทำใจให้สบาย พร้อมจับหมายเลขประจำตัวผู้สมัคร
และถือฤกษ์สะดวกในการเดินทางมาในวันนี้
ปกติหากมีการลงสมัครทางการเมืองจะเดินทางไปไหว้ศาลหลักเมืองและพระแม่ธรณีบีบมวยผม
รวมถึงศาลเจ้าพ่อเสือทุกครั้ง ส่วนวันนี้จะพิเศษเพราะจะสักการะพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ
เพราะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร อย่างไรก็ตาม
ตนไม่กังวลในเรื่องของตัวผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. คนใด
เพราะเหมือนเป็นการแข่งขันกับตัวเอง นำเสนอนโยบายให้กับประชาชนชาวกรุงเทพฯ
ถามว่าหมายเลข
6 คือเลขในใจ เพราะมีการชูนโยบาย 6 ด้าน ใช่หรือไม่ นายสกลธีกล่าวว่า เลขนี้ตนชอบอยู่แล้ว
ถ้าได้ก็จะสามารถนำมาต่อยอดกับนโยบายได้ และเป็นเรื่องดี
สำหรับนโยบายนั้นมาจากประสบการณ์ที่ตนเคยเป็นรองผู้ว่าฯ กทม. มาแล้ว
ซึ่งหลายอย่างที่ได้ทำจะนำมาต่อยอด และในสิ่งที่ยังไม่ได้ทำในช่วงที่เป็นรองผู้ว่าฯ
เนื่องจากไม่ได้ดูแลกำกับอยู่ก็จะนำมาใส่เป็นนโยบายในการหาเสียงครั้งนี้
ซึ่งหลายอย่างมาจากการร้องเรียนของประชาชน
นายสกลธี
ย้ำตอนท้ายว่ากรุงเทพฯดีอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องมีการจัดการที่ดีขึ้นและดีกว่านี้
ซึ่งภายหลังจับได้เบอร์เลือกตั้ง มีกำหนดเคลื่อนขบวนรถแห่สู่ศาลหลักเมือง กทม.
(สนามหลวง) เพื่อสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ ศาลหลักเมือง ศาลเจ้าพ่อเสือ
(ถนนตะนาว) พระบรมราชานุเสาวรีย์ รัชกาลที่ 1 (สะพานพุทธฯ) ต่อไป
เวลา
07.00 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เดินทางมาถึงพร้อมด้วย ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง
บุตรชาย ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมงาน "คนลุยเมือง" โดย พล.ต.อ.อัศวิน
ได้กล่าวก่อนเข้าไปสมัครรับการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ว่า
มีความพร้อมสำหรับเลือกตั้งครั้งนี้
รวมถึงมีความพร้อมในการสานต่องานเก่าที่ได้ทำไว้แล้วแต่ยังไม่จบและอยากทำสิ่งที่เหลือให้ก้าวหน้าต่อไป
อยากให้ประชาชนมีความสุข มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
นี่คือเหตุผลที่มาลงสมัครแข่งขันครั้งนี้
พล.ต.อ.อัศวิน
กล่าวอีกว่า เราทำงานมาแล้ว ผลงานเป็นที่ประจักษ์ว่าเราทำอะไรไปบ้าง
และอยากทำต่อให้จบ ส่วนพรรคการเมืองหรือใครที่สนับสนุนตนก็ยินดีและขอบคุณทุกคน ตนไม่มีพรรค มีแต่พวก นโยบายหลักของเราคือ คนกรุงเทพฯต้องปลอดภัย
สงบสุข และต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สำหรับประเด็นคำถามที่มองว่า 5 ปีที่ผ่านมา
ทำไมไม่ทำ พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า 5 ปีที่ผ่านมา แล้วตนทำมาตลอด
ขอถามกลับแล้วคนที่เป็นผู้ว่าฯ กทม. ก่อนหน้านี้หลายสิบปีทำไมไม่ทำ
มีแต่นโยบายสวยหรู อย่างไรก็ตามตนไม่กังวลที่เคยเป็นผู้ว่าฯกทม.ที่มาจากการแต่งตั้งแล้วมาสู่เวทีการแข่งขัน
ซึ่งมีความมั่นใจและอยากมาสู้ในระบบการเลือกตั้งเพื่อเข้าไปสานต่องานเดิมเพื่อประชาชน
ในเวลา
07.15 น. ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.
สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย ผู้สมัครทีม ส.ก. ของพรรค เดินทางมาสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ
กทม. โดยระบุว่า วันนี้ไม่มีความกังวล แต่สารภาพว่าตื่นเต้นมาก ตื่นเต้นสุด ๆ
และคิดว่าวันนี้จะเป็นวันที่มีความสุข ได้ก้าวออกมาจาก comfort zone ได้ทำงานที่รอคอยมา 30 ปี
ทั้งนี้ได้มีคนสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์มาให้กำลังใจด้วย
เช่น ปริญญ์ พานิชภักดิ์
ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง กทม. และ ส.ก. พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย ดรุณวรรณ
ชาญพิพัฒนชัย
รองผู้อำนวยการศูนย์ ฝ่ายการสื่อสาร และรองโฆษกพรรค วิชัย
สังข์ประไพ รองผู้อำนวยการศูนย์ ฝ่ายมวลชนสัมพันธ์ ณัฏฐ์ บรรทัดฐาน
รองผู้อำนวยการศูนย์ ฝ่ายปฏิบัติการณ์เลือกตั้ง และ ธนวัฒน์ ปัญญาสกุลวงศ์
รองผู้อำนวยการศูนย์ ฝ่ายอำนวยการเลือกตั้ง
“หากให้โอกาส
ผมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ไม่ให้เสียความตั้งใจของตัวเอง
ผมจะไม่ให้ทำให้ท่านผิดหวัง” ดร.เอ้ กล่าว
ส่วนตัวอยากได้เบอร์
1 เพราะสื่อถึงการเป็นอันดับ 1 และทำให้คนจำง่าย
อีกทั้งยังไม่รู้สึกหนักใจกับการเลือกตั้งครั้งนี้
ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะถูกตัดคะแนนเสียง เพราะเชื่อว่าคนกรุงเทพฯ
มีวิธีเลือกผู้ว่าของเขาอยู่แล้ว สำหรับนโยบายแรกที่อยากจะทำหลังได้รับตำแหน่ง
คือการติดตั้งสัญญาณอินเตอร์เน็ตฟรีทั่วกรุงเทพฯ
ด้าน
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครฯ สังกัดพรรคก้าวไกล กล่าวว่า
วันนี้ตนเดินทางมาพร้อมกับผู้สมัคร ส.ก. ทั้ง 50 เขต และหากในวันนี้
ตนจะได้เบอร์อะไรนั้นก็คงเป็นเรื่องของดวง ถ้าคนรักเบอร์ไหนเขาก็เลือก
พร้อมฝากบอกคนกรุงเทพฯ สำหรับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่จะมาถึงว่า
"ได้เวลาที่เราจะคืนเมืองที่คนเท่ากัน ให้กับพวกเราทุกคน 22 พฤษภา ออกไปกาให้คนเท่ากัน" รวมทั้งยังกล่าวเพิ่มอีกว่า
ถ้าตนได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. ตนก็ทราบว่ามีหลายอย่างที่คนกรุงเทพฯ ต้องการ
อย่างรถไฟฟ้าสายสีเขียวก็ต้องดึงสัญญามาเปิดเผย ว่าสัญญาที่ลึกลับนี้คืออะไร
จะได้แก้ปัญหาได้ หรือปัญหาโรงขยะที่อ่อนนุช เขตประเวศ ลาดกระบัง สวนหลวง
ที่สร้างปัญหาให้กับคนกรุงเทพฯ เป็นแสน ๆ คน
โดยที่ประชาชนก็สงสัยว่าบริษัทที่รับเหมาเป็นเครือข่ายของ
คสช.หรือเป็นกรรมการนายทหารระดับสูง ก็ต้องไปตรวจสอบดูที่สัญญาผู้รับเหมา
นายวิโรจน์
ยังกล่าวอีกว่า ณ วันนี้เรายังแก้ไขปัญหากรุงเทพไม่ได้หรอก
หากต้องเว้นวรรคให้กับอภิสิทธิ์ชน เกรงใจคนนั้นคนนี้
แล้วก็ยอมให้เอาภาษีของเราไปปรนเปรอให้กับนายทุนผู้รับเหมา
และด้วยเงื่อนไขที่มันไม่เป็นธรรมเช่นนี้ จะบริหารให้คนกรุงเทพฯได้รับความเป็นธรรมได้อย่างไร
มันก็ต้องคืนความเป็นธรรมให้คนกรุงเทพด้วย
ด้าน
น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว. กทม. กล่าวว่าตนมาในนามอิสระ
ซึ่งตนอิสระจากกลุ่มทุนและนักการเมือง แต่ไม่อิสระจากประชาชน
วันนี้ตนเองมีความมั่นใจในการสู้ศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เชื่อว่าหากหยุดโกง
กรุงเทพฯก็จะมีความเปลี่ยนแปลง
สำหรับกรณีที่สังคมมองว่าเป็นม้านอกสายตานั้น
น.ส.รสนา กล่าวว่า มาจากการที่พวกคุณสร้างกระแสกันได้ เพราะคุณมีกระสุน
ดิฉันไม่มีกระสุน เพราะดิฉันไม่มีกลุ่มทุน หรือพรรคการเมืองหนุน
ดังนั้นอยากฝากเตือนไปยังผู้สมัครรายอื่น ถึงการที่ กกต. ให้ใช้เงิน 49
ล้านบาทในการหาเสียง ขณะที่เงินเดือนของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร 4 ปีเพียงแค่ 10 ล้านบาท มันมีความสมเหตุสมผลหรือไม่?
ส่วนโยบาย
ตนขอนำเสนอเรื่องบำนาญประชาชน 3,000 บาท, ลดราคาตั๋วให้เหลือ
20 บาทตลอดสาย และอยู่ให้ได้กับโรคโควิด 19 ด้วยฟ้าทะลายโจรและยาไทย เพื่อให้ประชาชนสามารถทำมาหากินได้อย่างมั่นใจ หากได้รับเลือกครั้งนี้
ยืนยันไม่ทำโปรเจคใหญ่ เช่น อุโมงค์น้ำราคาหลายหมื่นบาท
แต่จะสนับสนุนขุดลอกคูคลองทั้ง 1,600 สาย ทั้งกทม.
เพิ่มการจ้างงานเพื่อให้ประชาชนมีรายได้ เกิดการท่องเที่ยวแบบตะวันออก
ตั้งกองทุนติดโซล่าเซลล์บนหลังคาเพื่อลดค่าใช้จ่ายต่อเดือนของประชาชนเดือนละ 500
บาทเพิ่มการติดกล้อง CCTV ที่ใช้ได้จริงร่วมกับเอกชนทั้งหลายกว่า
5 แสนตัวเพื่อให้มีความปลอดภัย
เวลา
09.00 ผู้สื่อข่าวรายงาน ผลการจับสลากเบอร์ประจำตัวผู้สมัครรับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ
กทม มีดังนี้
เบอร์ 1 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร
เบอร์ 2 พันโทหญิง ฐิฏา
รังสิตพล มานิตกุล
เบอร์ 3 นายสกลธี ภัททิยกุล
เบอร์ 4 นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์
เบอร์ 5 นายวีรชัย
เหล่าเรืองวัฒนะ
เบอร์ 6 พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง
เบอร์ 7 นางสาวรสนา โตสิตระกูล
เบอร์ 8นายชัชชาติ
สิทธิพันธุ์
เบอร์ 9 นางสาววัชรี วรรณศรี
เบอร์
10 นายศุภชัย ตันติคมน์
เบอร์ 11 น.ต. ศิธา ทิวารี
เบอร์ 12 นายประยูร ครองยศ
เบอร์ 13 นายพิศาล
กิตติเยาวมาลย์
เบอร์ 14 นายธเนตร วงษา
#เลือกตั้งผู้ว่ากทม
#UDDnews
#ยูดีดีนิวส์