วันจันทร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

‘พิธา’ อ่านแถลงข้อตกลงร่วม ‘ก้าวไกล-เพื่อไทย’ เสนอ ‘วันมูหะมัดนอร์ มะทา’ เป็นประธานสภา ขณะที่ส.ส.ก้าวไกลได้รองประธานคนที่ 1 และส.ส.เพื่อไทยได้รองประธานคนที่ 2

 


พิธา อ่านแถลงข้อตกลงร่วม ก้าวไกล-เพื่อไทย เสนอ วันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นประธานสภา ขณะที่ส.ส.ก้าวไกลได้รองประธานคนที่ 1 และส.ส.เพื่อไทยได้รองประธานคนที่ 2


วันนี้ (3 กรกฎาคม 2566) ที่ โรงแรมแลงคาสเตอร์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ สถานที่แถลงข้อสรุปตำแหน่งประธานสภา ซึ่งก่อนหน้ามีการแจ้งสื่อมวลชนว่าเป็นการแถลงของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล แต่ภายหลังมีการเปลี่ยนเป็นการแถลงระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยเท่านั้น


ซึ่งในส่วนของพรรคก้าวไกล นำโดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล, ชัยธวัช ติลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล, ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล และพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ขณะที่พรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย, ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยและหนึ่งในคณะเจรจาของพรรคเพื่อไทย โดย พิธา ได้อ่านแถลงข้อตกลงร่วมฯ ความว่า


แถลงข้อตกลงร่วมระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย


เรื่อง ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร


ตามที่พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคเป็นธรรม พรรคเพื่อไทรวมพลัง และพรรคพลังสังคมใหม่ ได้ประชุมหารือร่วมกันกรณีตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยมอบหมายให้พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยไปเจรจาตกลงร่วมกันนั้น


บัดนี้ พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ได้ตกลงร่วมกันดังนี้


1. เสนอชื่อ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคก้าวไกล เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 โดยพรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคเป็นธรรม พรรคเพื่อไทรวมพลัง และพรรคพลังสังคมใหม่ พร้อมให้การสนับสนุนตามข้อตกลงนี้


2. บุคคลที่จะปฏิบัติหน้าที่เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมผลักดันวาระที่จะทำให้รัฐสภาไทยก้าวหน้า ให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีประสิทธิภาพและเป็นของประชาชน


3. ข้อตกลงเรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรในครั้งนี้ เป็นไปเพื่อสร้างความเป็นเอกภาพระหว่าง 8 พรรค ในการจัดตั้งรัฐบาล เสนอและสนับสนุนกระผม นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี อย่างสุดความสามารถ โดยดำเนินการตามข้อ MOU ที่ได้แถลงร่วมกันเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2566


พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ยืนยันให้ความเห็นร่วมชอบกฎหมายสำคัญเพื่อประชาชน ซึ่งรวมถึงการนิรโทษกรรมคดีแสดงออกทางการเมือง และการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปกองทัพ ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบข้าราชการกระทรวงกลาโหม ร่างพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก และร่างพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร


พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย เชื่อมั่นว่า ข้อตกลงเรื่องประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานร่วมกัน เพื่อจัดตั้งรัฐบาลเข้าไปบริหารประเทศตามเจตนารมณ์ที่ประชาชนได้แสดงออกอย่างชัดเจน ผ่านการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566


หลังอ่านข้อตกลงร่วมระหว่างสองพรรคจบ ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงความมั่นใจต่อกระบวนการทำงานร่วมกันต่อไปของ 8 พรรคร่วม โดยพิธาระบุว่าจากข้อตกลงร่วมในวันนี้ น่าจะเป็นบรรยากาศที่ทำให้ทั้ง 8 พรรคสามารถทำงานร่วมกันได้ดีขึ้น โดยข้อตกลงดังกล่าวเกิดจากการหารือร่วมกัน จนสามารถหาทางออกที่ดีให้กับทั้งสองพรรค และรักษาความเป็นเอกภาพในการจัดตั้งรัฐบาลของทั้ง 8 พรรคได้


โดยที่เมื่อวานนี้ (2 ก.ค.) ตนได้ส่งชัยธวัชไปทาบทาม วันมูหะมัดนอร์ มะทา แล้วเป็นการเบื้องต้น ได้รับคำตอบรับที่ดี และตามที่คุณวันมูหะมัดนอร์ มะทาได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่าพร้อมเอาประชาชนเป็นตัวตั้ง ถ้าเป็นความต้องการของประชาชนและของทั้งสองพรรคก็จะไม่ปฏิเสธ ซึ่งตนมีความมั่นใจว่าทั้ง 8 พรรคร่วมจะไปถึงเป้าหมายโดยมีเอกภาพมากขึ้น และขั้นตอนการทำงานต่อไปก็น่าจะง่ายขึ้น


ผู้สื่อข่าวยังถามต่อ ถึงกรณีการเสนอร่างกฎหมายที่อาจขัดกับหลักศาสนาอิสลาม วันมูหะหมัดนอร์ มะทา ในฐานะประธานสภาฯ จะมีปัญหาหรือไม่ โดยพิธาระบุว่าตนได้หารือแล้ว ทั้งหมดจะเป็นไปตามกระบวนการของรัฐสภาเหมือนกับกฎหมายอื่นๆ ส่วนพรรคประชาชาติก็คงจะสงวนสิทธิในการไม่ลงมติหรือพิจารณากฎหมาย และอาจมอบหมายให้รองประธานสภาฯ คนอื่น แต่คำถามนี้ ตนคิดว่าให้คุณวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นคนตอบเองจะดีที่สุด


ส่วนเรื่องการผลักดันวาระในการทำให้รัฐสภาไทยก้าวหน้า โปร่งใส มีประสิทธิภาพ และเป็นของประชาชน ตามที่พรรคก้าวไกลได้เคยเสนอมานั้น เท่าที่ได้พูดคุยกัน คุณวันมูหะมัดนอร์ มะทา ก็เห็นด้วย และพร้อมทำงานร่วมกับรองประธานสภาคนที่ 1 และ 2 ในการไปให้ถึงเป้าหมาย เน้นหลักการเป็นหลักทั้งในการผลักดันกฎหมาย การบริหารสภาฯ ซึ่งเมื่อแคนดิเดตประธานสภาฯ เห็นชอบด้วยแบบนี้แล้วตนก็สบายใจ และพร้อมที่จะส่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 จากพรรคก้าวไกลไปสนับสนุนการทำงานอย่างเต็มที่


นี่เป็นนิมิตหมายที่ดีที่แสดงให้เห็นถึงเอกภาพ หลักการ การประนีประนอม เสียสละเพื่อเป้าหมายเพื่อการจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคร่วมเหนียวแน่นมาโดยตลอดและจะเหนียวแน่นต่อไป สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นส่วนหนึ่งของระบบรัฐสภาที่จะต้องมีการแข่งขัน มีการจัดตั้งรัฐบาล มีจุดต่าง และมีการหาจุดร่วมกัน จากข้อตกลงวันนี้ แสดงให้เห็นแล้วว่าทั้ง 8 พรรคสามารถหาจุดร่วม และหาเอกภาพร่วมกันได้ เพื่อเป้าหมายในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน” พิธากล่าว


พิธายังระบุด้วยว่าตนเชื่อใจในพรรคเพื่อไทย แม้จะมีการวิเคราะห์จากหลายฝ่ายถึงสูตรต่าง ๆ แต่การบรรลุข้อตกลงร่วมกันวันนี้ แสดงให้เห็นถึงการทำงานร่วมกันที่มีเอกภาพและทำให้ตนมีความเชื่อใจในพรรคเพื่อไทย และเชื่อมั่นว่าทั้ง 8 พรรคต่างก็มีความเป็นเอกภาพ จะสามารถเดินไปให้ถึงจุดหมายตามมติของประชาชนได้ ซึ่งในโอกาสนี้ ตนก็ต้องขอเรียนไปยังประชาชนทุกคนด้วย ว่ามติประชาชนที่ได้แสดงออกมาเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ยังมีความน่าจะเป็นที่สูงมากที่จะเป็นไปตามนั้น


ผู้สื่อข่าวยังได้ถามต่อ ถึงความคืบหน้าในการพูดคุยกับส.ว.ในการโหวตนายกรัฐมนตรี โดยพิธาระบุว่า การเจรจาต่อจากนี้ก็คงไม่ต่างจากที่ทำมา นั่นคือการเดินหน้าพูดคุยและอธิบายทำความเข้าใจ ก่อนหน้านี้หลายคนอาจเคยมีกำแพง แต่เมื่อมีโอกาสได้พูดคุยกันก็ปรากฏว่าหลายคนมีความเข้าใจมากขึ้น


และที่สำคัญ เมื่อถึงเวลาถ้าส.ว.ยังคงยึดหลักการตามปี 2562 ที่ว่าส.ว.มีบรรทัดฐานที่จะสนับสนุนใครก็ตามที่รวบรวมเสียงจากสภาล่างได้เกิน 251 เสียง และในเมื่อพรรคร่วม 8 พรรครวมเสียงกันได้ถึง 312 เสียงก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา เพราะการโหวตนายกรัฐมนตรีไม่ใช่เรื่องของตัวบุคคล แต่เป็นเรื่องบรรทัดฐานและหลักการ ซึ่งถ้าส.ว.ยังคงยึดเอาประชาชนและประเทศเป็นตัวตั้ง ก็ไม่น่ามีปัญหา


สำหรับการประชุมรัฐสภานัดแรกในวันพรุ่งนี้ (4 ก.ค.) นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มีหนังสือด่วนมาก ที่ สผ 0015/ผ1 ลงวันที่ 29 มิถุนายน 2566 แจ้งไปยังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 26 เรื่องการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยระบุว่า ตามที่ได้มีพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภา พ.ศ.2566 ตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2566 เป็นต้นไปแล้วนั้น


ขอเรียนว่า จะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 27 ปีที่ 1 ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) ในวันอังคารที่ 4 กรกฎาคม 2566 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชั้น 2 อาคารรัฐสภา ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร จึงเรียนมาเพื่อทราบ และขอเชิญท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไปประชุมตามกำหนดวันและเวลาดังกล่าวข้างต้น


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ก้าวไกล #เพื่อไทย #ประธานสภา