“เศรษฐ” มองผลโหวตวานนี้น่าผิดหวัง
แต่ต้องยอมรับและเดินต่อไป ปฏิเสธให้ความเห็นกรณีการข้ามขั้วหรือเพิ่มพรรคอื่นเสริม
ต้องให้เกียรติคณะเจรจา 8 พรรคร่วมฯ ก่อน
วันนี้ (20 กรกฎาคม 2566) ที่
สำนักงานใหญ่พรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย
ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า วันนี้จะมาคุยกันว่าจะเดินต่อไปอย่างไรหลังผลการประชุมร่วมรัฐสภาเมื่อวานนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า
เสียงส.ว.เมื่อวานนี้เป็นที่แน่ชัดว่าไม่เอาพรรคก้าวไกล
การตั้งรัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจะมีพรรคก้าวไกลร่วมอยู่หรือไม่ นายเศรษฐา
กล่าวว่า ต้องให้ทางตัวแทนในการเจรจาไปคุยกันก่อน
แต่ก็มีทิศทางมาว่าอาจจะเป็นไปในทิศทางนั้น ปัจจุบันนี้เราก็ยังมีข้อตกลงระหว่าง 8
พรรคร่วมฯ อยู่ ต้องพูดคุยกันและให้เกียรติทั้ง 8 พรรคที่ร่วมเจตนารมณ์กันมา
นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า
ในเรื่องรายชื่อที่ถูกเสนอให้เป็นนายกฯ ทางพรรคเพื่อไทยเองก็มีอยู่ 3 ชื่อ
ก็ต้องคอยให้กรรมการบริหารเป็นคนเคาะก่อนว่าจะเป็นใคร และผมเชื่อว่าทุกท่านก็มีความพร้อมอยู่แล้ว
นายเศรษฐา
ย้ำว่าขณะนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง 8 พรรคร่วมฯ ยังไม่ปล่อยมือกัน และเชื่อว่าคณะเจรจาก็คงจะไปเจรจากันในเร็ววัน
อาจจะเป็นเย็นวันนี้ด้วยซ้ำ คงจะมีแนวทางออกมา แกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะเปลี่ยนแปลมาเป็นเพื่อไทยหรือเปล่า
ก็คงต้องรอในระดับต่อไป
สำหรับการผลักดัน “พิธา” ให้เป็นนายกฯ ของ
8 พรรคร่วมฯ มาถึงที่สุดแล้วใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า
ตามที่ฟังดูทางด้านกฎหมายก็น่าจะเป็นอย่างนั้น ผมว่าเรื่องการโหวตได้ครั้งเดียวก็เป็นบรรทัดฐานอันหนึ่ง
ซึ่งผมว่าการเสนอชื่อนายกฯ ครั้งต่อไปก็ต้องคิดให้ดี ต้องมีการเจรจาให้เหมาะสม
ประเด็น ม.112
ซึ่งเป็นปัญหาที่ส.ว.ไม่ยอมรับและไม่โหวตลงคะแนนให้นั้น นายเศรษฐากล่าวว่า
ผมว่าชัดเจนถ้าเกิดพรรคที่จะเสนอชื่อนายกฯ ครั้งต่อไป เรื่อง ม.112
ต้องไม่อยู่ในการแก้ไขหรือยกเลิก อันนี้ชัดเจน
ไม่เช่นนั้นจะไม่ได้รับการสนับสนุนทั้งส.ว.และอีกหลาย ๆ พรรคก็ตามที คณิตศาสตร์มันค่อนข้างจะพื้นฐานมาก
ๆ เลย นับดูก็รู้ว่าเรื่องอะไรเป็นอะไร สำหรับผมคงพูดแทนพรรคก้าวไกลไม่ได้
แต่เพื่อไทยคงต้องมีการพูดคุยกันชัดเจนว่าถ้าเกิดเป็นแกนนำ
เรื่องนี้คงเป็นเรื่องที่น่าจะต้องหลุดออกไป อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ
ส่วนความคิดที่จะมีการข้ามขั้วหรือไม่นั้น
ส่วนที่สำคัญที่สุดคือคนที่มีอำนาจตัดสินใจ กรรมการบริหารและคณะร่วมเจรจาต้องพิจารณากันให้ดี
ส่วนผมก็มีหน้าที่ต้องทำตามมติพรรค อย่างวันนี้ผมดำรงตำแหน่งแคนดิเดตนายกฯ
ผมก็ต้องเตรียมพร้อมในแง่ของเศรษฐกิจที่ทางพรรคมอบหมายมา
เรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบที่ผมยังทำอยู่ ที่สำคัญเราต้องให้เกียรติกับ 8
พรรคร่วมฯ การที่จะมีการเปลี่ยนแปลง การที่จะข้ามขั้ว หรือมีพรรคอื่นมาเสริม
ต้องให้เกียรติกับคณะเจรจา ให้ใจเย็น ๆ
นายเศรษฐา กล่าวในช่วงท้ายว่า ผลการโหวตวานนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าผิดหวังแต่เราก็ต้องยอมรับและต้องเดินต่อไป
ส่วนตัวแล้วอยากให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี
เพราะถึงอย่างไรเราก็ยังร่วมอุดมการณ์เดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
เรื่องจิตใจที่เป็นประชาธิปไตย ตรงนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ
