วันพุธที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

สมาคมข้าราชการท้องถิ่นฯ เรียกร้อง ส.ว. เคารพฉันทามติประชาชนเสียงข้างมาก ให้โอกาสประเทศไทยเดินหน้า โหวต ‘พิธา’ เป็นนายกฯ

 


สมาคมข้าราชการท้องถิ่นฯ เรียกร้อง ส.ว. เคารพฉันทามติประชาชนเสียงข้างมาก ให้โอกาสประเทศไทยเดินหน้า โหวต ‘พิธา’ เป็นนายกฯ

 

ก่อนการประชุมร่วมของรัฐสภาเพื่อโหวตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ ภาคส่วนต่าง ๆ ในสังคมได้ออกมาเรียกร้องต่อ ส.ว. ผ่านรูปแบบแถลงการณ์และจดหมายเปิดผนึก ขอให้ ส.ว. ยึดหลักการประชาธิปไตยสากล เคารพฉันทามติของประชาชน โหวตตามเสียงข้างมาก เพื่อประเทศไทยได้มีรัฐบาลตามเจตจำนงของประชาชน เช่น สมาคมข้าราชการส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย และสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย

 

สำหรับสมาคมข้าราชการส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2566 ใจความสำคัญว่า เมื่อพรรคการเมืองใดรวบรวมคะแนนเสียงของ ส.ส. ได้เกิน 250 เสียง ย่อมมีความชอบธรรมที่จะได้สิทธิในการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อเข้ามาบริหารประเทศตามเจตจำนงของประชาชนเสียงข้างมาก ตามหลักการของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

 

ส่วนประเด็นนโยบายของพรรคการเมืองที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชนนั้น เป็นเพียงนโยบายของพรรคที่เสนอต่อประชาชน ไม่ใช่เหตุที่จะนำมาเป็นเงื่อนไขในการลงคะแนนเสียงเลือกนายกฯ เนื่องจาก พรรคการเมืองที่ได้เข้ามาบริหารประเทศย่อมต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ประกอบกับการแก้ไขกฎหมายใดๆ ย่อมต้องให้สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาเป็นผู้พิจารณาเห็นชอบ รัฐบาลไม่สามารถกระทำตามอำเภอใจได้

 

นอกจากนี้ สมาคมฯ ได้มีการจัดประชุมสัมมนาทางวิชาการเมื่อวันที่ 1-2 กรกฎาคมที่ผ่านมา พบว่ามีกฎหมายและระเบียบจำนวนมากที่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่ให้บริการประชาชนในแต่ละท้องถิ่น ซึ่งจำเป็นต้องให้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาแก้ไขปรับปรุงโดยเร็วเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน

 

ดังนั้น วันที่ 13 กรกฎาคม ขอเรียกร้องให้ ส.ว. คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติโดยส่วนรวม ด้วยการลงคะแนนเสียงเลือกนายกรัฐมนตรีตามฉันทามติของประชาชนเสียงข้างมาก โหวตพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯ เพื่อมิให้ประเทศหยุดชะงัก และเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศกลับมา ให้เศรษฐกิจของประเทศก้าวเดินต่อไป รวมทั้งเพื่อจรรโลงไว้ซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

 

ขณะที่สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย เผยแพร่จดหมายเปิดผนึก ลงวันที่ 11 กรกฎาคม 2566 แสดงจุดยืน 2 ข้อต่อ ส.ว. ได้แก่ (1) ขอให้ยึดหลักการประชาธิปไตยอันสากลโลกยึดถือ คือพรรคการเมืองที่ได้รับคะแนนเสียงอันดับ 1 มีหน้าที่จัดตั้งรัฐบาลรวบรวมเสียงข้างมากให้ได้ เพื่อให้มีความชอบธรรมในการบริหารประเทศ

 

และ (2) ขอให้พรรคร่วมรัฐบาลเสียงข้างมาก ได้จัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จโดยเร็วที่สุดตามครรลองประชาธิปไตย เพื่อเปิดโอกาสให้ประเทศได้เดินหน้าต่อไปเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน

 

จดหมายเปิดผนึกทิ้งท้ายว่า หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ส.ว. ทุกคนจะตัดสินใจโดยยึดหลักการอันเป็นสากล เห็นแก่อนาคตของประเทศ ให้โอกาสประเทศไทยได้มีรัฐบาลตามเจตจำนงของประชาชน โหวตตามเสียงข้างมากของประชาชน และร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่เปิดทางสู่ประเทศไทยที่เจริญก้าวหน้ากว่านี้สำหรับลูกหลานของเราทุกคน

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #นายกคนที่30 #สวต้องฟังเสียงประชาชน #โหวตเลือกนายก