วันพฤหัสบดีที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

ที่ประชุมรัฐสภา โหวตนายกฯ ครั้งแรก “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ได้คะแนนไม่ถึง 375 เสียง เตรียมเสนอชื่อครั้งต่อไป 19 ก.ค.

 


ที่ประชุมรัฐสภา โหวตนายกฯ ครั้งแรก “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ได้คะแนนไม่ถึง 375 เสียง เตรียมเสนอชื่อครั้งต่อไป 19 ก.ค.


วันที่ 13 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้ามีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ซึ่งมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะสมาชิกรัฐสภา เข้าร่วมการประชุม ซึ่ง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่เป็นประธาน ซึ่งภายหลัง นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล เพื่อลงมติเป็นนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว


ทั้งนี้ มีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวางต่อเนื่องในเวลาที่กำหนดภาพรวมคือ 6 ชั่วโมง และกำหนดเวลาในการเริ่มลงมติตั้งแต่ 17.00 น. เป็นต้นไป โดยเป็นการลงมติแบบขานชื่อตามตัวอักษร ซึ่งการลงมติครั้งนี้ต้องได้คะแนนเสียง 375 เสียงขึ้นไป นายพิธา จึงจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นจำนวนครึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกรัฐสภา 749 คน เนื่องจากมี ส.ว. 1 คนลาออก


จากนั้นในเวลา 15.51 น. วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้กล่าวปิดการอภิปราย แล้วจึงเข้าสู่การลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีตามขั้นตอนแบบเปิดเผย คือการขานชื่อสมาชิกรัฐสภาตามตัวอักษร โดยให้โหวตว่า "เห็นชอบ หรือ ไม่เห็นชอบ หรือ งดออกเสียง" ขอให้ออกเสียงลงคะแนนในลักษณะนี้ ไม่ควรมีการพูดอะไรเพิ่มเติม ส่วนกรณีเมื่อขานชื่อแล้วไม่อยู่ในที่ประชุม จะให้โหวตต่อท้ายจากการขานชื่อครบทั้งหมดแล้ว


ต่อมาเวลา 15.58 น. ประธานรัฐสภา กดออดแจ้งให้สมาชิกรัฐสภาแสดงตนเพื่อตรวจสอบองค์ประชุม โดยที่ประชุมรัฐสภาเริ่มขานชื่อลงมติก่อนกำหนดในเวลา 16.05 น.


เมื่อผ่านเวลาไปเกือบ 2 ชั่วโมง ปิดลงคะแนนในเวลา 17.55 น. ผลการลงมติปรากฏว่า นายพิธา ได้เสียงเห็นชอบ ไม่ถึง 375 เสียง ทำให้ไม่ผ่านการโหวตนายกรัฐมนตรีในครั้งแรก ซึ่งจะมีการเสนอชื่อ นายพิธา อีกครั้งในวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 จากนั้นประธานรัฐสภา สั่งปิดประชุมในเวลา 18.25 น.


สรุปคะแนนโหวต เป็นดังนี้

เห็นชอบ รวม 324 เสียง

ไม่เห็นชอบ รวม 182 เสียง

งดออกเสียง รวม 199 เสียง


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #โหวตนายก #โหวตพิธาเป็นนายก #ประชุมสภา