วันศุกร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

นิสิต ม.เกษตร จัดชุมนุมขจัด ส.ว.ใจทราม

 


นิสิต ม.เกษตร จัดชุมนุมขจัด ส.ว.ใจทราม


วันที่ 21 กรกฎาคม 2566 เวลา 16.30 กลุ่มนิสิตนักศึกษามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และกลุ่มพรรคอาทิตย์ใหม่ จัดกิจกรรม “ขจัด ส.ว.ใจทราม” ที่บริเวณหน้าหองประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ซึ่งผู้จัดการชุมนุมได้มีการโพสต์ข้อความเชิญชวนผ่านโซเชียลมีเดียมีการแนะนำเส้นทางการเดินทาง


สำหรับพื้นที่การจัดกิจกรรมทางกลุ่มผู้จัดงานได้ใช้พื้นที่ด้านหน้าของหอประชุม มีการนำรถเครื่องขยายเสียงมาจอด เพื่อทำเป็นเวทีปราศรัยและจะให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมนั่งบริเวณถนนและสนามหญ้าหน้าอาคารหอประชุม


โดยกิจกรรมจะเริ่มในช่วงเวลา 17.00 น. เป็นต้นไป จะมีแกนนำของพรรคอาทิตย์ใหม่ ที่เป็นกลุ่มนิสิตของม.เกษตรศาสตร์ ขึ้นรถขยายเสียงปราศรัย ก่อนที่จะมีแกนนำคนอื่น ๆ ที่มาร่วมปราศรัยอีก เช่น มายด์ ภัสราวลี, สมยศ พฤกษาเกษมสุข, บอย ธัชพงศ์, และ อานนท์ นำภา รวมถึงจะมีการอ่านแถลงการณ์แสดงจุดยืนจากพรรคอาทิตย์ใหม่ รวมถึงจะมีการแสดงดนตรีสดจากวงสามัญชนด้วย


สำหรับบรรยากาศการจัดกิจกรรมเริ่มมีกลุ่มนิสิตและประชาชนทั่วไทยมาจับจองพื้นที่ในการร่วมรับฟังการปราศรัย รวมถึงยังมีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ามาจอดขายอาหารและของที่ระลึกด้วย


เวลา 18.00 น. มีการทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ คือการชักธงดำ ขึ้นสู่ยอดเสาธงรวงข้าว หน้าหอประชุมใหญ่มฟาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน และมีการเปิดเพลง "Do You Hear the People Sing?" หนึ่งเพลงประกอบภาพยนตร์ Les Miserable


ผู้ปราศรัยท่านแรก ผศ.ดร.ศรันย์ สมันตรัฐ สาขาวิชาภมูิสถาปัตยกรรมคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ : ตราบใดที่เรายังมีเสรีภาพทางวิชาการ เราก็จะมีพลังในการค้นหาความจริง และ เวลาอยู่ข้างเราก็จริง แต่เงินภาษีของเราอยู่ที่ข้างเขา อยากให้มันจบที่รุ่นเรา อย่าให้เงินภาษีของเราเป็นค่าไถ่ ช่วยกันเปลี่ยนประเทศนี้จากรังโจรให้เป็นประเทศจริง ๆ อย่าให้เป็นรังโจรที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างที่มันเป็นอยู่หรือกำลังจะเป็น


น้องกะทิ ตัวแทนจากพรรคอาทิตย์ใหม่ ม.เกษตรศาสตร์ :  19 ก.ค. 2566 เป็นวันที่ทำให้เราทุกคนรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย ทำให้เรารู้ว่า 14 ล้านเสียงของเราไม่มีความหมายเลย สิ่งที่ส.ว.ได้ทำลงไปนั้นเป็นเหมือนการดูถูกเสียงของประชาชน เป็นการไม่ให้เกียรติเสียงข้างมาก อย่างนี้เราจะกล้าพูดได้อย่างไรว่าประเทศไทยมีระบอบการปกครองอยู่ในกรอบของประชาธิปไตย


มายด์ ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล : วันนี้เรามารวมตัวกันเพราะความคับแค้นใจที่เกิดขึ้นจากรัฐสภา ความคับแค้นใจที่เกิดจากผลพวงของรัฐประหารที่มาคู่กับรัฐธรรมนูญ 60 มาด้วยความคับแค้นใจที่เราออกไปเลือกตั้งกันมาแล้ว แต่เราก็ไม่ได้รัฐบาลอย่างที่เราอยากได้ เราแบกความฝันความหวังไปเลือกตั้ง แต่สุดท้ายเราต้องมาติดล็อคที่ส.ว. 250 คน ที่เราไม่ได้เลือกมา เลือกตั้งเสร็จแล้วไม่แล้ว เลือกตั้งเสร็จแล้วต้องออกมาปกป้องคะแนนเสียงของเราอีก มันเป็นสิ่งที่เราต้องออกมาเพราะคนในสภามองข้ามหัวเรา พวกเราไม่ได้ออกมาปกป้องก้าวไกล ไม่ได้ปกป้องพิธา แต่พวกเราออกมาปกป้องผลการเลือกตั้งที่พวกเราไปเลือกมา


สมยศ พฤกษาเกษมสุข : วันนี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น แค่การอุ่นเครื่องของการชุมนุมต่อสู้ภาคประชาชน การประชุมรัฐสภาในวันที่ 13 ก.ค. 66 ได้ทำลายมติมหาชน ทำลายหลักการเสียงส่วนใหญ่ในการจัดตั้งรัฐบาลลง หมายความว่าพวกส.ว.ได้เหยียบหัวประชาชน พอมาวันที่ 19 ก.ค. ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ “พิธา” หยุดปฏิบัติหน้าที่ วันนี้ก้าวไกลส่งไม้ต่อให้เพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล 27 ก.ค.นี้ ผลการโหวต “เศรษฐา” ก็เหมือนเดิม เพราะเขาอยากให้ก้าวไกลออกไปจากการเป็นรัฐบาล ให้ไปเป็นฝ่ายค้าน เพราะฉะนั้น 8 พรรคร่วมฯ จะแตกแถวไม่ได้ ยืนหยัดต่อสู้จนกว่าจะได้นายกฯ จาก 8 พรรคร่วมฯ


บอยด์ ธัชพงศ์ แกดำ : เราต้องการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองที่เราถูกยึดอำนาจมาตลอด 9 ปี ให้เป็นขั้วทางการเมืองของรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย แต่วันนี้เรากำลังสูญเสียโอกาสหลาย ๆ เรื่อง ตอนนี้ส.ว.กำลังทำหน้าที่จัดตั้งรัฐบาลแทนส.ส. สิ่งที่ศักดินาทำตอนนี้มันเป็นการดิ้นครั้งสุดท้ายของพวกเขา พวกเราคือปีศาจแห่งกาลเวลาที่คอยหลอกหลอนพวกเขาให้หนีตายทุกวินาที


อานนท์ นำภา : นายกฯต้องมาจากฝ่ายประชาธิปไตยที่เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก และต้องไม่ใช่นายกฯฟอกขาวของเผด็จการ / มีส.ส.บางพรรคที่มาแอบอิงฝั่งประชาธิปไตย วันนี้มาบอกว่าก้าวไกลต้องเสียสละ เสียสละอะไร เขาชนะอันดับ 1 ปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 1 ส.ส.มากที่สุด / การที่เขา (ก้าวไกล) กล้าเสนอนโยบายที่แหลมคมนั่นคือการเสียสละของพวกเขาแล้ว


จากนั้นเป็นการอ่านแถลงการณ์ของพรรคอาทิตย์ใหม่ โดยยืนยัน 3 ข้อเรียกร้องของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้แก่ 1. สมาชิกวุฒิสภาต้องไม่ขัดขวาง และอนุวัติตามเจตจำนงของประชาชน ด้วยการลาออกจากตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาโดยทันที 2. พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย 8 พรรค ต้องธำรงความสามัคคีอย่างเหนียวแน่น จับมือร่วมกันเพื่อรักษาความเป็นปึกแผ่นในพรรคร่วมฝ่ายประชาธิปไตยอย่างมั่นคง และ 3. พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย 8 พรรค ต้องยึดมั่นในสัญญาข้อตกลงร่วม และไม่ลดระดับสัญญาทางนโยบายใด ๆ ที่ได้ให้ไว้แก่พี่น้องประชาชน


จบการปราศรัยเป็นการเล่นดนตรีของวงสามัญชน อาทิ เพลงเราคือเพื่อนกัน ก่อนยุติการชุมนุมและประกาศให้ผู้ชุมนุมช่วยกันเก็บขยะซึ่งเป็นภาพที่คุ้นชินในการชุมนุมที่ผ่านมา


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ม็อบ21กรกฎา66 #KUไม่เอาสว #KUสั่งให้มึงลาออก