“ชัยธวัช” ยันไม่นิ่งนอนใจ เดินหน้าตรวจสอบ
ข้อกล่าวหาเจ้าหน้าที่พรรคเรียกรับผลประโยชน์โรงงานกำจัดขยะปราจีนบุรี
ชี้เป็นคนละประเด็นกรณีคุกคามทางเพศ ยินดีสังคมตรวจสอบก้าวไกล
ทำให้องค์กรโปร่งใสมากขึ้น
วันที่
7 พฤศจิกายน 2566 ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล
แถลงข่าวกรณี วุฒิพงศ์ ทองเหลา อดีต สส.ปราจีนบุรี ของพรรค
ให้ข้อมูลระบุว่าการที่ถูกขับออกจากพรรคเป็นเพราะมีผู้ช่วย สส.
ที่ทำงานใกล้ชิดกับกรรมการบริหารพรรค เรียกรับผลประโยชน์จากโรงงานกำจัดขยะใน
จ.ปราจีนบุรี
ชัยธวัชกล่าวว่า
เรื่องดังกล่าวกระทบสร้างความเสียหายต่อพรรค จึงขอชี้แจงเป็น 4 ประเด็นดังนี้
หนึ่ง
ทางผู้บริหารพรรคได้รับทราบข้อมูลที่วุฒิพงศ์ร้องเรียน
ในระหว่างที่วุฒิพงศ์แก้ข้อกล่าวหากรณีคุกคามทางเพศ
โดยวุฒิพงศ์พยายามนำเรื่องนี้มาโต้แย้งว่าข้อร้องเรียนกรณีคุกคามทางเพศ
มีแรงจูงใจจากผลประโยชน์ทางการเมือง
จึงยืนยันว่าพรรคไม่ได้นิ่งนอนใจ
เมื่อผู้บริหารของพรรคทราบเรื่อง
ได้แจ้งกับกรรมการวินัยของพรรคว่าเรื่องนี้ต้องพิจารณาแยกจากกันเพราะเราเห็นว่าข้อเท็จจริงเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาข้อกล่าวหาคุกคามทางเพศ
ต่อให้ข้อกล่าวหาเรื่องเจ้าหน้าที่ของพรรครับผลประโยชน์
เป็นแรงจูงใจให้ร้องเรียนวุฒิพงศ์ เป็นความจริง
ก็ไม่ได้ทำให้ข้อกล่าวหาเรื่องการคุกคามทางเพศหายไป
สอง
ตนและผู้บริหารพรรคได้แจ้งกับคณะกรรมการวินัยหลายสัปดาห์แล้วว่า
เมื่อพิจารณาเรื่องคุกคามทางเพศเสร็จ
ต้องดำเนินการสอบสวนข้อกล่าวหาเรื่องเจ้าหน้าที่ของพรรครับผลประโยชน์จากโรงงานกำจัดขยะต่อทันที
ขณะนี้จึงอยู่ระหว่างดำเนินการ
สาม
ต้องยืนยันว่าการที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ช่วย สส. ของกรรมการบริหารพรรค
ซึ่งคือเบญจา แสงจันทร์ ไม่ส่งผลต่อการพิจารณาข้อกล่าวหากรณีคุกคามทางเพศ
เนื่องจากเบญจาไม่ได้มีส่วนร่วมในกระบวนการ ไม่ได้เป็นกรรมการวินัย
และเมื่อผลการพิจารณาของคณะกรรมการวินัยส่งมาถึงคณะกรรมการบริหารพรรค
เบญจาก็ของดออกเสียง เพราะทราบแล้วว่าถูกกล่าวหาว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนในเรื่องนี้
ในขณะที่กรรมการบริหารพรรคคนอื่นมีมติเป็นเอกฉันท์เห็นว่าวุฒิพงศ์มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศจริง
ทั้งนี้
ข้อเท็จจริงที่วุฒิพงศ์นำมากล่าวหา ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเบญจาเลย ถ้ามี
พรรคพร้อมรับข้อมูลเพิ่มเติมแน่นอน
สี่
การแต่งตั้งบุคคลที่ถูกกล่าวหาดังกล่าว เป็นผู้ช่วย สส. ของเบญจา
ไม่ได้เกิดขึ้นจากความสัมพันธ์ส่วนบุคคลระหว่างเบญจาและบุคคลที่ถูกกล่าวหา
แต่เบญจาแต่งตั้งเพราะพรรคนำเสนอรายชื่อให้แต่งตั้ง
เนื่องจากเห็นว่าเป็นคณะทำงานใน จ.ปราจีนบุรี ที่ทำงานกับพรรคอย่างแข็งขันตั้งแต่ต้น
จึงนำเสนอให้ สส. จำนวนหนึ่ง แต่งตั้งคนทำงานในแต่ละพื้นที่แต่ละจังหวัด
อย่างไรก็ตาม
เมื่อเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการสอบสวน
เบญจาได้นำรายชื่อของบุคคลที่ถูกกล่าวหาออกจากการเป็นผู้ช่วย สส. แล้ว
เพื่อไม่ให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อนใดๆ ในการพิจารณา
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีคณะกรรมาธิการอุตสาหกรรม
สภาผู้แทนราษฎร จะตรวจสอบเรื่องนี้ ชัยธวัชกล่าวว่า ตนยินดี
เพราะเครือข่ายผลประโยชน์ที่หากินกับบ่อขยะหรือขยะอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก
เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลและนักการเมืองบ้านใหญ่เต็มไปหมด จึงยินดีหาก กมธ.อุตสาหกรรมฯ
จะช่วยสอบสวน
ส่วนการทำงานพื้นที่ใน
จ.ปราจีนบุรี เขต 2
เนื่องจากยังมีพี่น้องประชาชนที่ต้องการทำงานกับพรรคต่อไป
เมื่อไม่มี สส.เขตของก้าวไกลแล้ว จึงมอบหมายให้ อภิชาติ ศิริสุนทร
เลขาธิการของพรรค ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการที่ดินฯ
รับผิดชอบประเด็นที่ยังต้องแก้ปัญหาให้ประชาชน โดยเฉพาะเรื่องที่ดิน บ่อขยะ
และมลพิษต่าง ๆ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญในพื้นที่
ชัยธวัชกล่าวว่า
ทุกองค์กรเมื่อมีสังคมช่วยตรวจสอบ จะทำให้องค์กรนั้นโปร่งใสขึ้น
ถือเป็นเรื่องที่ดี หากเมื่อไรสังคมเลิกตรวจสอบพรรคก้าวไกล
แสดงว่าสังคมไม่ได้คาดหวังอะไรกับพรรคอีกแล้ว