วันพุธที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

กมธ.การเกษตรฯ รับหนังสือร้องเรียน กรณีทำลายเนื้อหมูเถื่อนส่อพิรุธ เรียกดีเอสไอให้ข้อมูลความคืบหน้าคดีสัปดาห์หน้า ยัน ต้องมีคนรับผิดชอบ หวั่นปมอธิบดีดีเอสไอถูกย้าย คนใหม่จะทำงานได้เต็มที่หรือไม่

 


กมธ.การเกษตรฯ รับหนังสือร้องเรียน กรณีทำลายเนื้อหมูเถื่อนส่อพิรุธ เรียกดีเอสไอให้ข้อมูลความคืบหน้าคดีสัปดาห์หน้า ยัน ต้องมีคนรับผิดชอบ หวั่นปมอธิบดีดีเอสไอถูกย้าย คนใหม่จะทำงานได้เต็มที่หรือไม่


วันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 ศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย ณรงเดช อุฬารกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และ ญาณธิชา บัวเผื่อน สส.จันทบุรี พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการ ร่วมรับหนังสือจากไทกร พลสุวรรณ ที่ร้องเรียนให้ กมธ.การเกษตรฯ ใช้อำนาจตรวจสอบการทำงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงการคลังเกี่ยวกับประเด็นหมูเถื่อน หลังพบพิรุธในการดำเนินการทำลายเนื้อหมู และผลกระทบจากการนำเนื้อหมูไปฝังกลบในพื้นที่ที่ยังไม่ได้รับฟังความเห็นของประชาชน เช่น สระแก้ว ปราจีนบุรี เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 กฎกระทรวงว่าด้วยการกำจัดมูลฝอยติดเชื้อ พ.ศ. 2545 และ พ.ร.บ. โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 รวมถึงความไม่เป็นธรรมในการบริหารราชการของนายกรัฐมนตรี 


ศักดินัย กล่าวว่า ในฐานะประธาน กมธ.การเกษตรฯ พร้อมเป็นกลไกหนึ่งในการทำหน้าที่เพื่อพี่น้องประชาชน แม้ขณะนี้่อยู่ในช่วงปิดสมัยประชุมสภาฯ แต่ยังมีกลไก กมธ. สามารถเร่งดำเนินการตรวจสอบ นัดหมายผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง ทำเรื่องนี้ให้กระจ่างและหาคนรับผิดชอบให้ได้


โดยหลังจากนี้ กมธ.การเกษตรฯ จะดำเนินการ 3 เรื่องสำคัญ คือ (1) ตรวจสอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการนำหมูเถื่อนเข้ามาในประเทศ ว่าจะยกระดับการทำงานอย่างไร ทั้งกรมศุลกากรซึ่งเป็นด่านแรก กรมปศุสัตว์ กรมประมง (2) ติดตามแนวทางการทำลายเนื้อหมู หลังจาก รมว.เกษตรฯ ระบุว่าจะทำลายในทางลับ ส่งผลให้ประชาชนหลายพื้นที่ประท้วงและไม่ยอมให้ดำเนินการ (3) ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ ที่มีส่วนรู้เห็นเป็นใจในการทำผิดกฎหมาย 


โดย กมธ. จะติดตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง สัปดาห์ต่อไปมีการนัดหมายดีเอสไอเข้ามาให้ข้อมูลเกี่ยวกับคดีว่าคืบหน้าไปถึงไหน เหตุใดเมื่อวานนี้ (28 พ.ย.) จึงมีมติ ครม. ย้ายอธิบดีดีเอสไอ นอกจากนี้ อีกข้อสังเกตที่สำคัญ คือการลักลอบนำเข้าหมูจากต่างประเทศ สะท้อนว่าต้นทุนการผลิตของไทยสูงกว่ามาก กมธ.การเกษตรฯ กังวลเกี่ยวกับผลกระทบในการประกอบอาชีพของเกษตรกรรายย่อย 


ด้านณรงเดช กล่าวว่า การย้ายอธิบดีดีเอสไอหลังจากเข้าตรวจห้างขนาดใหญ่ เป็นการส่งสัญญาณที่ไม่ดี ข้าราชการคนต่อไปที่มารับผิดชอบอาจกังวลว่าถ้ามีการตรวจผู้ค้ารายใหญ่ จะสามารถทำงานได้เต็มที่หรือไม่ รวมถึงตอนนี้ที่ยังไม่มีอธิบดีคนใหม่ อาจทำให้เกิดสุญญากาศในการทำงาน แนวทางการทำงานหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร เช่น ที่อธิบดีคนเดิมเคยระบุว่าต้องมีการดำเนินคดีกับบริษัทห้างค้าปลีกค้าส่งเจ้าใหญ่ จะยังยึดแนวทางนี้หรือไม่ ส่วนการทำลายหมูเถื่อนจำนวน 140 ตู้ น่าสงสัยว่าเหตุใดต้องใช้วิธีลับ ในเมื่อหน่วยงานรัฐควรทำเรื่องนี้ให้ชัดเจนต่อสาธารณชน


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ 

#หมูเถื่อน