วันพุธที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

ผู้นำอังกฤษพร้อมต้อนรับ นายกฯ เศรษฐา เล็งเซ็น MOU การค้าการลงทุน หุ้นส่วน ศก. ต่อยอด FTA 2 ประเทศ

 


ผู้นำอังกฤษพร้อมต้อนรับนายกเศรษฐา เล็งเซ็น MOU การค้าการลงทุน หุ้นส่วน ศก. ต่อยอด FTA 2 ประเทศ


วันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 นางนลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยภายหลังการหารือกับนายเบน มอร์ลีย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการค้าระหว่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย ว่า นายริชี ซูแน็ก นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร พร้อมต้อนรับนายกรัฐมนตรีไทยในการเยือนสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปีหน้า โดยคาดว่าการเยือนครั้งนี้จะช่วยสร้างเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น และเป็นโอกาสที่ผู้นำจะได้หารือกันถึงประเด็นต่าง ๆ เช่น การส่งเสริมการค้าการลงทุน สิทธิมนุษยชน และการขจัดความยากจน นอกจากนี้ ยังสามารถจัดทำบันทึกความเข้าใจ หรือ MOU ด้านการลงทุนและวิธีการศุลกากรระหว่างไทย-สหราชอาณาจักร และความร่วมมือการเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่แน่นแฟ้น (ETP) ร่วมกัน ซึ่งจะต่อยอดไปสู่การจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างกันต่อไป โดยล่าสุดรัฐบาลสหราชอาณาจักรได้ปรับคณะรัฐมนตรี เช่น นายเดวิด คาเมรอน อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาดำรงตำแหน่ง รมว.การต่างประเทศ นายมาร์ติน เคนต์ เป็นผู้แทนการค้าอังกฤษประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และนายเกร็ก แฮนส์ รมต.ด้านธุรกิจและการค้า ซึ่งมีกำหนดจะเดินทางมาเยือนภูมิภาคอาเซียนภายในเดือน พ.ย.นี้ รวมถึงประเทศไทยด้วย


ผู้แทนการค้าไทย กล่าวว่า สหราชอาณาจักรจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในปีหน้า จึงอาจส่งผลต่อการหารือ FTA อยู่บ้าง แต่กลไกการประชุมคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจและการค้า (JETCO) จะช่วยให้การเจรจาดำเนินต่อไปได้ตามกำหนดที่วางไว้ สำหรับอุตสาหกรรมที่สหราชอาณาจักรมีศักยภาพ คือ การผลิตรถยนต์ โดยมีการตั้งโรงงานและพัฒนาทักษะให้กับแรงงานควบคู่กันไปด้วย ซึ่งขณะนี้สหราชอาณาจักรให้ความสำคัญกับการกระจายความเสี่ยงของห่วงโซ่อุปทานไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย และยังเห็นถึงโอกาสในการลงทุนด้านการศึกษาในไทยอีกด้วย โดยตนได้เชิญชวนให้บริษัทของสหราชอาณาจักรเข้ามาลงทุนเพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่น การลงทุนในพื้นที่ EEC และไทยยังได้เปรียบทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งสามารถเป็นประตูสู่ตลาดอื่น เช่น อินเดีย เป็นต้น


"ท่านนายกฯ เศรษฐา ให้ความสำคัญกับเรื่องการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ จึงมีการตั้งคณะกรรมการที่มี ศ.พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ เป็นประธาน ซึ่งได้มีการประชุมนัดแรกไปแล้ว โดยสหราชอาณาจักรและอีกหลายประเทศให้ความสนใจเรื่องกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ภาษีทรัพย์สิน การจัดทำ Business Visa ฯลฯ ซึ่งคาดว่าหลายเรื่องจะมีความคืบหน้าและเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจของนักธุรกิจต่างชาติ และการเจรจาการค้าการลงทุนเพื่อดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนในไทยต่อไป" นางนลินี กล่าว


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #รัฐบาลเศรษฐา