“ก้าวไกล”
เป็นเจ้าภาพจัดประชุมเครือข่ายพรรคการเมืองแนวสังคมประชาธิปไตยในเอเชียแปซิฟิก
“พิธา” ปาฐกถานำ ยกชัยชนะของก้าวไกลพิสูจน์แนวคิดก้าวหน้าก็ชนะเลือกตั้งได้
วันที่
17 พฤศจิกายน 2566 ที่อาคารรัฐสภา พรรคก้าวไกล
เป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุม “SocDem Asia Pacific - Progressive Alliance
Conference 2023 : The Future of Democracy : Realizing People Power” (การประชุมเครือข่ายสังคมประชาธิปไตยเอเชียแปซิฟิก - พันธมิตรฝ่ายก้าวหน้า 2023
: อนาคตประชาธิปไตยและการทำให้อำนาจประชาชนปรากฏเป็นจริง)
ซึ่งเป็นการประชุมร่วมของเครือข่ายความร่วมมือระหว่างพรรคการเมืองแนวสังคมประชาธิปไตยในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ที่พรรคก้าวไกลเป็นหนึ่งในพรรคการเมืองที่เป็นสมาชิกเครือข่าย
โดยมีตัวสมาชิกจากพรรคการเมืองฝ่ายก้าวหน้าจากหลากหลายประเทศเข้าร่วม ได้แก่
มองโกเลีย,
มาเลเซีย, อินเดีย, เนปาล,
นิวซีแลนด์, สวีเดน, ซิมบับเว,
บราซิล, ตุรกี, เดนมาร์ก,
ฟิลิปปินส์, อาร์เจนตินา เป็นต้น
โดยในช่วงเช้าของการประชุม
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล
ได้เป็นผู้กล่าวปาฐกถานำในการประชุมวันนี้ โดยในช่วงหนึ่งของปาฐกถา
พิธาระบุว่าชัยชนะของพรรคก้าวไกล คือข้อพิสูจน์ว่าพรรคการเมืองแนวสังคมประชาธิปไตย
และความคิดที่ก้าวหน้าเป็นธรรม ก็สามารถชนะการเลือกตั้งได้
พรรคก้าวไกลประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง
ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนถึง 40% ทำการเมืองแบบที่ไม่ต้องใช้ทุนมหาศาลหรือกลุ่มทุนมาหนุนหลังล้อบบี้
โดยที่ไม่เสียความเป็นตัวตน
ทุกคุณค่าและนโยบายที่เรานำเสนอต่อประชาชนคือแนวคิดสังคมประชาธิปไตย
คือความคิดที่ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจไม่จำเป็นต้องเป็นแบบบนลงล่างหรือขวาจัด
และการเติบโตทางเศรษฐกิจกับความเท่าเทียมเป็นธรรมเป็นสิ่งที่ไปด้วยกันได้
พิธากล่าวต่อไป
ว่าอย่างไรก็ตามข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้
คือพื้นที่ประชาธิปไตยทั่วโลกกำลังหดแคบลง
แม้แต่ในสหรัฐอเมริกาที่ตนเพิ่งเดินทางกลับมา
ตนได้เจอหนังสือเล่มหนึ่งที่น่าสนใจคือ Tyranny of the Minority ที่เกี่ยวกับปรากฏการณ์ความถดถอยของประชาธิปไตยในสหรัฐอเมริกา
ว่าคนส่วนน้อยรวมตัวกันเอาชนะเสียงส่วนมากได้ด้วยวิธีการใดบ้าง
นั่นทำให้ตนนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทย
ที่มีกติกาที่ฉ้อฉล ใช้รัฐธรรมนูญเป็นเครื่องมือทางการเมือง เสียงส่วนน้อยอย่าง
สว. ที่เพียงไม่เข้าประชุมไม่กี่คนก็สามารถล้มแคนดิเดตที่มาจากการเลือกตั้งได้
การปกครองด้วยกฎหมายแต่ไม่มีนิติรัฐ ดูแต่ตัวบทแต่ไม่ดูเจตนารมณ์
เหมือนกับการที่ตนต้องถูกให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่
พิธากล่าวต่อไปว่า
คำถามคือเราจะสู้กับคนส่วนน้อยและการสถาปนาสถาบันของคนส่วนน้อยขึ้นมาแบบนี้ได้อย่างไร
สำหรับตนแล้วคำตอบคือเราจะต้องชนะมากกว่านี้ ทั้งในการเลือกตั้งและในทางความคิด
นี่คือเหตุผลที่เรามารวมตัวกันที่นี่ พวกเราทุกคนต้องการชนะมากกว่านี้ และนั่นคือเป้าหมายในอนาคตพรรคก้าวไกลเช่นเดียวกัน
ที่จะต้องชนะได้มากกว่า 251
เสียง
เพื่อไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลที่มีแนวคิดสังคมประชาธิปไตยเป็นแนวความคิดหลักในประเทศไทยให้ได้ในที่สุด
“เราต้องชนะทางความคิด เศรษฐกิจจากเบื้องล่าง การเติบโตแบบมีส่วนร่วม
ขจัดการผูกขาด ทลายการรวมศูนย์อำนาจ นี่คือความคิดนำใหม่ที่เรากำลังสู้ให้ชนะ
ในวันข้างหน้าชัยชนะของทุกคนก็คือชัยชนะของเราด้วย เราจะชนะไปด้วยกัน
สร้างสังคมที่เป็นธรรมและก้าวหน้าไปด้วยกัน” พิธากล่าว
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เอเชียแปซิฟิก #ก้าวไกล #พิธาลิ้มเจริญรัตน์