วันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

“รมว.ดีอีเอส” ย้ำกับ สภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน (USABC) “รัฐบาล” เดินหน้าขยายความร่วมมือด้านเทคโนโลยีดิจิทัลไทย ชูแผน 3 ระยะ เตรียมพร้อมก้าวสู่การเป็นจุดหมายการค้าและการลงทุนของอุตสาหกรรมดิจิทัลบนเวทีโลก

 


“รมว.ดีอีเอส” ย้ำกับ สภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน (USABC) “รัฐบาล” เดินหน้าขยายความร่วมมือด้านเทคโนโลยีดิจิทัลไทย ชูแผน 3 ระยะ เตรียมพร้อมก้าวสู่การเป็นจุดหมายการค้าและการลงทุนของอุตสาหกรรมดิจิทัลบนเวทีโลก 


วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยถึงการหารือร่วมกับ H.E. Ambassador Brian D. McFeeters (ret.) รองประธานอาวุโสและผู้อำนวยการภูมิภาคของสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน (U.S. - ASEAN Business Council: USABC) และคณะนักธุรกิจสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา – อาเซียน ในโอกาสการเยือนประเทศไทยและเข้าเยี่ยมคารวะเพื่อหารือความร่วมมือด้านเทคโนโลยีดิจิทัลของประเทศไทยกับ USABC พร้อมฟังนโยบายภาพรวมและเป้าหมายการดำเนินงานของรัฐบาลและกระทรวง ด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล ความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างสหรัฐอเมริกาและไทย รวมทั้งโอกาสในการเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 ว่า ได้ยืนยันกับผู้แทน USABC ถึงแนวทางของรัฐบาลที่มีกรอบนโยบายในทุกมิติ ทัั้งระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว เพื่อยกระดับความปลอดภัยในชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีเพื่อผลักดันไปสู่การสร้างเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นจุดหมายการค้าและการลงทุนของอุตสาหกรรมดิจิทัลบนเวทีโลก 


ระยะสั้น คือ การมุ่งเน้นการกระตุ้นการใช้จ่าย และเร่งแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของประชาชนอย่างเร่งด่วนและรวดเร็ว ซึ่งกระทรวงฯ มีบทบาทสำคัญในการเร่งรัดการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน หนึ่งในภารกิจเร่งด่วนที่สำคัญ คือ การผลักดันการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาการหลอกลวงผ่านสื่อออนไลน์ (Online scam) โดยได้ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti-Online Scam Operation Center: AOC) เพื่อให้มีการดำเนินการในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ เป็นศูนย์แบบ One Stop Service สามารถดำเนินการปิดกั้นอายัดบัญชีให้แก่ประชาชนได้ทันที


สำหรับกรอบนโยบายระยะกลางและระยะยาว รัฐบาลมีเป้าหมายในการเสริมขีดความสามารถให้กับประชาชน ผ่านการสร้างรายได้ ลดรายจ่าย สร้างโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับประชาชนทุกคน กระทรวงฯ จึงได้กำหนดนโยบายในการเป็นเครื่องยนต์ใหม่ของประเทศไทย “The Growth Engine of Thailand” เพื่อเป้าหมายที่สำคัญ 3 ด้าน คือ 1.การยกระดับขีดความสามารถด้านดิจิทัลในการสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันของประเทศ (Thailand Competitiveness) มุ่งเน้นการใช้ประโยชน์ของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล โดยผลักดันนโยบาย Go Cloud First ส่งเสริมให้มีการใช้ Public Cloud มุ่งเน้นการขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและเชื่อมโยงบริการภาครัฐ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการประชาชน และอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจ 2.การสร้างความมั่นคงและปลอดภัยของเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล (Safety & Security) ให้ความสำคัญในการป้องกันและการเตรียมความพร้อมให้กับประชาชนให้มีความปลอดภัยในการดำรงชีวิตและการประกอบธุรกิจ และเตรียมความพร้อมภาครัฐและภาคเอกชนในด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ 3.การเพิ่มศักยภาพทุนมนุษย์ของประเทศด้านดิจิทัล (Human Capital) เร่งสร้างกำลังคนวิชาชีพดิจิทัล ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลให้มีความก้าวหน้าและเข้มแข็ง รวมถึงการพัฒนาให้ประชาชนได้รับการพัฒนาความรู้ ความสามารถ และทักษะด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลที่เหมาะสม เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงไปสู่เศรษฐกิจใหม่


นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันกระทรวงฯ อยู่ระหว่างการขยายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศ ทั้งทางบกและทางทะเล มีระบบเคเบิลภาคพื้นข้ามพรมแดน (Cross-border terrestrial cables) และระบบเคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศ (International submarine cables) ให้บริการเชื่อมต่อระบบสื่อสารเชื่อมโยงกับประเทศอื่น ๆ ทั้งในเอเชียและยุโรป เพื่อให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในเส้นทางดิจิทัลที่มีศักยภาพของโลก รวมถึงเร่งสร้างให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายการค้าและการลงทุนของอุตสาหกรรมดิจิทัลในเวทีโลก (Advanced Digital Technology Destination) ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลให้เอื้อต่อการต่อยอดอุตสาหกรรมเดิมและรองรับอุตสาหกรรมใหม่ และเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจ ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินโครงการไทยแลนด์ดิจิทัลวัลเล่ย์ การส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรม Cloud Innovation & Service และ Data Center บนฐานพลังงานสะอาด และการจัดทำ (ร่าง) มาตรการส่งเสริมการลงทุนและการใช้ประโยชน์เทคโนโลยี 5G ที่สนับสนุนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ และการพัฒนาศักยภาพกำลังคน


“การหารือกันกับรองประธานอาวุโสและผู้อำนวยการภูมิภาคของสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน และคณะนักธุรกิจสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา – อาเซียน ในวันนี้ถือเป็นโอกาสดี ในการที่จะนำไปสู่ความร่วมมือทางด้านการพัฒนากำลังคน การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมถึงการลงทุนในประเทศไทยเพื่อที่จะก้าวไปสู่ประเทศผู้นำด้านเทคโนโลยีดิจิทัลในอนาคต” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส กล่าวย้ำ


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #กระทรวงดีอี