“สมคิด” ไม่รู้ ปมเด้งอธิบดี DSI เซ่นหมูเถื่อน เชื่อ
นายกฯ - รมว.ยุติธรรม พร้อมชี้แจง แจ้ง พท.ไม่เริ่มต้นนิรโทษ
เหตุบาดแผลเรื่องนี้เพิ่งตกสะเก็ด แนะ“ก้าวไกล” อยากดัน ก.ม.สำเร็จ
หัดหาพวกไว้เยอะ ๆ
วันนี้
(29 พฤศจิกายน 2566) นายสมคิด เชื้อคง
รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง กล่าวถึงการโยกย้าย พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล
พ้นจากอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ซึ่งหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ
เพราะเรื่องหมูเถื่อนเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานว่า รายละเอียดการโยกย้ายไม่ทราบ โดยเรื่องหมูเถื่อนไม่ได้เกิดขึ้นในเร็ว
ๆ นี้ แต่เป็นปัญหามา 2 ปีแล้ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการมาแล้ว จึงพอเข้าใจรายละเอียด เรามาแก้ปัญหา
หากดำเนินการเช่นนี้ไปจนถึงเดือนมกราคม หมูเป็นของพี่น้องเกษตรกรจะขึ้นราคา จาก 50-60
บาทต่อกิโลกรัม เป็น 90 บาทต่อกิโลกรัม
ทำให้พี่น้องเกษตรกรพออยู่ได้
นายสมคิด
ย้ำว่าเรื่องการย้ายอธิบดี DSI ไม่ทราบจริง ๆ ว่าเกิดจากอะไร
รู้พร้อมสื่อมวลชน เพราะสัปดาห์ก่อนยังทำงานด้วยกันดีอยู่
ส่วนจะเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่นั้น ไม่ทราบ เพราะแนวทางการทำงาน DSI ได้เร่งรัดการทำงานแล้ว
ทั้งนี้ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการรายใหญ่นั้น
คงไม่ใช่เพราะเรื่องนี้เกิดมานานแล้ว ในรายละเอียด DSI รู้หมดว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง
บริษัทต่าง ๆ ก็รู้หมด ตนเองก็พอทราบ
เพราะมีการแจ้งในที่ประชุมลับว่ามีบริษัทใดบ้าง ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับบริษัทใหญ่
แต่เป็นบริษัทการนำเข้าต่าง ๆ ซึ่งที่ไม่ประกาศออกไปเพราะ
ปปง.กำลังเช็คเส้นทางเงิน ทำงานในทางลับอยู่ ไม่น่าเกี่ยวกับร้านใหญ่
น่าจะมีองค์ประกอบหลายเรื่องมารวมกัน ส่วนที่พรรคก้าวไกลไล่บี้เรื่องนี้
เราก็พร้อมชี้แจงไม่มีปัญหา เป็นหน้าที่ของพรรคก้าวไกล หากไม่ไล่บี้ก็แปลก
เชื่อว่านายกรัฐมนตรี และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
จะตอบได้
ส่วนเรื่องนิรโทษกรรมที่พรรคก้าวไกลระบุว่า
พรรคเพื่อไทยไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ นายสมคิด กล่าวว่า
ความจริงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
และเชิญทุกพรรคการเมือง มาประชุมหารือกัน ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีบาดแผลอยู่
จึงขออย่าให้พรรคเพื่อไทยเป็นผู้เริ่มต้นเลย เพราะไม่รู้ว่ากลุ่มอื่นๆ
จะว่าอย่างไร จึงได้พูดในที่ประชุมขอให้ทุกพรรคการเมืองไปพูดคุยกับวิปรัฐบาล
โดยตนเองจะอาสาเป็นผู้ประสานงานให้ ส่วนในรายละเอียดค่อยไปหารือกันอีกครั้ง
ยืนยันพรรคเพื่อไทยจะไม่เริ่มต้นกฎหมายนิรโทษกรรมแต่ไม่เคยคิดจะขัดขวาง หรือไม่เห็นด้วย
และไม่ได้ละเลยเรื่องนี้ พรรคเพื่อไทยได้เริ่มพูดคุยกันเรื่องนี้มาสองสัปดาห์แล้ว
ว่าจะเดินหน้าอย่างไร พร้อมย้ำว่าหากพรรคก้าวไกลจะเป็นผู้เริ่มต้น
พรรคเพื่อไทยยินดีจะเป็นผู้ดูแลช่วยเหลือ แต่จะต้องไปพูดกับทุกพรรคการเมืองด้วยกัน
ไม่ใช่ให้พรรคเพื่อไทยออกหน้า
“อะไรที่เคยตกลงกับพรรคก้าวไกล กฎหมายอะไรที่มีความเห็นตรงกัน
ก็ช่วยกันสนับสนุน อาทิกฎหมายสมรสเท่าเทียม
กฎหมายไหนที่เห็นขัดแย้งกันก็สามารถหารือกันได้ ยินดีที่จะร่วมมือกัน
ซึ่งไม่ได้เห็นตรงกันทุกเรื่อง“
อย่างไรก็ตามนายสมคิด
ยอมรับว่า ได้รับร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของพรรคก้าวไกล และร่างของภาคประชาชนแล้ว
ซึ่งมีทั้งจุดดีและจุดด้อย
และได้มีการพูดคุยว่าหากดำเนินการตามข้อเสนอไม่ได้ทั้งหมดจะทำอย่างไร โดยเฉพาะ
การนิรโทษกรรมนักโทษในคดี 112
ให้เตรียมไปคุยกับพวกพรรคการเมืองจึงจะผ่านไปได้
ส่วนตัวเห็นด้วยกับ
พรบ.นิรโทษกรรม
และเชื่อว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรทันสมัยการประชุมนี้
จึงอยากให้ทุกฝ่ายไปพูดคุยกับวิปรัฐบาลก่อนจะปิดสมัยประชุม
แต่ในพรรคเพื่อไทยไม่ได้พูดคุยกันเรื่องนี้เพราะรอฟังความเห็นจากทุกพรรคการเมืองก่อน
หากเสียงส่วนใหญ่มีแนวทางอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น ไม่ใช่ว่าเราเลี่ยง
ย้ำว่าพรรคเพื่อไทยไม่ขัดขวางและพร้อมให้การสนับสนุน