“ดีอี”
ลุย Big
Data เดินหน้าตั้ง “สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่”
รองรับการเติบโตเศรษฐกิจดิจิทัลพร้อมเพิ่มความสามารถด้านดิจิทัล 7 ระดับให้บุคลากรทั้งภาครัฐและเอกชน
วันที่
30 พฤศจิกายน 2566 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี)
กล่าวเปิดงานและปาฐกถาพิเศษ ‘โครงการอบรมการป้องกันความปลอดภัย ข้อมูลคอมพิวเตอร์
ครั้งที่ 22 (Cyber Defense Initiative Conference) หรือ CIDC 2023 ว่า
รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการพัฒนาระบบดิจิทัลของประเทศ
โดยมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล
ผลักดันไทยเป็นรัฐบาลดิจิทัล ใช้เทคโนโลยียกระดับชีวิต เศรษฐกิจ
และความโปร่งใสของภาครัฐ รวมถึงการจัดเก็บฐานข้อมูลในระดับภาพรวม
ซึ่งมีความสำคัญในการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยกระทรวงดีอี
ได้จัดตั้ง สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ Big Data Institute
(Public Organization) หรือ BDI โดยมี
คณะกรรมการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ เป็นผู้ดูแลและดำเนินภารกิจ
นายประเสริฐ
กล่าวว่า BDI
มีวัตถุประสงค์เพื่อการจัดทำยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์ข้อมูลขนาดใหญ่
เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศต่อไป อย่างไรก็ตาม
การใช้ข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมนั้นต้องทำควบคู่ไปกับการเคารพในสิทธิของข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชน
จึงต้องส่งเสริมให้ภาครัฐและภาคเอกชน มีความรู้ด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal
Data Protection Act: PDPA) และเตรียมพร้อมรองรับการบังคับใช้ในเรื่องนี้ให้ทัดเทียมมาตรฐานสากล
นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนด้านดิจิทัลความร่วมมือในระดับประเทศและระดับนานาชาติ
สอดคล้องกับแนวคิด UN
Global Digital Compact (GDC) ของสหประชาชาติ โดยมี
นโยบายการพัฒนาบุคคลกรทั้งในระดับประเทศ ระดับหน่วยงาน/องค์กร และระดับบุคคล
ในเรื่อง ทักษะด้านดิจิทัล
เพื่อให้มีขีดความสามารถและความพร้อมในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เกิดประโยชน์สูงสุด ในส่วนนี้ได้มีการริเริ่มกลุ่มเป้าหมายที่เป็นบุคลากรภาครัฐ
ทั้งนี้ ได้พัฒนาความสามารถของทักษะด้านดิจิทัล แบ่งเป็น 7
กลุ่มความสามารถ ได้แก่
กลุ่มที่
1 Digital
Literacy : ความสามารถด้านความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทัล
กลุ่มที่
2 Digital
Governance, Standard, and Compliance : ความสามารถ
ด้านการควบคุมกำกับ และ การปฏิบัติตามกฎหมาย นโยบาย
และมาตรฐานการจัดการด้านดิจิทัล
กลุ่มที่
3 Digital
Technology : ความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อยกระดับศักยภาพองค์กร
กลุ่มที่
4 Digital
Process and Service Design : ความสามารถด้านการออกแบบกระบวนการและการให้บริการด้วยระบบดิจิทัล
กลุ่มที่
5
Strategic and Project Management : ความสามารถด้านการบริหารกลยุทธ์และการจัดการโครงการ
กลุ่มที่
6 Digital
Leadership : ความสามารถด้านผู้นำดิจิทัล
กลุ่มที่
7 Digital
Transformation : ความสามารถด้านการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล
นายประเสริฐ
กล่าวว่า ทั้งหมดนี้ ถือเป็นวาระแห่งชาติ
ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลและสังคมดิจิทัล โดยรัฐบาล กระทรวงดีอี
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเร่งดำเนินการขับเคลื่อนในมิติต่าง ๆ
ทั้งด้านเทคโนโลยีดิจิทัลด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์และด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
สู่ความยั่งยืนในการสร้างคุณค่าและระบบนิเวศน์ด้านดิจิทัลของประเทศ
“ปัจจุบันไทยยังขาดแคลนบุคลากรมีทักษะและความรู้ด้านดิจิทัล
รัฐบาลต้องหามาตรการเพื่อกระตุ้นการพัฒนาทักษะดิจิทัล ที่จะเป็นกำลังสำคัญในอนาคต
เพาะเมล็ดพันธุ์ดิจิทัล สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย
ส่งเสริมเยาวชนให้มีทักษะที่จำเป็นในอนาคต และเติมเต็มสาขาขาดแคลน เพื่อรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืน
รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมกล่าว