นายกฯ
เปิดงาน Thailand
Winter Festival และ Colorful Bangkok Winter Festival หวังเป็นหนึ่งในกลไกกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงดูดนักท่องเที่ยว ย้ำเป้าหมาย
ประเทศไทยจะต้องเป็นผู้นำด้าน Festival ของโลก
วันนี้
(10 พฤศจิกายน 2566) เวลา 10.00 น.
ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน
นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการแถลงข่าวและพิธีเปิดงาน
“Thailand Winter Festival 2566” โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน
รองนายกรัฐมนตรี นายปานปรีย์ พหิทธานุกร
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นางสาวแพทองธาร ชินวัตร
รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และผู้แทนภาคส่วนต่าง ๆ
เข้าร่วม
นายชัย
วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า
นายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะทำให้เทศกาล Thailand Winter
Festival และ Colorful Bangkok Winter Festival เป็นหนึ่งในกลไกที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ
ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เลือกที่จะมาท่องเที่ยวในประเทศไทย
ด้วยงานเทศกาลที่มีมากกว่า 3,000 งาน และกว่า 200 งาน ที่จัดขึ้นในกรุงเทพฯ ทั้งหมดมีความหลากหลายทั้งทางศิลปะ อาหาร ดนตรี
กีฬา งานแสงสี และงานประจำปี อย่างครบถ้วน Thailand Winter Festival และ Colorful Bangkok Winter Festival เกิดขึ้นจากความร่วมมือของทั้งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กระทรวงวัฒนธรรม กรุงเทพมหานคร และหลายหน่วยงาน
รวมถึงภาคเอกชน ภายใต้การทำงานร่วมกันในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ
เป็นผลจากการทำงานแบบบูรณาการอย่างแท้จริง
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า
รัฐบาลตั้งเป้าหมายว่าประเทศไทยจะต้องเป็นผู้นำในด้าน Festival ของโลก คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติได้เริ่มผลักดัน
แก้กฎหมายที่เป็นอุปสรรค วางรากฐานการเติบโตของอุตสาหกรรม
รวมไปถึงสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงองค์ความรู้ ให้ประเทศไทยพร้อมสำหรับการเป็น Festival
Country ในอนาคต
ตนเองเชื่อว่าประเทศไทยยังมีศักยภาพในการท่องเที่ยวอีกมาก
เพราะยังมีนโยบายอื่นที่จะสนับสนุน และจะมีการยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน เช่น
สนามบินที่กำลังจะเกิดขึ้นที่อันดามัน
และนโยบายเรื่องวีซ่าฟรีที่กำลังดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง
“การสร้างพลังอำนาจในการดึงดูด การสร้างวัฒนธรรม สินค้า
คุณค่าทางการเมืองให้เกิด Soft Power ไม่มีทางลัด
ไม่มีสูตรสำเร็จ ไม่มีทางง่าย ต้องใช้เวลา กว่าที่เราจะสร้าง Ecosystem ให้แข็งแรงต่อทุกอุตสาหกรรม แต่ถ้าไม่เริ่มต้น จะไม่มีทางเกิดขึ้น
ซึ่งรัฐบาลได้เริ่มต้นอย่างจริงจังครับ เราระดมทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง
ภาคเอกชนที่อยู่ในอุตสาหกรรมมานั่งวางแผนเพื่อพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ไปด้วยกัน
วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นของมิติใหม่ที่จะเปิดโอกาส เปิดพื้นที่
เปิดความฝันของคนไทยอีกมาก เราพร้อมแล้วครับที่จะเป็นผู้นำสร้าง Soft Power
สร้างประเทศไทยให้มีพลังทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น” นายกรัฐมนตรีย้ำ
สำหรับการจัดงาน
Thailand
Winter Festival มีเป้าหมายเพื่อยกระดับกิจกรรมงานเทศกาลประเพณีไทย
(Festival) จากระดับประเทศสู่ระดับโลก
และเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวของทั้งชาวไทยและต่างชาติ
ตามนโยบายการขับเคลื่อน Soft Power ของประเทศไทยด้วยทุนทางวัฒนธรรม
และแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์
ช่วยส่งเสริมให้เกิดความเชื่อมั่นและกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวคุณภาพ
รวมถึงพัฒนาศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดโลก
พร้อมผลักดันไปสู่เป้าหมายภาพรวมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ตามที่ตั้งไว้ของปี 2566
และส่งผลต่อเนื่องถึงปี 2567 ประกอบด้วย
งานเทศกาลฤดูหนาว ในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคม 2566
มีการจัดงานเทศกาลในจังหวัดต่าง
ๆ ทั่วประเทศ 3,000
กิจกรรม ดังนี้
1)
งานเฟสติวัลของไทยทั้ง 5 ภาคทั่วประเทศไทย
มากกว่า 2,800 กิจกรรม เช่น ภาคเหนือ การแข่งขัน Doi
Inthanon Thailand วันที่ 7 – 10 ธันวาคม 2566
ภาคกลาง ประเพณีตักบาตรกลางน้ำ เดือนพฤศจิกายน 2566 จังหวัดสุพรรณบุรี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ งานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์
วันที่ 16 – 27 พฤศจิกายน 2566 จังหวัดสุรินทร์
ภาคตะวันออก งานนมัสการหลวงพ่อโสธรและงานประเพณีแห่หลวงพ่อ วันที่ 24 พฤศจิกายน – 5 ธันวาคม 2566 จังหวัดฉะเชิงเทรา
และภาคใต้ งาน Full Moon Party ณ เกาะพะงัน
จังหวัดสุราษฎร์ธานี
2)
Colorful Bangkok Winter Festival เป็นการจัดกิจกรรมจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
ซึ่งจะจัดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 200 กิจกรรม
เป็นการนำเสนอวิถีชีวิตและเอกลักษณ์ของเมืองผ่านการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ เช่น
งานลอยกระทง งานแสงสี งานดนตรี งานศิลปะ และงานเคาท์ดาวน์