จับตาพรุ่งนี้!
ประชุม กสทช. 10
พ.ย. ชี้ชะตาคำขอควบรวมเน็ตบ้าน AIS+3BB “รองโฆษกก้าวไกล”
จี้ กสทช. ทำหน้าที่ของตัวเอง ปกป้องผลประโยชน์ประชาชน
อย่าปล่อยให้เกิดการผูกขาดบทใหม่ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม
วันที่
9 พฤศจิกายน 2566 ภคมน หนุนอนันต์ รองโฆษกพรรคก้าวไกล
กล่าวถึงกรณีสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์
และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)
จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาคำขอควบรวมกิจการอินเทอร์เน็ตบ้าน ระหว่าง AIS และ 3BB ในวันพรุ่งนี้ (10 พ.ย.)
ว่า การประชุมนัดนี้มีความสำคัญมากในการพิจารณาชี้ชะตาว่า
คำขอควบรวมกิจการอินเทอร์เน็ตบ้านระหว่าง AIS และ 3BB
จะทำได้หรือไม่
ภคมนระบุต่อว่า
จะเกิดอะไรขึ้นหาก กสทช. ปล่อยให้มีการควบรวมอินเตอร์เน็ตบ้าน ระหว่าง AIS และ 3BB
ข้อแรก ตลาดอินเทอร์เน็ตบ้านที่ปัจจุบันมีผู้เล่น 4 ราย ได้แก่ True, 3BB, NT (TOT เดิม) และ AIS
จะเหลือผู้เล่นเพียง 3 ราย โดย AIS+3BB
จะกลายเป็นรายใหญ่สุด ข้อสอง รวมส่วนแบ่งตลาด AIS (หลังควบรวม) และ True จะคิดเป็นประมาณ 80% หรือพูดง่ายๆ ตลาดอินเตอร์เน็ตบ้านจะกลายเป็นถูกกินรวบโดย 2 เจ้าใหญ่ เหมือนกับตลาดค่ายมือถือ และข้อสาม
บทเรียนจากการอนุมัติให้มีการควบรวมค่ายมือถือระหว่าง True-DTAC แสดงให้เราเห็นแล้วว่ายิ่งปล่อยให้เศรษฐกิจมีการผูกขาดอย่างเสรีเท่าไร
ราคาที่ประชาชนต้องใช้บริการยิ่งแพงขึ้น สวนทางกับคุณภาพการให้บริการที่ลดต่ำลง
รองโฆษกพรรคก้าวไกลระบุว่า
ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ขอเรียกร้องให้ กสทช.
ทำตามหน้าที่ของตนเองในการปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน กสทช.
มีอำนาจเต็มในการพิจารณา “ไม่เห็นชอบ” ให้มีการควบรวมครั้งนี้
พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง
วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 มาตรา 27 ข้อ 6 ระบุว่า กสทช. ต้องกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม
เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับบริการที่ดี รวดเร็ว ถูกต้อง และเป็นธรรม และข้อ 11
ระบุว่าจะต้องกำหนดมาตรการเพื่อไม่ให้เกิดการผูกขาด
หรือก่อความไม่เป็นธรรมในการแข่งขัน
การประเมินผลกระทบจากการซื้อกิจการเป็นเรื่องที่มีความซับซ้อนสูง
เพราะเป็นธุรกิจประเภทโครงสร้างพื้นฐานที่ต้องการเม็ดเงินลงทุนสูง
มีลักษณะการผูกขาดตามธรรมชาติ และยังมีความซับซ้อนจากปัจจัยด้านเทคโนโลยี
จึงอาจมีประเด็นหลากหลายให้ กสทช. ต้องพิจารณาถ่วงน้ำหนัก แต่ กสทช.
ต้องพึงระลึกว่าการตัดสินใจนั้น ควรคำนึงถึงผู้บริโภคเป็นหลักตามหน้าที่ของตน
“อย่าปล่อยให้ซ้ำรอยกับกรณีการควบรวม True-DTAC เลย
ที่สุดท้ายเงื่อนไขที่ว่าจะลดค่าบริการ-เพิ่มคุณภาพให้ประชาชน
ยังทำไม่ได้สักเรื่อง” ภคมนกล่าว