วันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

'โรม' ถามสปิริตทางการเมือง 'เศรษฐา' ปมพูด ส.ส.เพื่อไทยฝากแต่งตั้งตำรวจระดับผู้กำกับ ตอกย้ำระบบอุปถัมภ์ยังมีอยู่ ซ้ำขัดแย้งกับสิ่งที่หาเสียงไว้ ทั้งผิดกฎหมายด้วย

 


'โรม' ถามสปิริตทางการเมือง 'เศรษฐา' ปมพูด ส.ส.เพื่อไทยฝากแต่งตั้งตำรวจระดับผู้กำกับ ตอกย้ำระบบอุปถัมภ์ยังมีอยู่ ซ้ำขัดแย้งกับสิ่งที่หาเสียงไว้ ทั้งผิดกฎหมายด้วย

 

วันนี้ (24 พฤศจิกายน 2566) เวลา 9.30 น. ที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคก้าวไกล นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าว ภายหลังการแถลงก้าวไกล Policy Watch ‘หยุดระบบตั๋วและปฏิรูปตำรวจไทย’ โดยได้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาด้วยกระดุม 5 เม็ด สำหรับการปฏิรูปองค์กรตำรวจ 👉อ่านรายละเอียดที่ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=950875116406153&id=100044510196415&mibextid=Nif5oz

 

เมื่อถามว่า จะนำที่แถลงในวันนี้ไปเสนอต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ตำรวจ หรือไม่ รังสิมันต์กล่าวว่าใน กมธ.ตำรวจก็มีคนของก้าวไกลอยู่ แนวทางนี้เป็นแนวทางที่เรียกได้ว่า ถ้าร้องเพลงก็เป็นคีย์เดียวกัน เพื่อที่จะทำเสนอข้อเรียกร้องต่าง ๆ ไปในทุก ๆ กมธ. อยู่แล้ว ในส่วนของ กมธ.ตำรวจ ตนเข้าใจว่าก็เป็นไปในลักษณะเดียวกัน แม้ในวันนี้ตนอาจจะไม่ได้แถลงในฐานะประธาน กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ แต่ตนกำลังพูดถึงหมวกอีกใบที่กำลังใส่อยู่คือ ประธาน กมธ.ความมั่นคง ซึ่งยึดแนวทางนี้เช่นเดียวกัน และเชื่อว่าแนวทางนี้จะนำไปสู่การปฏิรูปตำรวจจริง ๆ

 

เมื่อถามถึงกรณี ‘ตั๋วเพื่อไทย’ จนถึงขณะนี้มีรายละเอียดเพิ่มเติมหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ถ้าฟังจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ทั้งหมด ที่ตอนนี้ใช้วิธีการเงียบ ขณะนี้ข้อมูลที่ตนได้รับจาก'นาตาชา' ทั้งหลายค่อนข้างยืนยันไปในทิศทางเดียวกันว่า "ตั๋วการเมือง" มีแน่ เราคงจะได้เห็นกันว่ามีมากน้อยแค่ไหน หลังจากโผออกมา ด้วยตนไม่ได้เป็นคนเห็นโผ จึงยังตอบไม่ได้ ว่าสุดท้ายจะจบแบบไหน แต่ถ้าโผออกมา เราคงจะเห็นความชัดเจน

 

สำหรับคำถามว่า ‘ตั๋วเพื่อไทย’ จัดเป็นไซส์ไหน รังสิมันต์ ได้จัดตั๋วเอาไว้ 5 ประเภท คือ ตั๋วช้าง, ตั๋วสร.1 คือโค้ดที่หมายถึงนายกฯ, ตั๋วผบ.ตร., ตั๋วนาย และตั๋วอื่น ๆ คือตั๋วที่ยังไม่สามารถจัดประเภทชัดเจนได้

 

ทั้งนี้ตั๋วสร.1 เกือบจะที่สุดแล้ว รองจากตั๋วช้าง เนื่องจากโดยมากแล้ว เป็นสิ่งที่ถ้าขอก็มักจะได้ ขึ้น อยู่กับว่า สร.1 จะเอาแค่ไหน บางครั้งอาจจะระบุว่าคนนี้ต้องได้ บางครั้งก็อาจจะบันทึกว่าคนนี้ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าตั๋วเพื่อไทยในรอบนี้ นายกฯ ทำแบบไหน โดยในวันที่ 7 ธ.ค.ที่จะถึงนี้ จะมีการเชิญนายกฯ เข้ามาชี้แจงต่อ กมธ.ความมั่นคงฯ คงต้องติดตามกัน

 

ส่วนการแสดงท่าทีต่อความรับผิดชอบของนายกฯ รังสิมันต์ระบุว่าการชี้แจงที่ผ่านมายังไม่มีความชัดเจน สำหรับกรณีที่ทำให้บางฝ่ายเรียกร้องให้มีการลาออก รังสิมันต์ มองว่า คำพูดของนายกฯ ชัดเจนว่าหมายถึงเรื่องตั๋ว และตัวองก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฝากตั๋ว โดยที่มาจุดเริ่มต้นของการฝาก ก็อาจจะมาจาก สส.ของพรรคตัวเอง ประเด็นนี้แบ่งได้สองทางคือ

 

1. คำพูดของนายกฯ น่าเชื่อถือ เป็นไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งตนก็มองไปในทิศทางนี้ว่า นายกฯ คงจะรู้ว่า ใครสมหวัง หรือไม่สมหวัง จึงสามารถพูดได้ และหากเป็นเช่นนั้นจริง ก็คงเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย

 

2. ถ้านายกฯ ประกาศต่อสังคมว่าโกหก ตนเองไม่น่าเชื่อถือ ต้องการแค่อวดรู้ ต้องการพูดส่งเดชไปอย่างนั้น เราก็อาจเอาผิดนายกฯ ไม่ได้

 

แต่ถ้านายกฯ บอกว่า ผมเป็นคนน่าเชื่อถือ ผมพูดอะไรมา ผมต้องมีข้อเท็จจริงก่อน ผมมีสติสัมปชัญญะในการพูด เราไม่ได้มีคนวิกลจริตเป็นนายกฯ ถ้าเป็นในลักษณะแบบนั้น นายกฯ ก็ต้องรับผิดชอบ เพราะคำพูดของนายกฯ คือหลักฐานที่มัดตัวนายกฯ เอง ซึ่งแน่นอนว่าก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย นายรังสิมันต์ กล่าว

 

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า คำถามคือ คุณใช้มาตรฐานไหนกับความผิดที่ชัดเจนแบบนี้ ถ้าเป็นปกติของประเทศที่มีอารยะ ถ้าเจออะไรที่เป็นความผิดมาก นายกฯ ก็จะมีความรับผิดชอบทางการเมืองหน่อย บางประเทศก็อาจจะลาออก ผิดกฎหมายหรือเปล่าไม่รู้ แต่กรณีนี้หนักที่เป็นกรณีของระบบอุปถัมภ์ เป็นกรณีที่ขัดแย้งต่อสิ่งที่นายกฯ ได้หาเสียงเอาไว้ตอนหาเสียง แล้วผิดกฎหมายด้วย

 

เมื่อถามว่า นายกฯ จะมีสปิริตและแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองด้วยการลาออกหรือไม่ เป็นเรื่องของนายกฯ ที่ต้องตัดสินใจ และเป็นสิ่งที่เราจะต้องใช้เป็นตัววัดคุณภาพของนายกฯ คนนี้

 

รังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า นายกฯ จะเดินต่อไปก็ได้ ในแง่กระบวนการทางกฎหมาย รอฝ่ายค้านหารือหลัง กมธ.ความมั่นคงฯ เรียกนายกฯ เข้ามาก่อน แล้วจึงตัดสินใจว่าจะเดินไปอย่างไร แน่นอนว่าช่องทางการตรวจสอบตรงนี้ ไม่ได้มีเฉพาะในส่วนของฝ่ายค้าน ตนเข้าใจว่า ก็มีบางคนไปร้องต่อองค์กรอิสระต่าง ๆ แล้ว แต่ก็ต้องไปดูว่ากระบวนการตรวจสอบจะใช้กับนายกฯ คนนี้ได้หรือไม่

 

ซึ่งทุกวันนี้ยังใช้วิธีการเงียบอยู่เลย ตนไม่เห็นถึงความรู้สึกผิดต่อการพูดเรื่องนี้เลย ถ้าพูดถึงผู้นำประเทศแล้วคุณรู้เห็นกับระบบอุปถัมภ์ ที่มันทำร้ายคนเยอะมากขณะนี้ แต่คุณปล่อยผ่านไป แล้วพูดอย่างหน้าชื่นตาบาน ถ้าตนมาดูตัวเองในวิดีโอแบบนี้ ตนคงรู้สึกผิด แต่ตนไม่รู้ว่านายกฯ ผู้นี้เป็นอย่างไร

 

เพราะในวันถัดมา ก็เป็นการไปชี้แจงข้าง ๆ คู ๆ ไปพูดถึงเรื่องความบ้าง ไม่ใช่เรื่องคนบ้าง ทั้ง ๆ ที่เป็นแค่ข้อแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้น อย่างที่ได้บอกสิ่งเดียวที่นายกฯ อาจจะพอพูดได้แล้วฟังขึ้นคือพูดออกมาเลยว่า "ผมเป็นคนไม่น่าเชื่อถือ ผมพูดโกหก ผมต้องการโชว์ เพื่อจะเอาใจ สส.เพื่อไทย" สังคมจะได้รู้ว่าคน ๆ นี้ เป็นคนที่พูดอะไรแล้วสังคมไม่ควรจะให้คุณค่า จะเอาอย่างนั้นหรือไม่ รังสิมันต์ กล่าว

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ตั๋วเพื่อไทย #ตั๋วสร1 #รังสิมันต์โรม #หยุดระบบตั๋ว #ปฏิรูปตำรวจ