“พวงเพ็ชร” จี้ กรมประชาสัมพันธ์ดันตัวเองขึ้นเป็นสื่ออันดับ 1 ของประเทศให้ได้! ย้ำ
การรายงานข่าวต้องเป็นข่าวจริง-รวดเร็ว-ตรวจสอบได้-มีความน่าเชื่อถือ
วันนี้
(3 พฤศจิกายน 2566) ณ อาคารหอประชุมกรมประชาสัมพันธ์
นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนนรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายวราวุธ
ยันต์เจริญ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายกฤช เอื้อวงศ์
ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสุภาภรณ์ คงวุฒิปัญญา
เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะที่ปรึกษา
ประชุมติดตามการดำเนินงานและมอบนโยบายคณะผู้บริหารและข้าราชการกรมประชาสัมพันธ์
โดยมี นางสุดฤทัย เลิศเกษม รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์
และคณะผู้บริหารกรมประชาสัมพันธ์ ต้อนรับ
กรมประชาสัมพันธ์
เป็นหน่วยงานประชาสัมพันธ์ของรัฐบาล สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี
ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการเสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐบาลกับประชาชน
โดยนำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความรู้ข้อเท็จจริง
และรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเพื่อเสนอรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โดยมีแนวคิดหลักในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง 100%
และต้องเป็นประโยชน์กับประชาชน ปัจจุบันกรมประชาสัมพันธ์มีอัตรากำลังทั่วประเทศ 3,876 คน มีการบริหารทั้งส่วนกลาง ส่วนกลางในภูมิภาค และส่วนภูมิภาค
มีหน่วยสื่อหลัก 4 หน่วย คือ
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
สำนักข่าว สำนักพัฒนาการประชาสัมพันธ์
ปัจจุบันกรมประชาสัมพันธ์มีการปรับตัวสู่การสื่อสารยุคดิจิทัล
โดยมีช่องทางการประชาสัมพันธ์ออนไลน์และโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์ม
นางพวงเพ็ชร
ระบุว่า รู้สึกยินดีที่ได้พบปะบุคลากรกรมประชาสัมพันธ์
ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคที่ติดตามการมอบนโยบายผ่านระบบออนไลน์
ส่วนตัวมองว่ากรมประชาสัมพันธ์เป็นหน่วยสื่อของรัฐที่มีความสำคัญ
เป็นส่วนที่เชื่อมระหว่างรัฐกับประชาชน ตนมองว่าแนวทางในการพัฒนากรมประชาสัมพันธ์
คือการสร้างภาพลักษณ์ให้กรมประชาสัมพันธ์เป็นสื่ออันดับหนึ่งที่ประชาชนติดตามโดยเฉพาะเรื่องข่าวสาร
โดยการนำเสนอข่าว ต้องเป็นข่าวจริง รวดเร็ว ตรวจสอบได้ และมีความน่าเชื่อถือ
ขณะเดียวกันต้องส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีออกไปสู่ต่างชาติ สร้างความเชื่อมั่นประเทศไทยควบคู่ไปด้วย
ทั้งนี้ได้เสนอให้มีการเปิด “Open Space" ซึ่งเป็นพื้นที่ให้คนทุกเพศ
ทุกวัย โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่
ให้ได้มีโอกาสเข้ามามีส่วนร่วมในการนำเสนอเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์
และเป็นการดึงกลุ่มผู้ชมคนรุ่นใหม่
ให้หันกลับมาติดตามสื่อของกรมประชาสัมพันธ์มากยิ่งขึ้น
”ดิฉันมองว่าบุคลากรของกรมประชาสัมพันธ์ ควรได้รับโอกาสในการพัฒนาฝีมือ
ทั้ง Upskill และ Reskill ซึ่งกรมประชาสัมพันธ์มีความร่วมมือกับสื่อต่างชาติหลายประเทศ
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันจะเป็นประโยชน์ในการช่วยให้บุคลากรของกรมประชาสัมพันธ์มีทักษะมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ควรมีการปรับฟังก์ชันการทำงานของกรมประชาสัมพันธ์ให้สอดรับกับยุคดิจิทัล
แบบ Full Scale เน้นการสื่อสารออนไลน์ที่เข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย
ครอบคลุมได้ทั่วถึงและรวดเร็วยิ่งขึ้น“ นางพวงเพ็ชร กล่าว
จากนั้นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและคณะได้เดินทางไปยังสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
หรือ NBT ติดตามการดำเนินงานและเยี่ยมชมกองบรรณาธิการข่าว สตูดิโอออกอากาศ
และเยี่ยมชมอาคารศูนย์ปฏิบัติการแพร่ภาพออกอากาศการกระจายเสียงวิทยุและการให้บริการข้อมูลข่าวสารภาครัฐกรมประชาสัมพันธ์
(PRD Media Center)
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #กรมประชาสัมพันธ์ #NBT