โคราชแทบแตก
แห่ฟังเพื่อไทยปราศรัย ‘ชลน่าน’ นำทีม ประกาศนโยบายครบวงจร ตั้งแต่เกิด เรียน
ทำงาน จนถึงวันสุดท้ายของชีวิต ‘แพทองธาร’
ยันพร้อมจัดสรรที่ดินทำกินเท่าเทียม อ้อนเลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ทั้งจังหวัด
วันที่
4 มีนาคม 2566 พรรคเพื่อไทย เปิดเวทีปราศรัย โคราช ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน’
ณ สนามหน้าศาลากลาง อ.เมือง
จ.นครราชสีมา นำโดยนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ
จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร
ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย
และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง
กรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย
นางสาวขัตติยา สวัสดิผล
คณะทำงานด้านกฎหมาย พรรคเพื่อไทย
พร้อมด้วย
ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย และผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.นครราชสีมา
พรรคเพื่อไทย ได้แก่ ร.ต.อ. สุปชัย อินทรักษา นายวัฒนะชัย สืบศิริบุษย์ นายพชร
จันทรรวงทอง นายสมเกียรติ ตันดิลกตระกูล นายโกศล ปัทมะ น.ส.ปิยะนุช ยินดีสุข
นายสุพงษ์พิธ รุ่งเป้า นายพงษ์พันธุ์ พันธุ์ศรีนคร นางนารดา อึ้งสวัสดิ์ นายธีระยุทธ ตันติกุล นายอภิชา เลิศพชรกมล นายอาทิตย์
หวังศุภกิจโกศล นายนรเสฎฐ์ ศิริโรจนกุล นายศิรสิทธิ์ เลิศด้วยลาภ นายรชตะ ด่านกุล
นายชวาล พัฒนกำชัย น.ส.ณัฐจิรา อิ่มวิเศษนายธวัชชัย ยืนยง
ท่ามกลางประชาชนเข้าร่วมฟังการปราศรัยอย่างเนืองแน่นคึกคักมากกว่า 16,000 คน
นายแพทย์ชลน่าน
ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอบคุณหัวใจพี่น้องชาวโคราช
จากการสำรวจความนิยมทั่วประเทศรายจังหวัดและรายภูมิภาค
พรรคเพื่อไทยได้คะแนนมาเป็นอันดับ 1 และคนโคราช 42% เลือกนางสาวแพทองธาร ชินวัตร
เป็นนายกรัฐมนตรี อีก 48% จะเลือก ส.ส.เพื่อไทยทั้งระบบเขตและบัญชีรายชื่อ
วันนี้จึงขอปักธงในโคราชทั้ง 16 เขต ถ้าโคราชอยากคิดใหญ่ ทำเป็น ต้องแลนด์สไลด์ยกจังหวัด
เพื่อเป็นหมุดหมายพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ
ว่าพร้อมมอบหมายความไว้วางใจให้พรรคเพื่อไทยมาเป็นรัฐบาลของพี่น้อง ประชาชน
นายแพทย์ชลน่านกล่าวอีกว่า
เพื่อไทยคือพรรคการเมืองที่มีนโยบายทำได้จริง พิสูจน์ได้จากนโยบาย 30
บาทรักษาทุกโรค ที่ยังมีประชาชนได้ประโยชน์จนทุกวันนี้
พรรคอื่นบอกจะให้บัตรสวัสดิการ แต่พรรคเพื่อไทย
จะทำให้บัตรประชาชนของพี่น้องคนไทยทรงคุณค่ายิ่งขึ้น
เป็นกรมธรรม์ประกันสุขภาพให้คนไทยทุกคน ไปทุกที่รักษาฟรีด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
“นโยบายถือเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็น
พรรคเพื่อไทยคิดนโยบายครบทุกวงจร ตั้งแต่เกิด วัยเรียน วัยทำงาน
จนถึงวันสุดท้ายของชีวิต เราคิดมาแล้ว ประชาชนมีรายจ่าย เราลดรายจ่าย
ประชาชนมีรายได้ เราเพิ่มรายได้ ขยายโอกาสให้ทุกคน ยกตัวอย่างนโยบาย 20
ล้านครอบครัว 20 ล้านตำแหน่ง งานที่มีศักยภาพสูง มีรายได้ปีละ 2 แสนล้านบาท 1
ครอบครัว 1 เสาหลักสร้างรายได้ด้วย soft power นี่คือโอกาสใหม่ที่จะมอบให้คนไทย”
นายแพทย์ชลน่านกล่าว
นายสุทิน
คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า
ทุกข์ของพี่น้องชาวโคราชที่หนักหน่วงอยู่ในขณะนี้ คือ ทุกข์ที่เกิดจากหนี้สิน
ยาเสพติด เรื่องที่ดินทำกิน รวมถึงอนาคตที่ยังมืดมน
ทางออกเดียวคือเลือกเพื่อไทยทั้ง 2 ใบเท่านั้น ทุกข์มีไว้ให้สู้
และปัญหามีไว้ให้แก้ ทุกข์ใหญ่ที่สุดของพี่น้องคือเป็นหนี้ และคนเข้าใจผิดว่า
การแจกเงินบัตรคนจนมากๆ จะช่วยให้หมดทุกข์นั้นไม่ถูกต้อง
เพราะเมื่อเราทุกข์เพราะมีหนี้สิน เราต้องแก้ตรงหนี้สิน
ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้คิดหาวิธีลดรายจ่าย ลดค่าน้ำค่าไฟ
ลดค่าแก๊สค่าน้ำมันที่เป็นต้นทุนการดำรงชีวิตให้พี่น้อง ต้องเพิ่มรายได้
มีนายกรัฐมนตรีที่ไปเปิดตลาดใหม่
ไปค้าขายต่างประเทศเอารายได้เข้ามาใช้หนี้ให้ประเทศ
แล้วราคาพืชผลการเกษตรพี่น้องจะดีขึ้น รวมทั้งต้องกระจายโอกาสลดความเหลื่อมล้ำ
“ทุกพรรคบอกแต่จะแจกเงิน
แต่ไม่มีพรรคไหนบอกวิธีหาเงินเหมือนพรรคเพื่อไทย กู้เงินมาแจกได้หนี้ แต่เพื่อไทยหาวิธีใช้หนี้
ประชาชนจะมีแต่อนาคตที่สดใส เลือกเพื่อไทยทั้ง 2 ใบอย่าลังเล เลือกทั้งคนทั้งพรรค
อย่าแบ่งคะแนนให้ใคร อย่าลืม ถ้ากาเพื่อไทย 2 ใบ ‘ประยุทธ์-ประวิตร’ เสร็จเรา
แต่ถ้ากาเพื่อไทยใบเดียว เราเสร็จ ‘ประยุทธ์-ประวิตร’ แน่ ๆ” นายสุทินกล่าว
นายประเสริฐ
จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย
กล่าวว่าวันนี้ได้กลับบ้านมาพบปะพูดคุยกับพี่น้อง สิ่งที่เห็นแตกต่างไปคือ
แววตาของพี่น้องมีความหวังมากขึ้น ดีใจที่รัฐบาลชุดนี้กำลังจะไป เพราะตลอด 8 ปีที่ผ่านมา
พี่น้องต้องอยู่อย่างยากลำบากท่ามกลางเศรษฐกิจย่ำแย่ เพราะรัฐบาลทำงานไม่เป็น
โครงการต่างๆ ที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
เช่นโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่ริเริ่มสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ริเริ่มแต่โดนรัฐประหารไป
จนบัดนี้ โครงการรถไฟฟ้ายังคืบหน้าไม่กี่กิโลเมตร และโครงการอื่นๆ
ก็ไม่สำเร็จ
พี่น้องเล่าว่าทุกวันมีแต่หนี้สิน รายได้ไม่พอรายจ่าย มีแต่ชายชุดเขียว
หรือเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรมาแจ้งให้ไปรีบชำระหนี้
วันนี้
พี่น้องแรงงานไทยยังลำบากเหมือนเดิม
แรงงานไทยไม่เคยได้รับการปรับค่าแรงที่สมน้ำสมเนื้อ ในสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์
ชินวัตร ปรับค่าแรงขั้นต่ำขึ้นเป็น 300 บาท/วัน จนถึงวันนี้ผ่านมา 10 ปี
ค่าแรงแทบไม่ได้ขึ้น ดังนั้นนโยบายค่าแรงที่พรรคเพื่อไทยประกาศว่าควรจะได้ 600
บาทต่อวันในปี 2570 นั้น เป็นค่าแรงที่สมศักดิ์ศรีที่พี่น้องแรงงานควรได้รับ
“พี่น้องต้องเลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์
ไม่ใช่เลือกเพื่อไทยเพื่อให้พวกผม
แต่เลือกเพื่อไทยให้อนาคตของพี่น้องประชาชนเองทั้งหมด ที่จะหลุดพ้นจากเผด็จการ
หลุดพ้นจากนายกฯ พลเอกประยุทธ์ ต้องเอาชนะเสียงส.ว. 250
เลือกเพื่อไทยเพื่ออนาคตที่กินดีอยู่ดีขึ้นของพี่น้องเอง เลือกเพื่อไทยทั้ง 2
ใบทั้งคนทั้งพรรคไม่ต้องกลัวอะไรทั้งสิ้น” นายประเสริฐกล่าว
นางสาวแพทองธาร
ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย
และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึงอดีตสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทยของ ดร. ทักษิณ
ชินวัตร มี ครม. สัญจร นั่งรถไฟมาถึงโคราช ได้เห็นศักยภาพของคนโคราช
แต่มีความยากจนเป็นอุปสรรค จึงมีการนำร่องศูนย์เอาชนะความยากจน ที่นี่เป็นที่แรก
รวมถึงในสมัยรัฐบาลเพื่อไทยภายใต้การนำของนางสาว
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีโครงการรถไฟความเร็วสูงที่โคราช แต่ถูกรัฐประหารพรากโอกาส
แสดงให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับภาคอีสานมาตลอด
และเลือกเริ่มต้นพัฒนาโครงการต่างๆ ที่โคราชเป็นที่แรก
เพราะโคราชเป็นประตูสู่อีสาน
ที่ผ่านมาเกษตรกรทำงานกันเหนื่อยแสนสาหัส
แต่กลับมีรายได้เพียงน้อยนิด เป็นหนี้เป็นสิน พรรคเพื่อไทยจึงอย่างเสนอนโยบายดีๆ 3
อย่าง เริ่มจากปัญหาที่ดินทำกิน โดยมี 4
ขั้นตอนที่จะแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ คือ
1.
ใช้เทคโนโลยีมาพิสูจน์สิทธิ์อย่างเป็นธรรม
2.
จัดสรรที่ดินสำหรับผู้ที่ไม่มีที่ดินทำมาหากิน
3.
แก้กฎหมายที่ขัดต่อความเป็นธรรม เป็นอุปสรรคในการทำมาหากินของประชาชน
4.
ที่ดินของรัฐที่ไม่ได้ใช้จะถูกจัดสรรให้พี่น้องประชาชนได้มีที่ดินทำกินถ้วนหน้า
นอกจากนี้
ในภาคเกษตร มีนโยบายพักหนี้ 3 ปี มีรายได้เพิ่มขึ้น ราคาสินค้าขึ้นยกแผง
และขออาสาเป็นตัวแทนนำสินค้าเกษตรไปขายในตลาดโลก ผ่านการใช้เทคโนโลยี
ช่วยเบาแรงพี่น้องเกษตรกรให้สบายยิ่งขึ้น
รวมทั้งรายได้ในภาคแรงงานที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 600 บาทต่อวัน
และเงินเดือนขั้นต่ำปริญญาตรี ที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 25,000 บาทต่อเดือน แต่ปัญหายาเสพติดที่หาง่าย และราคาถูก ในปัจจุบัน
หากเพื่อไทยมา ยาเสพติดต้องหมดไปทันที
นายณัฐวุฒิ
ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า
หลังจากที่พรรคเพื่อไทยมาเยือนโคราชจนสนามแตก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
ต้องพบแพทย์จากมือบวม แบบนี้เรียกว่าเป็นลาง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อุ้มท้อง 7
เดือน เดินปราศรัยได้คล่องแคล่ว แต่พลเอกประยุทธ์เดินดีๆ มือบวม ซึ่งตนมองว่า
โรคภัยไข้เจ็บแบบนี้มารุมเอาคืน เพราะมือขวานี้ เซ็นตั้ง ส.ว.250 คน ดังนั้น
ขอให้พี่น้องรวมมือกันไปกาพรรคเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์เพื่อไล่พลเอกประยุทธ์กลับบ้าน
นายณัฐวุฒิ
กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยทำงานเป็นทีม มีนายแพทย์ชลน่านเป็นหัวหน้าพรรค
มีนางสาวแพทองธารเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และมีบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญ
เก่งคนละด้านผสมผสานกัน เมื่อเร็ว ๆ นี้ พรรคเพิ่งเซ็นตั้งนายเศรษฐา ทวีสิน
เป็นที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และตั้งทีมเศรษฐกิจชุดใหญ่ มาเป็นทีมเศรษฐกิจเพื่อไทย
พร้อมผลักดันการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน
พรรคเพื่อไทยมีพลังสร้างสรรค์ในการผลักดันนโยบาย และทำได้
เป็นความจริงทางประวัติศาสตร์ 30 บาทรักษาทุกโรคจะกลับมา
ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกฟรี กองทุนหมู่บ้านจะกลับมา OTOP จะกลับมา
ยาเสพติดออกไป
“บางคนถามว่าเพื่อไทยจะจับมือใครหรือไม่
ไม่ต้องถาม รู้เพียงว่าถ้าเพื่อไทยไม่แลนด์สไลด์ ประยุทธ์ ประวิตร
และพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบัน จะจับมือ ส.ว. ตั้งรัฐบาล ดังนั้น จะเอาชนะรัฐบาลนี้
เดินหน้าประเทศไปสู่อนาคตที่ดีกว่า เข้าคูหากาเพื่อไทย ทั้งคนทั้งพรรค
ยกจังหวัดทั่วประเทศ ถ้าแลนด์สไลด์เราจะตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยแก้ปัญหาให้ประชาชน
เรามีผลประโยชน์แห่งอนาคตอยู่ด้วยกัน
พรรคเพื่อไทยไม่มีพรรคพี่น้อง ไม่มีพรรคให้แบ่งใจ
ถ้าไม่กาเพื่อไทยเท่ากับเปิดโอกาสให้พลเอกประยุทธ์เท่านั้นเอง” นายณัฐวุฒิกล่าว
#UDDnews
#ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย #นครราชสีมา #เลือกตั้ง66