วันศุกร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2566

‘เศรษฐา’ นำเพื่อไทยลงพื้นที่ ‘อยุธยา’ เป็นจังหวัดแรกหลังนั่งประธานที่ปรึกษาหน.ครอบครัวพท. ชาวนาขอทำให้ราคาข้าวไม่ต่ำกว่าตันละหมื่น ก่อนคณะร่วมล้อมวงกินข้าวกลางวันกับพี่น้องชาวนา

 


‘เศรษฐา’ นำเพื่อไทยลงพื้นที่ ‘อยุธยา’ เป็นจังหวัดแรกหลังนั่งประธานที่ปรึกษาหน.ครอบครัวพท. ชาวนาขอทำให้ราคาข้าวไม่ต่ำกว่าตันละหมื่น ก่อนคณะร่วมล้อมวงกินข้าวกลางวันกับพี่น้องชาวนา


วันที่ 10 มีนาคม 2566 ที่อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ​​ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นายจักรพงษ์  แสงมณี​​ นายทะเบียนพรรคเพื่อไทย นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์​ นักวิชาการ และนายจิรทัศ ไกรเดชา ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย รวมถึงนายอัณณพ อารีย์วงศ์สกุล ,นายสุรเชษฐ์ ชัยโกศล, นายองอาจ วชิรพงศ์ และนายอาทิตย์ ภาคอินทรีย์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อยุธยา พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่พบตัวแทนกลุ่มชาวนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา


โดยตัวแทนกลุ่มชาวนาได้ผลัดกันสะท้อนปัญหา ประกอบด้วย ปัญหาเรื่องน้ำ โดยประตูระบายน้ำบางจุดขวางทางน้ำ, ปัญหาเรื่องปุ๋ยแพง ในขณะที่รายได้ชาวนาต่ำมาก, ปัญหาเรื่องช่วงเวลาการทำนา ไม่ใช่คอยหยุดสั่งให้ทำนา แต่ให้บริหารจัดการช่วยให้เราทำนาได้ ราคาข้าวอย่างน้อยอยู่ที่ 1 หมื่นบาทต่อตันก็ยังดี อย่าให้ต่ำไปมากกว่านี้  ทั้งนี้ เมื่อสมัยนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ราคาข้าวดี มีเงินจับจ่ายใช้สอย แต่มายุครัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ชาวนา ผูกคอตายกันมาเพราะไปกู้หนี้ยืมสินมาแต่ราคาข้าวที่ขายได้ไม่พอเอาไปใช้หนี้ และปัญหาที่สำคัญที่สุด 8 ปีที่ผ่านมา ไม่มีใครดูแลชาวนา ถ้าจะทำได้ต้องพรรคเพื่อไทยเท่านั้น ที่ผ่านมา ปัญหาทุกอย่างเราฝากส.ส.ไปหาทางแก้ไข แต่วันนี้ เราขอฝากส.ส.ของเราบ้าง และในฐานะที่นายเศรษฐา เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจขอให้ช่วยทำให้ชาวนาอยู่ดีกินดีด้วย


ด้านนายเศรษฐา กล่าวว่า ที่นี่คือจังหวัดแรกที่ตนได้มาลงพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งจากที่ได้รับฟังปัญหาจากพี่น้องชาวนาทำให้ตนรู้ว่า ช่วง 8 ปีที่ผ่านมาเราอยู่ในหลุมดำกับดักรายได้ต่ำ ราคาพืชผลทางการเกษตรไม่ดี ปัญหาหลายอย่างของพี่น้องชาวนา เช่น ปัญหาสิ่งกีดขวางทางน้ำ แก้ได้ แต่ขาดการใส่ใจดูแลจากทางรัฐบาล ส่วนปัญหาน้ำท่วม ตนได้ศึกษาข้อมูล และพบว่าในหลายอำเภอที่มีการทำนาน้ำท่วมหนัก ซึ่งพรรคเพื่อไทยเรามีแผนงานที่จะทำซับเวย์เพื่อกักเก็บน้ำ และจะต้องมีการขุดบ่อน้ำเพื่อใช้ในหน้าแล้ง รวมไปถึงจะต้องจัดหาปั๊มน้ำเข้ามาให้ชาวนาไว้ใช้สำหรับทำนาด้วย


นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า ต่อมาปัญหาเรื่องหนี้สิน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญตรงนี้จะต้องจัดการให้หมดไป พรรคเพื่อไทยตระหนักดีว่าหากมีหนี้สินชาวนาทำนาเท่าไหร่ก็ต้องเอาเงินไปใช้หนี้หมด เงินไม่พอใช้จ่าย ทั้งตลอดช่วง 8 ปีที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้ติดต่อทำการค้ากับต่างประเทศเท่าที่ควร ซึ่งหากเพื่อไทยได้ส.ส.ทั้ง 5 เขตในจ.อยุธยา ก็จะเป็นถนนที่กรุยทางให้เราไปสู่ทำเนียบรัฐบาลไปจัดการเรื่องการค้ากับต่างประเทศนอกจากนี้แล้วหากเรามีนวัตกรรมที่ถูกต้อง ตรงจุด เราจะสามารถเพิ่มค่าข้าวได้ถึง 1,200 ตันต่อไร่เลยทีเดียว สุดท้ายเรื่องที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งของพี่น้องชาวนาคือเรื่องของสุขภาพ ซึ่งพรรคเพื่อไทยเราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เช่นกัน เราจึงมีแนวคิดที่จะยกโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคให้ดีกและครอบคลุมยิ่งขึ้น เพื่อพี่น้องชาวนาจะสามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้อย่างทั่วถึง โดยเรามีความจริงใจ และมีความตั้งใจจริงในการที่จะหาทางแก้ปัญหาให้กับพี่น้องชาวนาอย่างแท้จริง


จากนั้น นายเศรษฐาได้ร่วมล้อมวงรับประทานอาหารกลางวันกับกลุ่มพี่น้องชาวนาที่ได้ทำข้าวหม้อแกงหม้อจากบ้าน พร้อมพูดคุยแลกเปลี่ยนระหว่างรับประทานอาหารด้วย


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย #เพื่อไทย #เลือกตั้ง66