เพื่อไทย
ปักธงชัย เมืองย่าโม ปลุกคนโคราชร่วมปิดสวิตซ์ ส.ว. ‘ชลน่าน’ เตือนอย่าแบ่งใจให้ใคร ‘ประเสริฐ’
ประกาศปั้น ‘แพทองธาร’ นารีขี่ม้าขาวเหมือน ‘ยิ่งลักษณ์’ ชูนโยบายเกษตร
ที่ดินทำกิน โอทอป สร้างรายได้
วันที่
4 มีนาคม 2566 พรรคเพื่อไทย นำโดยนายแพทย์ชลน่าน
ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา
และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร
ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย
และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม
และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย
เปิดเวทีปราศรัย โคราช ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน’ ณ อาคารกีฬาเฉลิมพระเกียรติ
80 พรรษา เทศบาลเมืองปัก อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา
ท่ามกลางประชาชนเข้าร่วมฟังการปราศรัยมากกว่า 8,000 คน
นายแพทย์ชลน่าน
ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า
โคราชจะเป็นเมืองที่มีโอกาสมากที่สุดในประเทศไทย ด้วยจำนวน ส.ส.ถึง 16 ที่นั่ง 16
เขตเลือกตั้ง จึงจัดใหญ่ 3 เวที เริ่มจากปักธงแลนด์สไลด์เพื่อไทยที่อำเภอปักธงชัย
ปักให้มั่นคงที่อำเภอคง และปักธงทั้งหมดที่เมืองย่าโม นำทัพใหญ่โดยนางสาวแพทองธาร
ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครับเพื่อไทย
ซึ่งเป็นผู้ที่ประชาชนให้การตอบรับเป็นว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยมากที่สุด
และขอฝากผู้ประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ของเพื่อไทยให้ได้ดูแลพี่น้องประชาชน
“เขตเลือกตั้ง
400 เขต และบัญชีรายชื่อ 100 คน พรรคเพื่อไทยต้องได้อย่างน้อย 250 ที่นั่งขึ้นไป
เพื่อไทยทำตัวให้เท่ากับ ส.ว.ก่อน จะปิดสวิตซ์เขาได้ มั่นใจว่า
ส.ว.ส่วนหนึ่งจะกลับมาสนับสนุนพรรคเพื่อไทยซึ่งขายนโยบายแบบประชาธิปไตยกินได้”นายแพทย์ชลน่าน
กล่าว
นายประเสริฐ
จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า
ตนเป็นคนโคราชโดยกำเนิด เกิดที่สีคิ้ว เติบโตทำงานและเข้าสู่การเมืองจนเป็น
ส.ส.โคราชด้วยความภาคภูมิใจ จึงกล้าพูดเต็มปากว่าเป็นคนโคราช
ไม่เหมือนบางคนที่อ้างว่าเป็นคนโคราช
แต่เกิดที่ไหนก็ไม่รู้
เพียงอาศัยอยู่บ้านหลวง น้ำฟรี ไฟฟรี และมาอ้างว่ารักคนโคราช 8 ปีของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
ทำชาวโคราชเสียโอกาส ทั้งที่เป็นเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจลำดับ 2 ของประเทศ เสียโอกาสในด้านคมนาคม
จากเดิมที่รัฐบาลเพื่อไทยมีแผนรถไฟฟ้าความเร็วสูงมาโคราช และทำทั่วประเทศ
แต่รัฐบาลลดเหลือรถไฟความเร็วปานกลางและยังสร้างไม่ถึงไหน
มอเตอร์เวย์สร้างเสร็จแต่เปิดใช้ไม่ได้เต็มรูปแบบ ราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ
หากพรรคเพื่อไทยมา เรามีนโยบายทำราคาข้าว อ้อย ข้าวโพด
จะปรับตัวดีขึ้นอย่างแน่นอน โอทอปจะกลับมา
เพราะเราจะมีนายกรัฐมนตรีที่ออกไปหาตลาดขายของต่างประเทศ ผ้าพื้นเมืองปักธงชัย ที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์
ชินวัตร ใส่ในการประชุมคณะรัฐมนตรี คือฝีมือพี่น้องโคราช
รวมถึงปัญหาเอกสารสิทธิที่ดินทำกิน
พี่น้องต้องเข้าถึงสิทธิทำกินอย่างยุติธรรมและเท่าเทียม
“พี่น้องโคราช
เคยสร้างนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก วันนี้เราจะมาร่วมใจกันอีกครั้งขอคนโคราชรวมหัวใจเป็นดวงเดียว เลือกแพทองธาร เป็นนารีขี่ม้าขาว
เป็นนายกรัฐมนตรี เลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ กาเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค
เอานโยบายประชาธิปไตยกินได้ของพี่น้องกลับมา เอาเผด็จการสืบทอดอำนาจออกไป” นายประเสริฐ
กล่าว
นางสาวแพทองธาร
ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า
ครอบครัวชินวัตรเอง มีความผูกพันธ์ กับ อ.ปักธงชัยมาตั้งแต่อดีต เพราะในสมัยคุณย่าเคยรับผ้าไหมจาก อ.ปักธงชัย
ไปขายที่ร้านทอไหมไทยชินวัตร ในกรุงเทพฯ เพราะมีคุณภาพและสวยงามมากพอที่จะส่งออกสู่ตลาดโลกได้
ซึ่งนโยบาย ‘ 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์’
จะส่งเสริมให้สมาชิกครอบครัวที่ต้องการพัฒนาความรู้
ความสามารถผ่านการสนับสนุนของรัฐ หารายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัว
โดยมีรายได้ขั้นต่ำ 200,000 บาทต่อปี
ทั้งนี้
ในรัฐบาลพรรคไทยรักไทย มีการตั้งศูนย์เอาชนะความยากจนที่โคราชเป็นที่แรก
สมัยรัฐบาลเพื่อไทย โดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีโครงการพัฒนารถไฟฟ้าความเร็วสูง
วางแผนเริ่มต้นที่โคราช แต่ก็มีรัฐประหารเข้ามาหยุดความเจริญ หยุดความกินดีอยู่
หยุดศักดิ์ศรีของพี่น้องประชาชน พรรคเพื่อไทยจึงกลับมาทวงคืนความเจริญให้กับพี่น้องประชาชน
นางสาวแพทองธาร
กล่าวอีกว่า จากปัญหาที่กินทำกิน พรรคเพื่อไทยมี 4
ขั้นตอนที่จะทำให้ชีวิตของพี่น้องประชาชนดีขึ้นได้ คือ
1.
นำเทคโนโลยีมาใช้ในการพิสูจน์สิทธิ์อย่างเป็นธรรม
2.
จัดสรรที่ดินสำหรับผู้ที่ไม่มีที่ดินทำมาหากิน
3.
แก้กฎหมายที่ขัดต่อความเป็นธรรม เป็นอุปสรรคในการทำมาหากินของประชาชน
4.
ที่ดินของรัฐที่ไม่ได้ใช้จะถูกจัดสรรให้พี่น้องประชาชนได้มีที่ดินทำกินถ้วนหน้า
ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้งที่เกิดขึ้นทุกปี
พรรคเพื่อไทยมีทางออก ผ่านการสร้างอ่างเก็บน้ำ และทางระบายน้ำลงสู่ทะเลให้เร็วที่สุด
รวมถึงการยกถนนให้เป็นสะพานสาธารณะ นโยบายพักหนี้เกษตรกร 3 ปี
และเพิ่มรายได้ให้ประชาชน 3 เท่า ผ่าน 3 ดี ได้แก่ ดินดี น้ำดี เมล็ดพันธุ์ดี
เพื่อให้ราคารสินค้าเกษตรดีถ้วนหน้า ราคาผลิตภัณฑ์ขึ้นยกแผง
“ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทย
ทำนโยบายสำเร็จได้ เพราะแรงสนับสนุนจากประชาชนทุกคน และในเลือกตั้งครั้งต่อไป
หากอยากให้นโยบายของพรรคเพื่อไทยเป็นจริง ต้องขอฝากพรรคเพื่อไทยไว้ในอ้อมใจ
เลือกเพื่อไทย ให้แลนสไลด์ ทั้งคน ทั้งพรรค” นางสาวแพทองธาร กล่าว
นายสุทิน
คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า
นโยบายหาเสียงของคู่แข่งที่ทยอยเปิดตัว หลายพรรคการเมืองเห็นแต่นโยบายแจกเงิน
ซึ่งแจกได้เมื่อประเทศมีเงินแล้ว มีวิธีหาเงินต้องมีถึงจะแจกได้ บางพรรคประกาศว่า ‘ทำแล้ว ทำอยู่ และทำต่อ’
ซึ่งพี่น้องสงสัยว่าคงหมายถึงอยู่กู้หนี้ต่อไป
‘กู้แล้ว กู้อยู่ และกู้ต่อ’
แต่เพื่อไทยมีแต่นโยบายทำงานหาเงินเข้าประเทศ ลดรายจ่ายค่าครองชีพ
และเพิ่มรายได้เพิ่มราคาสินค้าเกษตรให้สูงขึ้นเพราะเราคิดใหญ่ คิดเป็นและทำงานเป็น
ด้วยการ
1.ลดรายจ่าย
ลดค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ ค่าแก๊สหุงต้ม ค่าปุ๋ยการเกษตร
2.
หาเงินให้ประเทศ ด้วยการเปิดตลาดใหม่ หาสินค้าเกษตรไปขาย เพิ่มรายได้ให้ประเทศ
ทำให้เศรษฐกิจไทยโตโดยเฉลี่ย 5% ซึ่งรัฐบาลปัจจุบันโตเฉลี่ยประมาณแค่ 2%
3.
ราคาสินค้าเกษตรต้องสูงขึ้น เกษตรกรต้องมีรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่าเป็นอย่างน้อย
ขายข้าวได้ราคา พอหมดฤดูไปรับจ้าง ก็จะต้องมีรายได้แรงงานขั้นต่ำ 600 บาท/วันในปี
2570 เมื่อเศรษฐกิจโตแล้ว นายจ้างมีกำไรมากขึ้น เขาก็ต้องยินดีจ่ายค่าแรงสูงขึ้น
“ถ้าพี่น้องต้องเลือกระหว่าง
อยู่กับคนที่หาเงินเป็น กับคนที่เก่งแต่กู้ พี่น้องจะอยู่กับใคร ประเทศจะโตมีเงินเข้าประเทศเพราะนายกรัฐมนตรีของเพื่อไทย
จะค้าขายเป็น ไม่ใช่เป็นแต่กู้หนี้
และหนี้เหล่านั้นก็ไม่ได้หายไปไหน กลายมาเป็นเพิ่มค่าไฟค่าน้ำค่าแก๊ส ภาษี
ดังนั้น เลือกเพื่อไทย เลือกคนหาเงินเป็นให้แลนด์สไลด์ทั้งโคราช” นายสุทิน กล่าว
นายณัฐวุฒิ
ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า
ดีใจที่ได้มาเยียวยาพี่น้องประชาชนชาวโคราช หลังจากพลเอกประยุทธ์
จันทร์โอชามาเยือนโคราชเมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้พี่น้องอกสั่นขวัญแขวน ตลอด 8
ปีที่ผ่านมา พลเอกประยุทธ์กู้หนี้ทะลุเพดานกว่า 10 ล้านล้านบาท
และมีแนวโน้มจะกู้เพิ่มขึ้นไปอีก ถ้าหากได้กลับมาเป็นรัฐบาล
พรรคเพื่อไทยมีแต่แนวทางที่จะมายกระดับคุณภาพชีวิตให้พี่น้องประชาชน
ให้ลูกหลานมีโอกาส ให้คนยากคนจนพึ่งพาตัวเองลืมตาอ้าปากได้
พรรคเพื่อไทยเพิ่งแต่งตั้งทีมเศรษฐกิจระดับชาติมาเป็นความหวังให้ประชาชน
และได้นายเศรษฐา ทวีสิน เข้ามาร่วมงาน แม้มีคำถามจากพลเอกประยุทธ์ว่าเก่งตรงไหน
ประเทศไม่ใช่บริษัทเอกชน ตนมองว่า ในทางกลับกัน ถ้าเปรียบประเทศเป็นบริษัทเอกชน
วันนี้เรากำลังมียามทำหน้าที่อยู่ในบริษัท
ตนไม่ได้ดูถูกอาชีพยามซึ่งเป็นอาชีพสุจริต แต่หน้าที่ต้องเป็นไปตามศักยภาพ
มีความชอบธรรมในการเข้าไปทำงาน
“พลเอกประยุทธ์มีความชอบธรรมอย่างไร
8 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้แก้ปัญหาเลย ทุกเรื่องมีแต่นโยบายฉาบฉวย
วันนี้จึงอยากให้คนโคราชจับมือให้มั่น ตัดสินใจให้เด็ดขาด
ตัดสินใจจะแลนด์สไลด์ไปกับพรรคเพื่อไทยทั้งจังหวัด” นายณัฐวุฒิกล่าว
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย #นครราชสีมา #เลือกตั้ง66