วันพุธที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2566

‘เศรษฐา’ พา ‘เพื่อไทย’ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาชุมชนคลองเตย ย้ำ ขอรับปัญหาไปเข้าวงนโยบายเพื่อหาทางออก เดี๋ยวกลับมาตอบอีกครั้ง ด้าน ‘ครูประทีป’ ดีใจว่าที่นายกฯ มารับฟังเอง

 


เศรษฐา’ พา ‘เพื่อไทย’ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาชุมชนคลองเตย ย้ำ ขอรับปัญหาไปเข้าวงนโยบายเพื่อหาทางออก เดี๋ยวกลับมาตอบอีกครั้ง ด้าน ‘ครูประทีป’ ดีใจว่าที่นายกฯ มารับฟังเอง


วันที่ 8 มีนาคม 2566 ที่ มูลนิธิดวงประทีป แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดยนาย เศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการลงพื้นที่กทม. นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นายนวธันย์ ธวัชวงศ์เดชากุล ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม. เขตคลองเตย พรรคเพื่อไทย น.ส.เพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม.เขตบางคอแหลม-ยานนาวา และนายกวีวงศ์ อยู่วิจิตร ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม. เขตบางนา-พระขโนง พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่เยี่ยมชมมูลนิธิครูประทีป พร้อมรับฟังปัญหาในพื้นที


โดยครูประทีป อึ้งทรงธรรม ผู้ก่อตั้งมูลนิธิดวงประทีป ระบุว่า พรรคเพื่อไทยถือเป็นพรรคแรกที่เข้ามารับฟังปัญหาของชาวคลองเตยอย่างจริงจัง ที่ดินแห่งนี้เป็นที่ดินของการท่าเรือมาก่อน ซึ่งเมื่อมีการเวนคืนที่ดินเพื่อสร้างท่าเรือ ทำให้ต้องใช้แรงงานจำนวนมากในการขนถ่ายสินค้า ทำให้ชุมชนขยายตัวอย่างรวดเร็ว สลัมคลองเตยจึงเติบโตขึ้นอย่างไร้ระบบ ไร้การพัฒนา มีความเหลื่อมล้ำสูง นี่ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ว่าที่นายกฯ ในอนาคตได้เดินทางมารับฟังปัญหาของคนยากคนจนที่นี่ด้วยตัวเอง


จากนั้น ตัวแทนชุมชนคลองเตยได้ผลัดกันลุกขึ้นสะท้อนปัญหาต่าง ๆ ในพื้นที่ ประกอบด้วย


1. ปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยจากการเวนคืนที่ดินของการท่าเรือ ประชาชนในชุมชนขอที่ดินสักแปลงจากการท่าเรือซึ่งมีที่ดินกว่า 2,000 ไร่ ขอให้คนในชุมชนเอามาจัดการตัวเอง โดยขอให้ทางการท่าเรือเปิดเวทีทำความเข้าใจกับคนในชุมชน แทนการสำรวจได้หรือไม่ ทั้งนี้ คนในชุมชนยินดีพัฒนาที่ดินแห่งนี้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ แต่ช่วยให้ประชาชนชาวคลองเตยมีที่อยู่อาศัย ให้มีทางเลือกที่ไปได้ เพราะคนในชุมชนเป็นเพียงคนหาเช้ากินค่ำเท่านั้น ทุกคนรักคลองเตย และอยากให้ที่ดินผืนนี้ดีขึ้นเช่นกัน


2. ปัญหาด้านเศรษฐกิจ วันนี้ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ไม่เพียงพอแล้วต่อครอบครัว ครอบครัวหนึ่งรัฐบาลที่แล้วขายฝันว่าจะขึ้นค่าแรงเป็น 400 บาท แต่ก็ทำไม่ได้ หากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะสามารถขึ้นค่าแรงเป็น 600 บาทได้จริงคนคลองเตยก็รู้สึกยินดี นอกจากนี้ วันนี้คนคลองเตยต้องการการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และต้องการการสร้างรายได้ให้คนในชุมชน เช่น ทำตลาดน้ำ ทำถนนคนเดิน ส่วนหาบเร่แผงลอยก็ขอให้ขายได้อย่างเป็นระเบียบ


3. เรื่องปัญหาสุขภาพ วันนี้คนคลองเตยถูกตัดสิทธิหลายอย่าง ล่าสุด ก็มีการยกเลิกการให้บริการสิทธิบัตรทอง 9 โรงพยาบาลรอบชุมชน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องเดินทางไปใช้สิทธิรักษาพยาบาลไกลจากที่อยู่มาก ขอให้พรรคเพื่อไทยพิจารณาในเรื่องนี้ และขอให้มีนโยบายออกมาดูเรื่องสิทธิประกันสังคมที่ไม่ครอบคลุม และกฎเกณฑ์ที่ไม่เป็นธรรมกับผู้มีสิทธิประกันสังคมด้วย


4. เรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของคนคลองเตย โดยพื้นที่คลองเตยมีปัญหาเรื่องอัคคีภัยสูงมาก แต่ชุมชนและผู้ปฏิบัติงานอาสาสมัครยังขาดอุปกรณ์ช่วยเหลือ ไม่ว่าชุด รองเท้า รถ ไปจนถึงงบประมาณในการรักษาพยาบาลเมื่อออกไปช่วยเหลือชาวบ้านแล้วประสบอุบัติเหตุ จึงฝากให้พรรคเพื่อไทยมีนโยบายในส่วนนี้


5. เรื่องการศึกษา เชื่อว่าการศึกษาจะทำให้คุณภาพชีวิตของคนดีขึ้น ก่อนหน้านี้รัฐบาลพรรคไทยรักไทยมีโครงการ 1 ชุมชน 1 ทุน แต่ในปัจจุบันไม่มีแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นวันนี้การศึกษาของคนในชุมชนถดถอย เด็กด้อยโอกาส และคนชายขอบไม่มีสิทธิเข้าถึงการศึกษา ทำอย่างไรที่จะทำให้เขาสามารถเข้าถึงการศึกษาได้ทั่วถึง ได้เดินไปโรงเรียนได้อย่างมีความสุข และได้เรียนอย่างมีคุณภาพ เพราะเด็กในชุมชนไม่มีโรงเรียนใกล้บ้านที่มีคุณภาพทัดเทียมกับที่อื่น ฝากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยในอนาคต ทำให้เด็กได้เข้าถึงการศึกษาและมีอาชีพที่ดีทำในอนาคตด้วย


นายเศรษฐา กล่าวว่า วันนี้เราได้มาฟังเสียงของพี่น้องประชาชน เราทราบถึงความอัดอั้นตันใจและปัญหาพื้นฐานของชาวคลองเตย อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เรื่องที่อยู่อาศัยเป็นปัญหาที่ซับซ้อนและต้องได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม พวกเราพรรคเพื่อไทยจึงขอรับปัญหานี้เพื่อนำไปสู่วงนโยบายเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาต่อไป นอกจากนี้ วันนี้สังคมเรามีปัญหาความเหลื่อมล้ำสูงมาก ตนได้ยินเรื่องค่าแรง นี่คือนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทย เรื่องนี้ตนให้คำมั่นสัญญาได้ว่าหากเราได้รับฉันทามติจากพี่น้องประชาชนให้เข้ามาเป็นรัฐบาลเราสามารถทำได้สูงกว่า 600 บาทแน่นอน เพราะเราจะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างน้อยปีละ 5% และเรื่องพลังงานเป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญโดยเฉพาะเรื่องค่าน้ำและค่าไฟ เราจะต้องควบคุมได้


นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้เรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก หากมีอาสาสมัครลงพื้นที่ไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนพวกเขาก็จะต้องได้รับการสนับสนุนสิ่งจำเป็นด้วย อย่างไรก็ตาม พวกเราจะนำปัญหาที่ได้รับในวันนี้ไปเข้าวงนโยบายของพรรคเพื่อหาทางออกอย่างรอบด้าน แล้วเราจะกลับมาจัดวงพูดคุยอย่างวันนี้อีกครั้งเพื่อเอาแนวทางที่เราไปหามา มาตอบพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ เราไม่อาจสัญญาได้ว่าจะทำได้ทุกข้อ แต่เราจะพยายามหาทางแก้ไขทุกเรื่องให้อย่างสุดความสามารถ ส่วนเรื่องการหาเงินเข้าประเทศ ตนเชื่อว่า หากพรรคเพื่อไทยเข้ามาเป็นรัฐบาลและไม่ว่านายกฯจะเป็นใครก็ตาม การค้าระหว่างประเทศจะเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญ และจะมีการจัดระบบเที่ยวบิน นำนักท่องเที่ยว และนำรายได้จากการท่องเที่ยวกลับเข้าประเทศได้อย่างแน่นอน


ด้าน นายนวธันย์  กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเราไม่เคยมีผู้แทนในเขตคลองเตยมานาน แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น ตลอดเวลาที่ผ่านมาตนก็ไม่เคยทอดทิ้งพี่น้องชาวคลองเตยไปไหน ตนสู้ร่วมกันกับคนคลองเตยมาตลอด ไม่ว่าจะเรื่องบัตรทอง 30 บาทหรือเรื่องใดก็ตาม และวันนี้หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล ตนก็จะเป็นตัวแทนของคนคลองเตยไปจี้และติดตามเอานโยบายต่าง ๆ ลงมาให้พี่น้องชาวคลองเตย


จากนั้นนายเศรษฐาและคณะ ได้เดินพบปะทักทายพี่น้องประชาชน ชุมชน 70 ไร่ เขตคลองเตย


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย #ชุมชนคลองเตย #เลือกตั้ง66