‘เศรษฐา’ พา ‘เพื่อไทย’ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาชุมชนคลองเตย ย้ำ
ขอรับปัญหาไปเข้าวงนโยบายเพื่อหาทางออก เดี๋ยวกลับมาตอบอีกครั้ง ด้าน ‘ครูประทีป’
ดีใจว่าที่นายกฯ มารับฟังเอง
วันที่
8 มีนาคม 2566 ที่ มูลนิธิดวงประทีป
แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดยนาย เศรษฐา ทวีสิน
ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด
ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการลงพื้นที่กทม. นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ
ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นายนวธันย์ ธวัชวงศ์เดชากุล ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม.
เขตคลองเตย พรรคเพื่อไทย น.ส.เพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ
ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม.เขตบางคอแหลม-ยานนาวา และนายกวีวงศ์ อยู่วิจิตร
ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม. เขตบางนา-พระขโนง พรรคเพื่อไทย
ลงพื้นที่เยี่ยมชมมูลนิธิครูประทีป พร้อมรับฟังปัญหาในพื้นที
โดยครูประทีป
อึ้งทรงธรรม ผู้ก่อตั้งมูลนิธิดวงประทีป ระบุว่า
พรรคเพื่อไทยถือเป็นพรรคแรกที่เข้ามารับฟังปัญหาของชาวคลองเตยอย่างจริงจัง
ที่ดินแห่งนี้เป็นที่ดินของการท่าเรือมาก่อน
ซึ่งเมื่อมีการเวนคืนที่ดินเพื่อสร้างท่าเรือ ทำให้ต้องใช้แรงงานจำนวนมากในการขนถ่ายสินค้า
ทำให้ชุมชนขยายตัวอย่างรวดเร็ว สลัมคลองเตยจึงเติบโตขึ้นอย่างไร้ระบบ ไร้การพัฒนา
มีความเหลื่อมล้ำสูง นี่ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ว่าที่นายกฯ ในอนาคตได้เดินทางมารับฟังปัญหาของคนยากคนจนที่นี่ด้วยตัวเอง
จากนั้น
ตัวแทนชุมชนคลองเตยได้ผลัดกันลุกขึ้นสะท้อนปัญหาต่าง ๆ ในพื้นที่ ประกอบด้วย
1.
ปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยจากการเวนคืนที่ดินของการท่าเรือ
ประชาชนในชุมชนขอที่ดินสักแปลงจากการท่าเรือซึ่งมีที่ดินกว่า 2,000
ไร่ ขอให้คนในชุมชนเอามาจัดการตัวเอง
โดยขอให้ทางการท่าเรือเปิดเวทีทำความเข้าใจกับคนในชุมชน แทนการสำรวจได้หรือไม่
ทั้งนี้ คนในชุมชนยินดีพัฒนาที่ดินแห่งนี้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ
แต่ช่วยให้ประชาชนชาวคลองเตยมีที่อยู่อาศัย ให้มีทางเลือกที่ไปได้
เพราะคนในชุมชนเป็นเพียงคนหาเช้ากินค่ำเท่านั้น ทุกคนรักคลองเตย
และอยากให้ที่ดินผืนนี้ดีขึ้นเช่นกัน
2. ปัญหาด้านเศรษฐกิจ วันนี้ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท
ไม่เพียงพอแล้วต่อครอบครัว ครอบครัวหนึ่งรัฐบาลที่แล้วขายฝันว่าจะขึ้นค่าแรงเป็น 400 บาท แต่ก็ทำไม่ได้ หากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะสามารถขึ้นค่าแรงเป็น 600 บาทได้จริงคนคลองเตยก็รู้สึกยินดี นอกจากนี้
วันนี้คนคลองเตยต้องการการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้
และต้องการการสร้างรายได้ให้คนในชุมชน เช่น ทำตลาดน้ำ ทำถนนคนเดิน
ส่วนหาบเร่แผงลอยก็ขอให้ขายได้อย่างเป็นระเบียบ
3.
เรื่องปัญหาสุขภาพ วันนี้คนคลองเตยถูกตัดสิทธิหลายอย่าง ล่าสุด
ก็มีการยกเลิกการให้บริการสิทธิบัตรทอง 9 โรงพยาบาลรอบชุมชน
ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องเดินทางไปใช้สิทธิรักษาพยาบาลไกลจากที่อยู่มาก
ขอให้พรรคเพื่อไทยพิจารณาในเรื่องนี้
และขอให้มีนโยบายออกมาดูเรื่องสิทธิประกันสังคมที่ไม่ครอบคลุม
และกฎเกณฑ์ที่ไม่เป็นธรรมกับผู้มีสิทธิประกันสังคมด้วย
4. เรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของคนคลองเตย
โดยพื้นที่คลองเตยมีปัญหาเรื่องอัคคีภัยสูงมาก แต่ชุมชนและผู้ปฏิบัติงานอาสาสมัครยังขาดอุปกรณ์ช่วยเหลือ
ไม่ว่าชุด รองเท้า รถ ไปจนถึงงบประมาณในการรักษาพยาบาลเมื่อออกไปช่วยเหลือชาวบ้านแล้วประสบอุบัติเหตุ
จึงฝากให้พรรคเพื่อไทยมีนโยบายในส่วนนี้
5.
เรื่องการศึกษา เชื่อว่าการศึกษาจะทำให้คุณภาพชีวิตของคนดีขึ้น
ก่อนหน้านี้รัฐบาลพรรคไทยรักไทยมีโครงการ 1 ชุมชน 1 ทุน แต่ในปัจจุบันไม่มีแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นวันนี้การศึกษาของคนในชุมชนถดถอย เด็กด้อยโอกาส
และคนชายขอบไม่มีสิทธิเข้าถึงการศึกษา ทำอย่างไรที่จะทำให้เขาสามารถเข้าถึงการศึกษาได้ทั่วถึง
ได้เดินไปโรงเรียนได้อย่างมีความสุข และได้เรียนอย่างมีคุณภาพ
เพราะเด็กในชุมชนไม่มีโรงเรียนใกล้บ้านที่มีคุณภาพทัดเทียมกับที่อื่น
ฝากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยในอนาคต
ทำให้เด็กได้เข้าถึงการศึกษาและมีอาชีพที่ดีทำในอนาคตด้วย
นายเศรษฐา
กล่าวว่า วันนี้เราได้มาฟังเสียงของพี่น้องประชาชน
เราทราบถึงความอัดอั้นตันใจและปัญหาพื้นฐานของชาวคลองเตย อย่างไรก็ตาม
ปัญหาที่เรื่องที่อยู่อาศัยเป็นปัญหาที่ซับซ้อนและต้องได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม
พวกเราพรรคเพื่อไทยจึงขอรับปัญหานี้เพื่อนำไปสู่วงนโยบายเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาต่อไป
นอกจากนี้ วันนี้สังคมเรามีปัญหาความเหลื่อมล้ำสูงมาก ตนได้ยินเรื่องค่าแรง
นี่คือนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทย
เรื่องนี้ตนให้คำมั่นสัญญาได้ว่าหากเราได้รับฉันทามติจากพี่น้องประชาชนให้เข้ามาเป็นรัฐบาลเราสามารถทำได้สูงกว่า
600 บาทแน่นอน เพราะเราจะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างน้อยปีละ 5%
และเรื่องพลังงานเป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญโดยเฉพาะเรื่องค่าน้ำและค่าไฟ
เราจะต้องควบคุมได้
นายเศรษฐา
กล่าวต่อว่า นอกจากนี้เรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก
หากมีอาสาสมัครลงพื้นที่ไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนพวกเขาก็จะต้องได้รับการสนับสนุนสิ่งจำเป็นด้วย
อย่างไรก็ตาม
พวกเราจะนำปัญหาที่ได้รับในวันนี้ไปเข้าวงนโยบายของพรรคเพื่อหาทางออกอย่างรอบด้าน
แล้วเราจะกลับมาจัดวงพูดคุยอย่างวันนี้อีกครั้งเพื่อเอาแนวทางที่เราไปหามา
มาตอบพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ เราไม่อาจสัญญาได้ว่าจะทำได้ทุกข้อ
แต่เราจะพยายามหาทางแก้ไขทุกเรื่องให้อย่างสุดความสามารถ
ส่วนเรื่องการหาเงินเข้าประเทศ ตนเชื่อว่า
หากพรรคเพื่อไทยเข้ามาเป็นรัฐบาลและไม่ว่านายกฯจะเป็นใครก็ตาม
การค้าระหว่างประเทศจะเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญ และจะมีการจัดระบบเที่ยวบิน
นำนักท่องเที่ยว และนำรายได้จากการท่องเที่ยวกลับเข้าประเทศได้อย่างแน่นอน
ด้าน
นายนวธันย์ กล่าวว่า
พรรคเพื่อไทยเราไม่เคยมีผู้แทนในเขตคลองเตยมานาน แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น
ตลอดเวลาที่ผ่านมาตนก็ไม่เคยทอดทิ้งพี่น้องชาวคลองเตยไปไหน ตนสู้ร่วมกันกับคนคลองเตยมาตลอด
ไม่ว่าจะเรื่องบัตรทอง 30 บาทหรือเรื่องใดก็ตาม และวันนี้หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล
ตนก็จะเป็นตัวแทนของคนคลองเตยไปจี้และติดตามเอานโยบายต่าง ๆ ลงมาให้พี่น้องชาวคลองเตย
จากนั้นนายเศรษฐาและคณะ
ได้เดินพบปะทักทายพี่น้องประชาชน ชุมชน 70 ไร่ เขตคลองเตย
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย #ชุมชนคลองเตย #เลือกตั้ง66