‘พิธา’ ลุยหาเสียงเชียงใหม่ ขอพลังกา ‘ก้าวไกล’ เพื่อการเปลี่ยนแปลง
ให้ประเทศไทยพร้อมรับความท้าทายใหม่
วันที่
14 เมษายน 2566 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล
ร่วมกิจกรรมหาเสียงกับผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล จ.เชียงใหม่ หลายพื้นที่
โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา
ได้ร่วมกิจกรรมหาเสียงพร้อมกับ อรพรรณ จันตาเรือง ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 6 เบอร์ 1
ร่วมกันเดินประชาสัมพันธ์ที่ตลาดเทศบาลเสียงพร้าว ต.เวียง อ.พร้าว
ก่อนร่วมกันเปิดวงพูดคุยที่สิริเมืองพร้าวและห้องสมุดจินดา
ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้ประจำชุมชนใน ต.สันทราย อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
ร่วมกับเครือข่ายคนทำงานภาคประชาสังคมหลายกลุ่ม
โดยมีการร่วมแลกเปลี่ยนสอบถามกันในหลายประเด็น ทั้งในประเด็นการศึกษา ปัญหาฝุ่น
สิทธิมนุษยชน ความหลากหลายทางเพศ สถานการณ์เมียนมา ชาติพันธุ์ ที่ดินทำกิน เป็นต้น
พิธาระบุตอนหนึ่ง
ว่าประเทศไทยในวันนี้กำลังเผชิญกับความท้าทายหลายปัญหา
อย่างเรื่องหนึ่งที่เรามีการพูดถึงวันนี้ คือปัญหาหลักสูตรการศึกษา
ต้องตอบโจทย์ด้วยการกระจายอำนาจ ปลดล็อกท้องถิ่น
ไม่ใช่ให้คนที่ส่วนกลางมาออกแบบให้ ระบบราชการที่อยู่แบบเดิมมา 130 ปีแล้ว
ย่อมไม่สามารถตอบโจทย์ของยุคสมัย อย่างโควิด pm 2.5 การต่างประเทศ
และความท้าทายอื่น ๆ ที่ประเทศเผชิญอยู่ได้แน่ ๆ
พรรคก้าวไกลจึงมีหลักคิดที่ว่า
‘เท่าเทียมกัน เท่าทันโลก’ มาตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่แล้ว
ความหมายก็คือเราต้องการให้คนไทยทุกคนเท่าเทียมกัน
และให้ประเทศไทยพร้อมรับความท้าทายใหม่ๆ ได้เสมอ
ไม่ใช่อยู่ในโลกแบบที่ยังหมกมุ่นอยู่แต่กับความมั่นคงทางการทหาร ที่เมื่อ 30-40 ปีที่แล้วอาจจะยังถูก
แต่ตอนนี้ประเทศไทยต้องเผชิญกับทั้งความท้าทายทางเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม สาธารณสุข
สังคมสูงวัย ความปลอดภัยไซเบอร์ ซึ่งถ้ายังไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยได้
ความท้าทายใหม่ๆ จะเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ ทับกับความท้าทายเก่าที่ยังคงแก้ไขไม่ได้
กลายเป็นวงจรไร้ที่สิ้นสุด
“สุดท้ายเมื่อเราไม่เปลี่ยนเอง โลกจะบังคับให้เราต้องเปลี่ยน
และความเจ็บปวดที่จะเกิดขึ้นจากการโดนบังคับให้เปลี่ยนแปลงจะมหาศาลยิ่งกว่าการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เสียอีก
นั่นคือเหตุผลที่พรรคก้าวไกลต้องการเป็นรัฐบาล
ไม่ใช่เพื่อให้เราได้ตำแหน่งรัฐมนตรี แต่เพื่อให้มันจบที่รุ่นเราให้ได้
ไม่ต้องให้รุ่นลูกของเราต้องมาคุยกันเรื่องเดิมๆ แบบนี้อีก
ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งที่จับต้องได้และมีอุดมการณ์ด้วย
ไม่ใช่แค่จับต้องได้จริงแต่ไร้กระดูกสันหลัง
ซึ่งไม่ยั่งยืนและเป็นการหวังผลทางการเมืองมากกว่า” พิธากล่าว
จากนั้น
ในช่วงบ่ายไปจนถึงเย็น พิธาได้เดินทางต่อไปยัง อ.หางดง หาเสียงร่วมกับ ภัทรพงษ์
ลีลาภัทร์ ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 เบอร์ 7 โดยร่วมเดินหาเสียงภายในตลาดสดเทศบาลตำบลหางดง
ต่อด้วยที่กาดมะจำโรง ก่อนเดินทางต่อไปยัง อ.สันป่าตอง ร่วมเดินตลาดสดต้นแหน
ก่อนเปิดปราศรัยเล็กๆ บนรถแห่ข้างตลาด
โดยตลอดทั้งวันได้รับความสนใจและการตอบรับอย่างอบอุ่นจากประชาชนชาวเชียงใหม่
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ก้าวไกล #เลือกตั้ง66