'ธนาธร' รีเทิร์นเวที
หลังได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยหาเสียง ‘ก้าวไกล’ ประเดิมที่อุดรธานี
ปลุกปรากฏการณ์ ‘อนาคตใหม่’ ร่วมสานต่อภารกิจเปลี่ยนแปลงประเทศ
วันที่
1 มีนาคม 2566 ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
ประธานคณะก้าวหน้า ประเดิมร่วมเวทีหาเสียงของพรรคก้าวไกล หลังจากได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยหาเสียงของพรรคอย่างเป็นทางการ
เวทีแรกของการเดินสายในรอบสัปดาห์นี้คือ จ.อุดรธานี
เริ่มต้นด้วยเวทีรับฟังปัญหาที่ดิน ส.ป.ก. ที่ อ.หนองแสง
ก่อนเดินทางร่วมเวทีปราศรัยที่ อ.กุมภวาปี ท่ามกลางการต้อนรับจากประชาชนอย่างอบอุ่น
หลังจากร้างลาเวทีหาเสียงระดับชาติมานานกว่า 3 ปีภายหลังการยุบพรรคอนาคตใหม่
(อนค.)
ธนาธร
เริ่มต้นการปราศรัยด้วยการเล่าถึงการทำงานในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาหลังการยุบพรรคอนาคตใหม่
โดยระบุว่าช่วงที่ผ่านมา ได้ไปร่วมทำงานกับท้องถิ่น ทั้งระดับเทศบาลและ อบต.
ได้เห็นปัญหาในระดับท้องถิ่นหลายเรื่อง เช่น เรื่องน้ำประปา
ที่น่าเหลือเชื่อว่าประเทศไทยในศตวรรษที่ 21 คนส่วนใหญ่ในประเทศยังไม่มีน้ำสะอาดที่ไหลตลอด
24 ชั่วโมงใช้ทุกวัน
ถ้าไม่แกว่งสารส้มเองให้ตกตะกอนก็ต้องซื้อน้ำถังมาใช้
กลายเป็นภาระค่าใช้จ่ายที่ตอกย้ำความยากลำบากในชีวิตของคนส่วนใหญ่ ที่มีมากพออยู่แล้ว
สิ่งที่ได้ไปเห็นมาจากการทำงานท้องถิ่น
ยิ่งตอกย้ำในสิ่งที่ตนเชื่อมาตลอด ว่าประเทศของเราควรดูแลกันและกันได้ดีกว่านี้
คนไทยทุกคนไม่ว่าเกิดที่ไหนควรเข้าถึงบริการสาธารณะขั้นพื้นฐานได้เท่าเทียมกัน
ไม่ว่าจะเป็นน้ำประปา โรงพยาบาล โรงเรียน ถนนหนทาง ฯลฯ ควรจะดีเท่ากันทุกที่
ซึ่งไม่ใช่ว่าประเทศของเราไม่มีความรู้หรือศักยภาพพอที่จะทำได้
แต่ปัญหาคือการจัดสรรงบประมาณที่ไม่เป็นธรรม
ที่ทำให้คนส่วนใหญ่ของประเทศเข้าไม่ถึงทรัพยากรและงบประมาณ ยกตัวอย่างเช่น
เงินทุกบาทที่เอาไปซื้อเรือดำน้ำ ก็คือทุกบาทที่ไม่ได้เอามาทำน้ำประปาให้สะอาดสำหรับประชาชนทุกคนในประเทศนี้
ธนาธรกล่าวต่อไปว่า
การเดินทางของพรรคอนาคตใหม่มาสู่พรรคก้าวไกล
คือการเดินทางไปสร้างสังคมไทยที่จะทลายความเหลื่อมล้ำ เช่น
การต่อสู้กับทุนผูกขาดเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทำมาหากินได้
เราไม่เคยสัญญาว่าจะให้ข้าวตันละเท่าไร
เพราะเชื่อว่าสิ่งที่ดีกว่าคือการสร้างระบบเศรษฐกิจที่เปิดโอกาสให้ทุกคนทำมาหากินได้
เช่นที่เราเสนอกฎหมายสุราก้าวหน้า เพื่อยกเลิกการผูกขาดในตลาดสุรากว่า 4 แสนล้านบาท
ที่อยู่กับแค่ 2-3 บริษัทมากว่า 40 ปี
โดยไม่เคยมีใครคิดจะแก้ไข
เรายืนยันในหลักการประชาธิปไตยอย่างหนักแน่นที่สุด
เพราะการเมืองที่ไม่เป็นประชาธิปไตย
คือโครงสร้างที่ดึงดูดทรัพยากรจากคนส่วนใหญ่ไปให้กลุ่มอภิสิทธิ์ชนในประเทศนี้ร่ำรวยมั่งคั่งขึ้น
ทำไมคนที่ทำงานหนักมาทั้งชีวิตถึงมีคุณภาพชีวิตที่ดีไม่ได้
ที่คนจนไม่ใช่เพราะชาติที่แล้วทำบุญมาไม่พอ ไม่ใช่เพราะขี้เกียจ
แต่เพราะทรัพยากรถูกจัดสรรอย่างไม่เป็นธรรม
ธนาธรกล่าวต่อไปว่า
ดังนั้น การแก้ปัญหาของประเทศไทยแบบทีละประเด็นๆ จึงไม่เพียงพอ เรามีครูเก่งๆ
มากมาย แต่ทำไมแก้ปัญหาการศึกษาไม่ได้ เรามีนักการตลาดเก่งๆ
มากมายแต่ทำไมเอาสินค้าเกษตรไปขายให้เกษตรกรร่ำรวยไม่ได้
นั่นเป็นเพราะเราไม่เคยแก้ปัญหาที่โครงสร้าง
ที่นำเอาดอกผลการพัฒนาไปอยู่ในมือคนไม่กี่คนในประเทศ
นี่คือเหตุผลที่ทำให้พรรคอนาคตใหม่มาจนถึงพรรคก้าวไกล
ยืนยันว่าเราต้องแก้ทั้งโครงสร้างและปัญหารายประเด็นไปพร้อมๆ กัน ที่ผ่านมา 4 ปีจนถึงวันนี้
เราได้ประสบการณ์มือหนึ่งจากการลงมือทำงานในระบบการเมืองมาแล้ว เราพร้อมกว่า 4
ปีที่แล้วมหาศาล ขอโอกาสเพียงครั้งเดียว
ให้พรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล 4 ปี
ประเทศไทยไม่เหมือนเดิมแน่นอน นี่คือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับทุกคน
โดยมีค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียคือค่ารถไปคูหาเท่านั้น
“ที่เขายุบพรรคผม ตัดสิทธิผม
เพราะผมจะไปทำลายโครงสร้างที่เอื้อประโยชน์ให้คนส่วนน้อยในสังคม
เอาดอกผลจากการพัฒนาประเทศมาแจกจ่ายให้คนทุกคนอย่างเสมอภาค
และนั่นคือเหตุผลเดียวกันว่าทำไมเราถึงทำแต่เรื่องยากๆ เรื่องใหญ่ๆ
ก็เพราะการแก้ปัญหาเป็นประเด็นๆ ไม่สามารถแก้ปัญหาของประเทศนี้ได้
ไม่สามารถดึงทรัพยากรจากอภิสิทธิ์ชนมาสู่มือของคนส่วนใหญ่ได้
สี่ปีที่ผ่านมายิ่งตอกย้ำความเชื่อของผม
ว่าปัญหาของประเทศไทยคือปัญหาจากโครงสร้างที่ไม่เป็นธรรม
นั่นคือจิตวิญญาณอนาคตใหม่มาจนถึงก้าวไกล” ธนาธรกล่าว
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ก้าวไกล #เลือกตั้ง66