วันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2564

สื่อ-ประชาชน และทนาย ร้องศาลแพ่งเพิกถอนข้อกำหนด 29 พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ระงับเน็ต พร้อมขอคุ้มครองชั่วคราว​​ หลังนายกฯ ออกคำสั่ง ปิดกั้น​ข่าวสาร​อ้างสร้างความหวาดกลัว​ ย้ำสื่อมีจริยธรรม​และเสรีภาพ​

 


สื่อ-ประชาชน และทนาย ร้องศาลแพ่งเพิกถอนข้อกำหนด 29 พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ระงับเน็ต พร้อมขอคุ้มครองชั่วคราว​​ หลังนายกฯ ออกคำสั่ง ปิดกั้น​ข่าวสาร​อ้างสร้างความหวาดกลัว​ ย้ำสื่อมีจริยธรรม​และเสรีภาพ​ 


วันนี้ (2 ส.ค. 64)  เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน พร้อมด้วยตัวแทนสื่อมวลชน​ และทนายความ​ ได้นำเอกสาร​เข้าร้องต่อศาลแพ่ง​รัชดา เพื่อยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และในฐานะเป็นผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19  จากกรณีออกข้อกำหนดฉบับที่ 29 ให้อำนาจ กสทช. "ตัดเน็ต" ผู้โพสต์ข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว ซึ่งเป็นการออกคำสั่งโดยไม่มีอำนาจ ไม่มีความจำเป็น ไม่ได้สัดส่วน และขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560


ทั้งนี้ นายนรเศรษฐ์​  หนองนาตูม​ ทนายความ เปิดเผยว่า​ การยื่นฟ้องในวันนี้เพื่อให้ศาลพิจารณา​การออกคำสั่ง​ คุ้มครองชั่วคราว​ และขอให้ศาลนัดไต่สวนคำสั่งดังกล่าวเนื่องจากในมุมมองของสื่อมีการจำกัดความหวาดกลัว​ไว้ชัดเจน  แต่ในกรณีนี้ไม่มีการระบุความหมายที่ชัดเจน​ ซึ่งอาจทำให้เกิดความวุ่นนวายได้​  ส่วนการให้อำอาจกสทช.ระงับสัญญาณ​อินเตอร์​เน็ต​ เป็นการเข้าข่ายผิดบทบัญญัติ​จำกัดสิทธิเสรีภาพ​ โดยเฉพาะการให้อำนาจ​เลขากสทช.​เป็นผู้ดำเนินการจะทำให้ประชาชนไม่มีช่องทางยื่นหนังสือเพื่อต่อสู้คดี​ 


ด้าน นางสาวฐาปนีย์ เอียดศรีชัย​ ตัวแทนสื่อ​มวลชน​ ได้ย้ำจุดยื่นของสื่อมวลชนว่า​ มี่ผ่านมาสื่อ​ปฏิบัติ​หน้าที่​ โดยยึดในหลักจริยธรรม​มาโดยตลอด​ไม่เคยบิดเบือน​หรือกล่าวหาโดยไม่มีพยานหลักฐาน​หรือการตรวจสอบ​ ซึ่งที่ผ่านมาสื่อมวลชน​นำเสนอความจริงทุกอย่างโดยเฉพาะ​สิ่งที่อยู่ตรงหน้า​ ขณะ​เดียวกัน​มองว่าในสถานการณ์​ที่ประชาชนหวังพึ่งสื่อ​เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่กลับถูกปิดกั้นและนำกฎหมายมาควบคุมก็จะยิ่งทำให้ประชา​ชนไม่กล้าร้องขอ​ความช่วยเหลือ จนท้ายที่สุดแม้ว่าจะมีผู้เสียชีวิตในบ้าน​ก็จะไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยเพราะกลัวความผิด​ เกรงกลัวกฎหมาย 


ส่วนกรณีที่มีประกาศ​ล่าสุดระบุ​ อนุโลม​ให้เฉพาะ​สื่อ​มวลชน​นั้นที่สามารถนำเสนอข้อมูลได้​ ในฐานะตัวแทนสื่อมวลชน​มองว่า​สิ่งนี้ไม่ใช่แค่สื่อที่จะได้รับการอนุโลม​แต่ต้องเป็นคนไทย​ทุกคนที่ควรได้รับสิทธิ์​อย่างเท่ากัน


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์