วันอาทิตย์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2566

ดร.โภคิน ชี้ รธน.ปี60 ผิดเพี้ยนจากหลักการประชาธิปไตย เป็นพัฒนาการของรัฐธรรมนูญในทางเลว หนุนแก้ รธน.ให้รัฐประหารไม่สามารถนิรโทษกรรมได้ ถือเป็นความผิดร้ายแรง ต้องรับโทษสูงสุด โดยยึดเป็นประเพณีการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยที่สำคัญที่สุด

 


ดร.โภคิน ชี้ รธน.ปี60 ผิดเพี้ยนจากหลักการประชาธิปไตย เป็นพัฒนาการของรัฐธรรมนูญในทางเลว หนุนแก้ รธน.ให้รัฐประหารไม่สามารถนิรโทษกรรมได้ ถือเป็นความผิดร้ายแรง ต้องรับโทษสูงสุด โดยยึดเป็นประเพณีการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยที่สำคัญที่สุด 


วันที่ 10 ธันวาคม 2566 ดร.โภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยสร้างไทย ร่วมเสวนา ในหัวข้อพัฒนาการของรัฐธรรมนูญไทย ซึ่งจัดขึ้นโดยสภาผู้แทนราษฎร เนื่องในวันรัฐธรรมนูญโดยกล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2534 เป็นต้นมา ทราบดีว่าบรรดาเนติบริกร มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้คณะรัฐประหารโดยบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ โดยไม่ได้นิรโทษกรรมด้วยการออกเป็นพระราชบัญญัติเหมือนในอดีต ที่สำคัญรัฐธรรมนูญปี 2560 บัญญัติไว้ว่าการกระทำจากการยึดอำนาจทั้งหลายชอบด้วยรัฐธรรมนูญทั้งหมด จึงทำให้เกิดปัญหาในทางรัฐธรรมนูญ เช่นเมื่อบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการใช้สิทธิเสรีภาพไปขัดกับการใช้อำนาจของคณะรัฐประหาร ศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่า การใช้อำนาจของคณะรัฐประหารถือว่าใหญ่กว่า


"บทบัญญัติเช่นนี้จะเห็นได้ว่าผิดเพี้ยนไปหมดจากหลักการประชาธิปไตย ถือว่าเป็นพัฒนาการของรัฐธรรมนูญในทางที่เลว ที่บอกว่ารัฐธรรมนูญฉบับโน้นดีฉบับนี้ดีตนไม่เห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับไหนที่ดีจะไม่ถูกฉีก ส่วนฉบับเลวไม่เคยถูกฉีก จนต้องมีวิกฤตการเมืองถึงจะสามารถเปลี่ยนแปลงฉบับเลวได้ เป็นที่มาที่ทำให้ประชาชนเจ็บปวดสูญเสียจากหลายเหตุการณ์ทางการเมือง" ดร.โภคินกล่าว


ดร.โภคิน กล่าวเพิ่มเติมว่า หากอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในอนาคต เราต้องแก้ไขให้การยึดอำนาจรัฐประหารเป็นกบฏ เพราะหากไม่ทำเช่นนี้เราจะได้เห็นการรัฐประหารเกิดขึ้นอีกและเมื่อเกิดวิกฤตการเมืองและรัฐธรรมนูญท้ายที่สุดก็จะถูกรัฐประหารเช่นเคย โดยเฉพาะที่ผ่านมาศาลฎีกาได้วินิจฉัยจนกลายเป็นบรรทัดฐานว่าใครรัฐประหารสำเร็จถือเป็นรัฎฐาธิปัตย์


ตนได้พูดคุยและตกผลึกร่วมกับหลายภาคส่วนเห็นว่า ในบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญต้องเขียนไว้ว่า การรัฐประหาร จะนิรโทษกรรมไม่ได้และถือเป็นความผิดร้ายแรง ต้องรับโทษสูงสุด ซึ่งศาลจะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามหลักนิติธรรม โดยบทบัญญัติเช่นนี้ให้ถือเป็นประเพณีการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยที่สำคัญที่สุด แม้ว่าจะมีหรือไม่มีรัฐธรรมนูญ หรือจะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ใดก็ตามให้ถือว่านี่คือส่วนหนึ่งที่สำคัญของรัฐธรรมนูญ


"ต้องให้ถือว่าประเพณีการปกครองที่บัญญัติว่าการรัฐประหารเป็นความผิดร้ายแรงและนิรโทษกรรมไม่ได้ คุณยึดอำนาจเมื่อใด จะอายุเท่าใดก็ต้องโดนศาลตัดสินได้ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือของศาล และหากมีความกล้าหาญพอลองตัดสินสักครั้งว่าจะยึดอำนาจไม่ว่า หมดอำนาจเมื่อใดต้องติดคุก" ดร.โภคินกล่าว


ดร.โภคิน เชื่อว่าหากรัฐธรรมนูญมีความก้าวหน้าในลักษณะเช่นนี้ การรัฐประหารจะหมดสิ้นไปจากสังคมไทย  และการเมืองไทยจะเกิดการเรียนรู้ผิดบ้างถูกบ้างแต่จะสามารถเดินหน้าได้อย่างยั่งยืน


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #วันรัฐธรรมนูญ #เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ