ดร.โภคิน ชี้ รธน.ปี60
ผิดเพี้ยนจากหลักการประชาธิปไตย เป็นพัฒนาการของรัฐธรรมนูญในทางเลว หนุนแก้
รธน.ให้รัฐประหารไม่สามารถนิรโทษกรรมได้ ถือเป็นความผิดร้ายแรง ต้องรับโทษสูงสุด
โดยยึดเป็นประเพณีการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยที่สำคัญที่สุด
วันที่
10 ธันวาคม 2566 ดร.โภคิน พลกุล
ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยสร้างไทย
ร่วมเสวนา ในหัวข้อพัฒนาการของรัฐธรรมนูญไทย ซึ่งจัดขึ้นโดยสภาผู้แทนราษฎร
เนื่องในวันรัฐธรรมนูญโดยกล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2534 เป็นต้นมา
ทราบดีว่าบรรดาเนติบริกร
มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้คณะรัฐประหารโดยบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ โดยไม่ได้นิรโทษกรรมด้วยการออกเป็นพระราชบัญญัติเหมือนในอดีต
ที่สำคัญรัฐธรรมนูญปี 2560
บัญญัติไว้ว่าการกระทำจากการยึดอำนาจทั้งหลายชอบด้วยรัฐธรรมนูญทั้งหมด
จึงทำให้เกิดปัญหาในทางรัฐธรรมนูญ
เช่นเมื่อบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการใช้สิทธิเสรีภาพไปขัดกับการใช้อำนาจของคณะรัฐประหาร
ศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่า การใช้อำนาจของคณะรัฐประหารถือว่าใหญ่กว่า
"บทบัญญัติเช่นนี้จะเห็นได้ว่าผิดเพี้ยนไปหมดจากหลักการประชาธิปไตย
ถือว่าเป็นพัฒนาการของรัฐธรรมนูญในทางที่เลว
ที่บอกว่ารัฐธรรมนูญฉบับโน้นดีฉบับนี้ดีตนไม่เห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับไหนที่ดีจะไม่ถูกฉีก
ส่วนฉบับเลวไม่เคยถูกฉีก จนต้องมีวิกฤตการเมืองถึงจะสามารถเปลี่ยนแปลงฉบับเลวได้
เป็นที่มาที่ทำให้ประชาชนเจ็บปวดสูญเสียจากหลายเหตุการณ์ทางการเมือง"
ดร.โภคินกล่าว
ดร.โภคิน กล่าวเพิ่มเติมว่า
หากอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในอนาคต
เราต้องแก้ไขให้การยึดอำนาจรัฐประหารเป็นกบฏ เพราะหากไม่ทำเช่นนี้เราจะได้เห็นการรัฐประหารเกิดขึ้นอีกและเมื่อเกิดวิกฤตการเมืองและรัฐธรรมนูญท้ายที่สุดก็จะถูกรัฐประหารเช่นเคย
โดยเฉพาะที่ผ่านมาศาลฎีกาได้วินิจฉัยจนกลายเป็นบรรทัดฐานว่าใครรัฐประหารสำเร็จถือเป็นรัฎฐาธิปัตย์
ตนได้พูดคุยและตกผลึกร่วมกับหลายภาคส่วนเห็นว่า
ในบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญต้องเขียนไว้ว่า การรัฐประหาร
จะนิรโทษกรรมไม่ได้และถือเป็นความผิดร้ายแรง ต้องรับโทษสูงสุด
ซึ่งศาลจะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามหลักนิติธรรม
โดยบทบัญญัติเช่นนี้ให้ถือเป็นประเพณีการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยที่สำคัญที่สุด
แม้ว่าจะมีหรือไม่มีรัฐธรรมนูญ
หรือจะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ใดก็ตามให้ถือว่านี่คือส่วนหนึ่งที่สำคัญของรัฐธรรมนูญ
"ต้องให้ถือว่าประเพณีการปกครองที่บัญญัติว่าการรัฐประหารเป็นความผิดร้ายแรงและนิรโทษกรรมไม่ได้
คุณยึดอำนาจเมื่อใด จะอายุเท่าใดก็ต้องโดนศาลตัดสินได้ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือของศาล
และหากมีความกล้าหาญพอลองตัดสินสักครั้งว่าจะยึดอำนาจไม่ว่า หมดอำนาจเมื่อใดต้องติดคุก"
ดร.โภคินกล่าว
ดร.โภคิน
เชื่อว่าหากรัฐธรรมนูญมีความก้าวหน้าในลักษณะเช่นนี้
การรัฐประหารจะหมดสิ้นไปจากสังคมไทย
และการเมืองไทยจะเกิดการเรียนรู้ผิดบ้างถูกบ้างแต่จะสามารถเดินหน้าได้อย่างยั่งยืน
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #วันรัฐธรรมนูญ #เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ