วันพฤหัสบดีที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2566

แรงงานอดีตลูกจ้าง 3 บริษัท เดินขบวนไปกระทรวงแรงงาน เรียกร้องเงินชดเชย เหตุนายจ้างลอยแพ ย้ำไปมาทุกหน่วยงานไม่คืบ จี้รัฐบาล-กระทรวงแรงงาน เร่งเรียวยา หามาตรการไม่ให้นายจ้าง ละเมิดกฎหมายแรงงานอีก


แรงงานอดีตลูกจ้าง 3 บริษัท เดินขบวนไปกระทรวงแรงงาน เรียกร้องเงินชดเชย เหตุนายจ้างลอยแพ ย้ำไปมาทุกหน่วยงานไม่คืบ จี้รัฐบาล-กระทรวงแรงงาน เร่งเรียวยา หามาตรการไม่ให้นายจ้าง ละเมิดกฎหมายแรงงานอีก

 

วันนี้ (21 ธันวาคม 2566) เวลา 10.00 น. ที่บริเวณใต้ทางด่วนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชนนำโดย ธนพร วิจันทร์ และนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข พร้อมด้วย แรงงานอดีตลูกจ้าง 3 บริษัท ได้แก่ แอลฟ่า สปินนิ่ง เอเอ็ม ซี และบอดี้แฟชั่น ซึ่งถูกนายจ้างลอยแพ และไม่จ่ายเงินชดเชยตามกฎหมาย ตั้งขบวนเพื่อเคลื่อนไปกระทรวงแรงงาน เพื่อเรียกร้องให้กระทรวงมีการรับผิดชอบต่อการบังคับใช้กฎหมายแรงงาน จ่ายเงินในอัตราเท่ากับค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงาน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแสนสาหัสให้พี่น้องแรงงาน และให้กระทรวงแรงงานใช้อำนาจไปตามเงินกับนายจ้างที่ลอยนวลอีกที ซึ่งทางกลุ่มแรงงานเคยยื่นข้อเรียกร้องถึงนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้า

 

โดยมีการออกแถลงการณ์ถึงกระทรวงแรงงาน สืบเนื่องจากบริษัทบอดี้แฟชั่น ปิดกิจการ เลิกจ้างคนงาน 1,174 คน ตั้งแต่ปี 2562 โดยไม่มีการจ่ายเงินค่าชดเชย ต่อมามิถุนายน 2566 บริษัทแอลฟ่า สปีนนิ่ง ปิดกิจการ เลิกจ้างคนงานกว่า 132 คน และ เอเอ็มซี สปีนนิ่งเลิกจ้างคนงาน 153 คน โดยไม่จ่ายค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงาน

 

ในแถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า การที่รัฐบาลบกพร่องต่อการบังคับใช้กฎหมายทำให้นายทุนเอารัฐเอาเปรียบคนงานทั้งในด้านการจ่ายค่าจ้างต่ำ ทำงานยาวนานชั่วโมง จนกระทั่งปิดกิจการ นำกำไร นำความมั่งคั่งหนีออกไปคนงานจึงตกงานได้รับความเดือดร้อน เป็นความเสียหายและเป็นภัยพิบัติจากความไม่รับผิดชอบของกระทรวงแรงงาน รัฐบาลจึงต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการอนุมัติเงินกองทุนสงเคราะห์หรือเงินอื่นใดในการเยียวยาคนงานที่เดือดร้อน ดังเช่นการใช้งบกลาง 750 ล้านจ่ายให้คนไทยที่เดินทางกลับจากอิสราเอล

 

การที่กระทรวงแรงงานปล่อยปละละเลยต่อการบังคับใช้กฎหมายแรงงาน และการไม่อนุมัติเงินช่วยเหลือลูกจ้างตามสิทธิกฎหมายแรงงาน เป็นการแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้ปกป้องสิทธิประโยชน์ประชาชน สร้างความเสียหายเดือดร้อนให้กับประชาชน

 

เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน คนงานบอดี้แฟชั่น เอเอ็ม ซี และแอบฟ่า ขอเรียกร้อง

1. นายทุนข้ามชาติเจ้าของสินค้าแบรนด์เนม ผู้ผลิตในห่วงโซ่การผลิตทุกระดับชั้น ให้มีความรับผิดชอบทางศีลธรรมในการจ่ายเงินค่าชดเชยให้กับลูกจ้าง

2. ให้กระทรวงแรงงานดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญาต่อนายจ้างต่างชาติที่คดโกงเงินค่าจ้างและค่าชดเชยโดยทันทีและให้ถือเป็นอาชญากรทางเศรษฐกิจ

3. กระทรวงแรงงานต้องอนุมัติเงินกองทุนสงเคราะห์หรือเงินอื่นใดรวมทั้งงบกลางในการเยียวยาช่วยเหลือลูกจ้าง

 

เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชนและคนงานทั้ง 3 บริษัท จึงขอเรียกร้องต่อรัฐบาลเศรษฐาและกระทรวงแรงงานซึ่งมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ให้เยียวยาความเดือดร้อนของคนงานทั้ง 3 บริษัทเป็นการเร่งด่วน

 

โดยขบวนเคลื่อนมาถึงกระทรวงแรงงานในเวลา 11.00 น. ปรากฏว่าประตูกระทรวงปิด ขบวนเคลื่อนไปปักหลักที่ประตู 3 นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ออกมาเจรจาตัวแทนกลุ่มฯ ปรากฏว่าทางกระทรวงไม่เปิดประตูให้พี่น้องแรงงานเข้าไป จากนั้นได้เชิญตัวแทนพี่น้องแรงงานเข้าไปพูดคุยด้านได้

 

กระทั่ง 15.00 น. ได้ข้อสรุปว่าจะมีการบันทึกข้อตกลงร่วมกันระหว่างกระทรวงแรงงานและกลุ่มผู้เรียกร้อง แต่ทั้งนี้ทางกลุ่มผู้เรียกร้องมีความประสงค์ว่าต้องให้ในหนังสือบันทึกข้อตกลงต้องระบุวันที่ไปด้วยว่า วันอังคาร ที่ 26 ธันวาคม 2566 จะต้องนำปัญหาพี่น้องแรงงานเข้าประชุมมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) จึงปักหลักด้านหน้าประตู 3 รอความชัดเจนต่อไป

 

ต่อมา 17.00 น. ธนพร วิจันทร์ กล่าวบนรถเครื่องเสียงว่าทางกระทรวงแรงงานแจ้งมาแล้วว่าไม่สามารถระบุวันที่การนำเรื่องปัญหาและข้อเรียกร้องของกลุ่มฯ ลงในบันทึกข้อตกลงได้

 

ล่าสุด 17.16 น. ทางกลุ่มฯ ยืนยันยังปักหลัก และประชุมร่วมกัน โดย 18.00 น. จะแจ้งข้อสรุปทิศทางกลุ่มฯอีกครั้งหนึ่ง

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน #กระทรวงแรงงาน