วันจันทร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2566

‘พิธา-ชัยธวัช’ เข้าไต่สวนพยานบุคคล ศาล รธน.คดีนโยบายแก้ ม.112 มั่นใจไม่โดนยุบพรรค พร้อมยืนยันทั้งข้อเท็จจริง-กฎหมาย และเจตนา ไม่ได้นำไปสู่การล้มล้างการปกครอง


พิธา-ชัยธวัช’ เข้าไต่สวนพยานบุคคล ศาล รธน.คดีนโยบายแก้ ม.112 มั่นใจไม่โดนยุบพรรค พร้อมยืนยันทั้งข้อเท็จจริง-กฎหมาย และเจตนา ไม่ได้นำไปสู่การล้มล้างการปกครอง


วันนี้ (25 ธันวาคม 2566) เวลา 8.50 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางมาถึงศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อเข้าให้การไต่สวนพยานบุคคล โดยศาลรัฐธรรมนูญจะเปิดห้องพิจารณาคดีเพื่อไต่สวนคำร้องที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ว่าการกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกล ที่เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาเพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง 2566 และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่งหรือไม่


โดยนายพิธา ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้ารับการไต่สวนว่า ในภาพรวมคงต้องใช้ข้อเท็จจริง และหลักกฎหมายในการอธิบายว่า การที่เราดำเนินการตามกระบวนการนิติบัญญัติ ไม่เท่ากับการล้มล้าง เป็นกระบวนการถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ตามกฎหมาย ตามข้อบังคับทุกอย่าง ต้องค่อย ๆ อธิบายไปว่า การกระทำชอบด้วยกฎหมาย และชอบด้วยรัฐธรรมนูญทุกประการ แม้มีคนเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เรื่องนี้ไม่ล้มล้างแต่อย่างใด ส่วนรายละเอียดคงต้องรอให้เกิดขึ้นในชั้นศาลก่อนถึงพูดได้


ยืนยันไม่มีความหนักใจ และมั่นใจในเรื่องเจตนา การกระทำ และเรื่องข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายด้วย คงต้องใช้เวลาอธิบายในชั้นศาล และสังคมด้วย คิดว่าจะได้รับความเป็นธรรม" นายพิธา กล่าว


เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เตรียมหลักฐานอะไรไปชี้แจงในการไต่สวนบ้าง นายพิธา กล่าวว่า หลายเรื่องตามที่ได้โดนร้อง ทั้งอยู่ในสำนวนของฝั่งผู้ร้อง สถานการณ์เกิดอะไรขึ้น ช่วงไหน ขึ้นกับว่าถูกร้องเรื่องอะไร แต่ตอนนี้ศาลยังไม่ได้เตรียมคำวินิจฉัย อยู่ในกระบวนการขึ้นไต่สวน ต้องไต่สวนด้วยข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย


ไม่มีความหนักใจ ได้ทบทวนข้อเท็จจริง และเตรียมตัวอธิบายในหลาย ๆ เรื่อง ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น กระบวนการเขียนอธิบายมา และวันนี้คงได้อธิบายในการไต่สวน ได้บอกเจตนาว่าคืออะไร เพื่อลดวิกฤติทางการเมือง และทางสายกลางกับวิกฤติที่เกิดขึ้นในช่วง 1 ทศวรรษที่ผ่านมา นายพิธา กล่าว


ส่วนกังวลหรือไม่ว่าเรื่องนี้จะนำไปสู่การยุบพรรคก้าวไกลในอนาคตนั้น นายพิธา กล่าวว่า เท่าที่อ่านคำร้องดู หากการพิจารณาคดีไม่เป็นคุณ ศาลจะสั่งให้หยุดดำเนินการตามที่ร้องขอ ไม่มีกระบวนการของการยุบพรรค ยืนยันการกระทำดังกล่าวเป็นกระบวนการตามนิติบัญญัติ ตามรัฐธรรมนูญ ไม่ได้หมายถึงการล้มล้างการปกครอง


ไม่กังวลจะนำไปสู่การยุบพรรคในภายหลัง  มั่นใจว่าสำหรับข้อเท็จจริงคดีนี้ สามารถที่จะอธิบายได้ว่าเป็นความตั้งใจอย่างไร เจตนาอย่างไร อย่างที่บอกมีคนเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แต่สิ่งที่ทำไม่ได้ล้มล้างการปกครอง” นายพิธา กล่าว


ด้านนายชัยธวัช ระบุว่า ตนเองมีความมั่นใจ เพราะคดีนี้ไปได้ไกลที่สุด คือ ยุติการกระทำ  ส่วนการชี้แจงนั้น หลักฐานต่างๆได้ยื่นเอกสารไปก่อนหน้านี้ 2 ครั้งแล้ว และวันนี้ ขึ้นอยู่กับว่า ทางศาลรัฐธรรมนูญจะมีประเด็นอะไรที่จะไต่สวนเพิ่มเติมหรือไม่และยืนยัน เช่นเดียวกับนายพิธา ว่า ทั้งข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และด้วยเจตนาว่า การกระทำของพรรคก้าวไกล ไม่ได้นำไปสู่การล้มล้างการปกครองแต่อย่างใด


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ศาลรัฐธรรมนูญ #ก้าวไกล #มาตรา112