วันอาทิตย์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2566

'พิธา' ร่วมเสวนา'การเลี้ยงเด็กในโลกปัจจุบัน' #สายไหมแฟร์ ครั้งที่ 1 เผย 'ขอเป็นพ่อที่มีอยู่จริง' แม้ทำงานหนักแต่ต้องมีเวลาให้ลูก ชี้ การพาลูกลงพื้นที่ เป็นการเรียนรู้นอกห้องเรียน

 


'พิธา' ร่วมเสวนา'การเลี้ยงเด็กในโลกปัจจุบัน' #สายไหมแฟร์ ครั้งที่ 1 เผย 'ขอเป็นพ่อที่มีอยู่จริง' แม้ทำงานหนักแต่ต้องมีเวลาให้ลูก ชี้ การพาลูกลงพื้นที่ เป็นการเรียนรู้นอกห้องเรียน


วันนี้ (16 ธ.ค.66) Peekaboo Cafe & Playgroud เขตสายไหม กรุงเทพฯ ได้มีการจัดเสวนา 'การเลี้ยงเด็กในโลกปัจจุบัน' ในงานสายไหมแฟร์ ครั้งที่ 1 โดยมี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล, นางสาวกุลธิดา รุ่งเรื่องเกียรติ (ครูจุ้ย) จากคณะก้าวหน้า, แพทย์หญิงจิราภรณ์ อรุณากูร (หมอโอ๋) เจ้าของเพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน ร่วมเสวนา และดำเนินรายการโดย นางสาวศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.เขตสายไหม พรรคก้าวไกล


นายพิธา กล่าวว่า การมีลูกก็ต้องใช้เวลาเตรียมตัวเป็นปี ๆ เป็นนักการเมืองยังมีโรงเรียนสอนนักการเมือง เป็นสื่อมวลชนยังมีโรงเรียนสอนให้เป็นสื่อ คนจัดอิเว้นท์ยังมีคณะนิเทศสอนได้ แต่ความเป็นพ่อเป็นแม่คนไม่มีคนสอน ดังนั้นจึงต้องมีการขวนขวายหาข้อมูล ศึกษาความรู้ด้วยตนเอง


ตอนที่น้องพิพิมเกิดเป็นความวันที่ดีที่สุดในชีวิต แต่ขณะเดียวกันก็มีสิ่งที่ต้องกังวลตามมา ตั้งแต่การเตรียมความพร้อมและการให้เวลา โดยตั้งใจว่า ไม่ว่าจะทำงานหนักแค่ไหนก็จะต้องมีเวลาให้ลูก 'ผมจะเป็นพ่อที่มีอยู่จริงให้ลูก' ซึ่งก็ต้องใช้การบริหารจัดการ ในช่วงเวลาสำคัญคือ 10 ปีให้มีค่ามากที่สุด นายพิธากล่าว 


ความยากที่ผ่านมาได้แล้วคือความรู้สึกผิดเกี่ยวกับเรื่องของการไม่มีเวลาให้ลูก เพราะเด็กสะกดคำว่า Love ไม่เป็น เด็กสะกดคำว่า Love ด้วย Time ไม่ได้สะกดด้วย Love ใครที่ให้เวลากับเขามากที่สุดเขาก็คิดว่าคนนั้นแหละที่รักเขา แต่ในกรณีที่เราติดภารกิจเช่น ประชุมสภา ต้องลงพื้นที่ในการทำหน้าที่สส. ก็ต้องมีความกล้าหาญในการตัดสินใจเลือกบริหารจัดการเวลาให้กับลูก พร้อมกับทำงานในหน้าที่โดยไม่ทิ้งความไว้วางใจที่พี่น้องประชาชนมอบให้ 14 ล้านเสียง เราต้องมีสติกับการบริหารจัดการเวลา พร้อมทั้งแนะนำหนังสือในการเลี้ยงเด็ก 'ก่อนถึงอนุบาลก็สายเสียแล้ว' 


นายพิธา เน้นย้ำว่า เวลาไม่ได้เป็นแค่จำนวนแต่เวลาคือคุณภาพ ไม่ใช่ว่าจะต้องมีเวลาให้ลูกถมเถ แต่ว่าต้องเป็นเวลาที่มีคุณภาพ คุณภาพในมุมมองของตนนั้นก็คือลูกอยากทำอะไร ไม่ใช่ว่าเวลาที่เราอยากทำอะไร


โดยในช่วงท้ายได้เปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานได้สอบถาม หนึ่งในคำถามมีผู้ถามว่าได้มีการคุยการเมืองกับลูกหรือไม่ เพราะช่วงก่อนหน้านี้เคยได้ยินกระแสเด็กเล็ก ๆ ด่าลุงตู่ และพูดว่า รักพิธา โดยนายพิธา ตอบว่า เล่าเรื่องการเมืองที่เป็นระบบ ไม่ลงเรื่องส่วนตัวไม่ลงเรื่องบุคคล โดยเปรียบกับลูกว่า ที่ลงพื้นที่หาเสียงนั้นเขากำลังหากันว่าใครจะเป็นหัวหน้าห้อง เปรียบถึงการเลือกหัวหน้าห้องที่ทุกคนมี 1 สิทธิ์ 1 เสียงเท่ากันในการเลือก และให้ลูกได้เห็นการเมืองแบบการเมืองที่เป็นจริง โดยพาลูกไปลงพื้นทั้งที่อำเภอจะนะ ที่สงขลา จังหวัดชัยภูมิ อำเภอกัลยานิวัฒนา ที่เชียงใหม่ เพื่อให้ลูกได้เห็น และยิ่งมั่นใจว่าการเรียนรู้และการศึกษาไม่เหมือนกัน การงพื้นที่ทำให้ลูกได้เห็นอะไรที่นอกเหนือจากในห้องเรียน และที่สำคัญไม่เคยสอนให้โจมตีคนอื่น เพราะฉะนั้นระบบที่ดีจึงมีความสำคัญ


ภายหลังจบเสวนา นายพิธาได้เยี่ยมชมบูธต่าง ๆ ภายในงาน อาทิบูธชวนเด็ก ๆ แยกขยะ จากกลุ่มก้าวกรีน , กิจกรรมบำบัดจิตใจ โดยกลุ่มสาธารณสุขก้าวไกล รวมถึงบูธของกลุ่มแรงงานและสวัสดิการ และบูทจำหน่ายสินค้าชุมชนในเขตสายไหม เป็นต้น 


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์  #พิธาลิ้มเจริญรัตน์ #ก้าวไกลสายไหม #ก้าวไกล