วันพฤหัสบดีที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2566

ชนินทร์ ชูแก้จนด้วยที่ดินทำกิน 50 ล้านไร่ เดินหน้า 4 ยุทธศาสตร์ กระจายที่ดิน-เสริมเงินทุน-สร้างอาชีพ-พัฒนาโฉนดดิจิทัล


“ชนินทร์” ชูแก้จนด้วยที่ดินทำกิน 50 ล้านไร่ เดินหน้า 4 ยุทธศาสตร์ กระจายที่ดิน-เสริมเงินทุน-สร้างอาชีพ-พัฒนาโฉนดดิจิทัล


วันที่ 14 ธันวาคม 2566 นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงโครงการสัมมนา “การส่งเสริมอาชีพให้ประชาชนในพื้นที่ที่รัฐจัดให้ (คทช.) กับนโยบายการค้าและสิ่งแวดล้อม” ที่จัดขึ้น ณ อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน ว่ากระบวนการจัดการเรื่องที่ดินทำกิน เป็นหนึ่งในภารกิจที่รัฐบาลนายกเศรษฐา ทวีสิน ให้ความสำคัญมาก และสอดคล้องกับแนวนโยบายจัดสรรที่ดินทำกิน 50 ล้านไร่ที่พรรคเพื่อไทยใช้ในการรณรงค์มาโดยตลอด เพื่อเป็นหลักประกันทางอาชีพและคุณภาพชีวิตให้พี่น้องประชาชน ทั้งนี้ใน 100 วันแรกของการบริหารงาน จึงได้เร่งรัดการทำงานของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ภายใต้ 4 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่


1. เร่งรัดการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกิน โดยให้หนังสืออนุญาตทำกินในพื้นที่ของรัฐ ประเภท คทช. ที่สามารถตกทอดสู่ทายาทได้ ในพื้นที่เป้าหมาย 1,582 พื้นที่ รวมเนื้อที่ 5.8 ล้านไร่


2. ยกระดับเอกสาร คทช. ให้เป็นหลักทรัพย์ในการกู้เงินกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) ได้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนในการประกอบอาชีพ


3. ส่งเสริมอาชีพให้เกษตรกรในกลุ่มพื้นที่ที่จัดสรรที่ดินให้ ให้เกิดการรวมกลุ่มวิสาหกิจและพัฒนาสินค้าร่วมกัน เพื่อความยั่งยืนในการสร้างรายได้ ดังที่เห็นมาร่วมออกบูธในงานแสดงสินค้าในงานนี้ด้วย


4. ใช้เทคโนโลยีเพื่อปฏิรูปฐานข้อมูลที่ดินให้ทันสมัย ด้วยระบบแผนที่ One-Map โดยใช้ฐานข้อมูลที่ดินออนไลน์กลางของรัฐแบบบูรณาการเส้นเดียวกันทุกหน่วยงาน มาตราส่วน 1:4000 ด้วยการยิงพิกัดดาวเทียม เพื่อขจัดปัญหาข้อพิพาทการทับซ้อนของแนวเขตที่ดินของรัฐ และเร่งรัดการศึกษากฎหมายเพื่อใช้ระบบ “โฉนดดิจิทัล” แทนการแนบแผนที่แนบท้ายแบบกระดาษ ในการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานของรัฐ


“นอกเหนือจากการลดค่าครองชีพและแก้ปัญหาหนี้สินที่ได้เร่งดำเนินการไปแล้ว รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน ที่ควบคู่ไปกับการพัฒนาอาชีพ และช่วยให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนด้วย โดยหากทำได้สำเร็จจะเป็นการแก้ปัญหาความยากจน ผ่านการกระจายโอกาสในการประกอบอาชีพให้พี่น้องประชาชนได้อย่างยั่งยืน” นายชนินทร์กล่าว


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์