นายกฯ
กำชับแก้ปัญหายาเสพติดตามแผนเร่งด่วน 1 ปี ย้ำทุกฝ่ายต้องร่วมมือ
ปลุกชุมชนเข้มแข็ง เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย
สกัดกั้นปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยึดทรัพย์
เมื่อวันที่
26 ธันวาคม 2566 เวลา 13.00 น. ณ
ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา นายเศรษฐา ทวีสิน
นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดปฏิบัติการลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติด
ระยะ 1 ปี ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล โดยมี นายสมศักดิ์
เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร.
รักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ส.
หัวหน้าส่วนราชการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากทั่วประเทศทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร
และผู้แทนภาคประชาชนเข้าร่วมรับนโยบายรวมกว่า 500 คน
และพลเรือน ตำรวจ ทหาร รับชมผ่านระบบ Zoom 2,524 ช่องภาพ
รวมกว่า 25,000 คน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า
การเปิดปฏิบัติการลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติด ระยะ 1 ปี
และปฏิบัติการเผาทำลายยาเสพติดทั้งหมด
เป็นเจตนารมณ์ของรัฐบาลที่ต้องการแก้ไขปัญหายาเสพติดที่บ่อนทำลายสังคมไทยมาอย่างยาวนาน
โดยรัฐบาลได้กำหนดให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องดำเนินการอย่างจริงจังและเด็ดขาด
และได้เริ่มปฏิบัติการ Quick Win ในการสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน
การจับกุมและยึดทรัพย์ผู้ค้า จัดการเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง
และเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย เข้ารับการบำบัด
ลดความรุนแรงจากปัญหาจิตเวชจากยาเสพติด พร้อมกล่าวยอมรับว่า
ปัญหายาเสพติดในปัจจุบัน ยังคงมีความรุนแรง ประชาชนยังคงมีข้อกังวลจำนวนมาก
ซึ่งเกิดจากความห่วงในใยลูกหลาน ตนเองได้รับข้อร้องเรียนมาโดยตลอด
ในระหว่างการลงพื้นที่ไปในหลายจังหวัดในช่วงที่ผ่านมา
ได้เห็นแววตาของพ่อแม่ที่มีลูกหลานติดยาเสพติด
ได้ฟังเรื่องร้อนใจซึ่งเป็นประสบการณ์ที่น่าเศร้าใจ ขอให้เอาจริง เอาจัง ช่วยเหลือลูกหลานของพวกเค้า
ของพวกเรา ของพวกท่าน ให้พ้นจากยาเสพติดให้ได้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า การจัดการยาเสพติด
ต้องเริ่มที่แหล่งต้นตอ ซึ่งมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดใน
หลายจังหวัดชายแดนทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน
และเริ่มเคลื่อนย้ายมาทางตะวันตกด้าน จ.ตาก จ.กาญจนบุรี หรือ จ.ระนอง รวมทั้ง
และต้องมีการจัดการที่จุดระบาด ซึ่งมีหลายจังหวัดที่น่าเป็นห่วง ทั้งในพื้นที่
กรุงเทพมหานคร จังหวัดปริมณฑล จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ตอนบน โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเวลา
ที่ประเทศเพื่อนบ้านเรากำลังประสบปัญหา สงครามกลางเมืองภายในประเทศ
เป็นเหตุให้การผลิตยาเสพติดเพื่อนำมาซึ้งการส่งออกยาเสพติดจำนวนมาก
เป็นเงินทุนในการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ในการดำเนินการทางการเมือง
สถานการณ์ที่กล่าวมานั้น เป็นเหตุทำให้ยาเสพติดมีการเพิ่มขึ้นและได้ทะลักเข้าสู่ตามพื้นที่ตะเข็บชายแดนเยอะมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีปัญหาทางด้านจิตเวชจากยาเสพติดแทบทุกจังหวัด
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า
รัฐบาลกำหนดให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องดำเนินการ
อย่างจริงจังและเด็ดขาด โดยให้เร่งลดความรุนแรงจากภัยยาเสพติดอย่างจริงจังตาม
ตามแผนปฏิบัติการฯ ที่อนุมัติไปแล้ว และได้เริ่มปฏิบัติการไปแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นการสกัดกั้น ยาเสพติดตามแนวชายแดน การจับกุมและยึดทรัพย์ผู้ค้า
จัดการเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง และเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย เข้ารับการบำบัด
ลดความรุนแรงจากปัญหาจิตเวชจากยาเสพติดโดย เน้นหนัก 30 จังหวัดเป็นเป้าหมายแรก
นอกจากนี้ยังมีการเผาทำลายยาเสพติดของกลางมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง 340
ตัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับประชาชนทั้งประเทศ ว่าลูกหลานขอทุกคน
จะไม่ถูกยาเสพติดกัดกินอีกต่อไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบาย 10 ข้อ
ในการลดปัญหายาเสพติด คือ
1.
ลดความรุนแรงจากปัญหาผู้ที่มีอาการจิตเวชจากยาเสพติด
2.
ลดจำนวนผู้เสพยาเสพติดด้วยการบำบัดรักษาและต่อยอดการแก้ไขปัญหาผู้ผ่านการบำบัดอย่างครบวงจร
3.
ดำเนินนโยบายร่วมมือกับต่างประเทศเชิงรุก
และเพิ่มประสิทธิภาพการสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน
4.
ยกระดับการปราบปรามทำลายโครงสร้างเครือข่าย/กลุ่มการค้ายาเสพติด
ด้วยการตัดวงจรทางการเงินและการริบทรัพย์สิน
5.
ป้องกันยาเสพติดไม่ให้เกิดผู้เสพยาเสพติดรายใหม่
6.
ปลุกประชาชนให้ตื่นตัวและเข้าร่วมการแก้ไขปัญหายาเสพติด
7.
สร้างนวัตกรรมในการแก้ไขปัญหายาเสพติดใหม่ ๆ
8.
กำหนดเป้าหมาย และ KPI ลดปัญหายาเสพติดภายใน 4
ปี
9.
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
เป็นกำลังสำคัญยิ่งในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในครั้งนี้
10.
การบริหารจัดการที่เป็นเอกภาพ ผนึกกำลังร่วมกันประสานงาน
“จากความเอาจริงเอาจังของรัฐบาลและทุกภาคส่วน
จะมีผลทำให้ปัญหายาเสพติดลดความรุนแรงลงตามเป้าหมาย
ทำให้ประชาชนมีความรู้สึกมั่นคง ปลอดภัย คืนลูกหลานให้กับครอบครัว ทำให้ผู้เสพ
กลายเป็นผู้ป่วย ทำให้ชุมชนปลอดจาก ปัญหายาเสพติด
ซึ่งถือเป็นเจตนารมณ์สูงสุดของรัฐบาล และประชาชนคนไทยทั้งประเทศ” นายกรัฐมนตรี ย้ำ
ที่มา
: https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/76657
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ยาเสพติด