วันศุกร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

ทีมเศรษฐกิจเพื่อไทย พบนักธุรกิจหาดใหญ่ ขายนโยบาย ‘เขตธุรกิจใหม่’ ‘พรหมินทร์’ ยันเพื่อไทย ขออาสาพาประเทศพ้นวิกฤตอุปสรรค ‘ปานปรีย์’ มั่นใจ ‘รัฐบาลเพื่อไทย’ พร้อมเจรจา FTA ไทย-อียู เสร็จใน 1 ปี


ทีมเศรษฐกิจเพื่อไทย พบนักธุรกิจหาดใหญ่ ขายนโยบาย ‘เขตธุรกิจใหม่’ ‘พรหมินทร์’ ยันเพื่อไทย ขออาสาพาประเทศพ้นวิกฤตอุปสรรค ‘ปานปรีย์’ มั่นใจ ‘รัฐบาลเพื่อไทย’ พร้อมเจรจา FTA ไทย-อียู เสร็จใน 1 ปี


เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2566  พรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานนโยบาย พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ​​รองประธานกรรมการ ด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่ปรึกษา คณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย  ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และกรรมการ เลขานุการ และโฆษกคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย นายธนวรรษ เพ็งดิษฐ์ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย พูดคุย แลกเปลี่ยน และนำเสนอแนวนโยบายด้านเศรษฐกิจ การเกษตร การท่องเที่ยวและเอสเอ็มอี กับผู้ประกอบการ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยอำเภอหาดใหญ่ถือเป็น 1 ใน 4 จังหวัดนำร่องเป็นเขตธุรกิจใหม่ (new business zone) เชียงใหม่ ขอนแก่น สงขลา กรุงเทพฯ  ตามนโยบายของพรรคเพื่อไทย โดยผู้ประกอบการหาดใหญ่ สอบถามเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ เช่น


1. หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล จะทำอะไรให้หาดใหญ่

2. ในสถานการณ์ยางราคาตกต่ำ จะทำอย่างไรให้ชาวสวนยางมีรายได้เพิ่มขึ้น

3. ต้องมีคนพื้นที่จริง ๆ รับทราบปัญหาเชิงพื้นที่จริง ๆ มาช่วยแก้ปัญหาให้หาดใหญ่

4. การส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองหาดใหญ่และสงขลา


นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานนโยบาย พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เขตธุรกิจใหม่ (new business zone) คำนึงถึงหลักนิติธรรมเป็นหลัก( Rule of law) กฎหมายบีโอไอต้องเป็น one stop service ลดทุจริตใต้โต๊ะด้วยการใช้เทคโนโลยี


ทั้งนี้ ประเทศไทยต้องการการเปลี่ยนแปลง พรรคเพื่อไทยเสนอตัวมาเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง ด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวม เริ่มที่กระเป๋าเงินดิจิทัล ที่มุ่งสร้างรายได้ระยะสั้นให้คนยากจน กระตุ้นการบริโภค ซึ่งจะส่งผลต่อให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมเติบโตไปด้วย


นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ​​รองประธานกรรมการ ด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย   กล่าวว่า ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยได้ทำงานเพื่อเพิ่มผลผลิตอย่างจริงจังให้กับยางพารา ซึ่งเป็น 1 ในพืชเศรษฐกิจหลัก 7 ตัวที่พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญ ได้แก่ ข้าว ข้าวโพด อ้อย ปาล์มน้ำมัน ยางพารา มันสำปะหลัง  ทุเรียน โดยในแปลงสาธิตของเรา ได้ทดลองลดการใช้ปุ๋ย เปลี่ยนสูตรปุ๋ย เพื่อเพิ่มน้ำยางได้ 1 เท่า และแก้ปัญหาเชื้อราในรากต้นยางได้ ในแปลงทดลอง มั่นใจหากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลและได้ผลักดันแนวคิดดังกล่าว จะสามารถเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรไม่ต่ำกว่าเท่าตัว เพิ่มรายได้เกษตรกร 3 เท่า ภายใน 4 ปี


ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย เป็นพรรคเดียวที่ประกาศจีดีพีคาดการณ์ที่ 5% เพื่อเป็นตัวขับเคลื่อนการดำเนินนโยบายให้ไปถึงเป้าหมายนั้นในทุกภาคส่วนได้ ดังนั้นเรามีความตั้งใจจริง ที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาลของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง


ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และกรรมการ เลขานุการ และโฆษกคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นโยบายเขตธุรกิจใหม่ของพรรคเพื่อไทย มุ่งเป้าไปที่การปลดล็อคกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุนของผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ แตกต่างจากอีอีซี ที่มุ่งให้สิทธิประโยชน์อย่างเดียว ทำให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนแล้วนำเงินออกไป ไม่ได้สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ประกอบการภายในประเทศมากนัก ขณะที่ภาคธุรกิจภายในประเทศยังประสบปัญหาด้านข้อกฎหมาย


สำหรับนโยบายเขตธุรกิจใหม่ (New business zone) อยู่ภายใต้แนวคิด New law, more intensive, attractive infastructure : “กฎหมายใหม่ สิทธิประโยชน์มาก โครงสร้างพื้นฐานเหมาะ”  เพื่อดูแลกฎหมายใหม่ที่จะดูแลผู้ประกอบการในพื้นที่นั้นเฉพาะในเขตธุรกิจนั้น ๆ 


ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุกร  ทีปรึกษาคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เมื่อครั้งที่ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้บุกเบิกการเจรจาการค้า FTA ตนเป็นผู้แทนการค้าไทย ซึ่งขณะนั้นถือเป็นเรื่องใหม่ ต้องทำงานผ่านอุปสรรคทั้งในส่วนโครงสร้างรัฐแบบเดิม และการเปิดตลาดใหม่ ๆ แต่ด้วยวิสัยทัศน์ด้านการค้าต่างประเทศของรัฐบาลพรรคไทยรักไทย เราไม่หวั่นไหว พร้อมเดินหน้ามุ่งเจรจาการค้า จนสามารถเปิดตลาดการค้าไปยังประเทศใหม่ ๆ สร้างสิทธิประโยชน์ด้านการค้าไทย และสร้างมูลค่าส่งออกสินค้าไทยได้มหาศาล 


ทั้งนี้ รัฐบาลที่ผ่านมาการเจรจา FTA ไทย-อียู  ไม่มีความคืบหน้า จนเมื่อใกล้หมดวาระรัฐบาล เพิ่งบอกว่าต้องใช้เวลาเจรจาแล้วเสร็จภายใน 2 ปี หากเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะผลักดันให้มีการเจรจาการค้า FTA มากขึ้น และจะผลักดันให้การเจรจา FTA ไทย-อียู แล้วเสร็จภายใน 1 ปี 


นายธนวรรษ เพ็งดิษฐ์ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้ ร่าง พ.ร.บ. เขตธุรกิจใหม่ รวม 67 มาตรา ที่ยึดหลักนิติธรรม หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล โดยมีเนื้อหาสาระสำคัญหลายเรื่อง เช่น ทุกข้อบัญญัติที่เกี่ยวกับกฎหมายนี้จะยึดหลักนิติธรรม เพื่อเป็นหลักประกันว่ากฎหมายนี้จะบังคับใช้อย่างจริงจัง เพื่อเข้าสู่การพัฒนาไปสู่ Global standard แล้ว ส่งผลดีต่อการมุ่งสู่การเป็นประเทศพัฒนา รวมทั้งสนับสนุนการระงับข้อพิพาทที่ไม่ได้พึ่งพาการนำไปสู่การฟ้องศาลเป็นอย่างแรกเท่านั้น แต่จะสนับสนุนให้ใช้กระบวนการอนุญาโตตุลาการ เพราะมีความรวดเร็ว มีมาตรฐาน นานาประเทศให้การยอมรับ


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย #เลือกตั้ง66