วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2567

สาส์นจาก อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ กรณีทวงความยุติธรรมปี 2553 ถึง พรรคเพื่อไทย

 


มีหลายท่านสงสัยเรื่องการทวงความยุติธรรมกรณีปี 2553 ที่อาจมีข้อเรียกร้องและตอบสนองอย่างไร?


ดิฉันขอเรียนว่า ในห้วงเวลาปีพ.ศ. 2564 – 2565 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนการเลือกตั้ง 2566 ดิฉันและคณะประชาชนทวงความยุติธรรม ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มญาติวีรชน 2553 กลุ่มทนาย นักกฎหมาย และอดีตแกนนำนปช. เช่นดิฉัน, คุณหมอเหวง และประชาชนคนเสื้อแดงส่วนหนึ่ง ได้ร่วมกันปรึกษาหารือที่จะรื้อฟื้นคดีความที่ต้องยุติไปหลังมีการทำรัฐประหาร 2557 ด้วยการยุติการทำสำนวนไต่สวนชันสูตรพลิกศพกว่า 60 คดี และการขึ้นสู่ศาลอาญา ในบางคดีถูกโยกไป ป.ป.ช. กรณีนักการเมือง และทหารไปสู่ศาลทหาร นั้น


เราจึงมีการปรึกษาหารือฝ่ายกฎหมายที่ทำคดีมาเก่า ตั้งแต่ต้นจนถึงวาระที่คล้ายจะจบ รวมทั้งคดีอื่น ๆ ของคนที่ถูกจับภายหลังรัฐประหารด้วย สรุปข้อเรียกร้องเป็นข้อเสนอสำหรับกรณีปี 2553 เฉพาะหน้า 3 ข้อ คือ


1) ตั้งคณะกรรมการและคณะทำงาน ซึ่งประกอบด้วย ตัวแทนฝ่ายรัฐบาลที่มีอำนาจสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตัวแทนพรรคการเมืองฝ่ายค้าน และตัวแทนฝ่ายผู้สูญเสีย, นักวิชาการ, นักสิทธิมนุษยชน, นักกฎหมาย เพื่อตรวจสอบคดีความกรณีปี 2553 ที่ถูกแช่แข็ง บิดเบือน ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายรัฐไทยตามหลักนิติรัฐนิติธรรม รวมทั้งคดีความที่ปฏิบัติต่อเยาวชน/ประชาชนหลังปี 2563 เป็นต้นมา ให้เป็นไปตามกฎหมายที่ได้ลงนามหลักสิทธิมนุษยชนและกติการะหว่างประเทศขององค์การสหประชาชาติ เร่งรัดคดีความที่เจ้าหน้าที่รัฐกระทำต่อประชาชน และยังค้างคาอยู่ที่หน่วยงานต่าง ๆ เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ), กระทรวงยุติธรรม, อัยการ ฯลฯ


2) แก้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ พระธรรมนูญศาลทหาร, พระธรรมนูญศาลยุติธรรม, พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีที่ทหารและนักการเมืองทำความผิดทางอาญาต่อประชาชน ให้ขึ้นศาลพลเรือน ไม่ใช่ทหารขึ้นศาลทหาร นักการเมืองขึ้นศาลนักการเมือง ดังที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ทำให้ทหารและนักการเมืองไม่ได้ถูกดำเนินคดีเฉกเช่นประชาชนทั่วไป


3) ขอให้ลงนามรับรองเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ เฉพาะกรณีเหตุการณ์ 2553 ทั้งนี้ไม่เกี่ยวกับมาตรา 6 ในรัฐธรรมนูญ ที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์แต่ประการใด ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามที่อัยการศาล ICC ได้มาแจ้งไว้กับรัฐบาลเพื่อไทยเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2555


ทั้งนี้ เราไม่ได้เสนอข้อที่พรรคเพื่อไทยและอดีตแกนนำที่เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เสนอให้ญาติฟ้องร้องไปที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองโดยตรง เพราะเราพิจารณาว่า เป็นปัญหาทางเดินที่ถูกชี้มาผิดพลาดแต่ต้น เพราะนักการเมืองเหล่านั้นไม่ได้ทำตามอำนาจนายกรัฐมนตรีและผอ.ศอฉ.ที่ถูกต้อง เป็นการกระทำที่เล็งเห็นผลว่าจะมีการตายเกิดขึ้นแน่นอน ด้วยการอนุมัติกระสุนจริง, พลซุ่มยิง และกำลังพลมากมายมหาศาล มีการใช้กระสุนนับแสนนัด กระสุนซุ่มยิงกว่า 500 นัด มันต้องเล็งเห็นผลว่าจะต้องมีการตายเกิดขึ้น จึงสั่งการเช่นนั้นได้ และจนบัดนี้ก็ไม่มีข้อพิสูจน์ใด ๆ ผ่านมา 14 ปีแล้ว ว่ามีกองกำลังอาวุธของนปช.  คนเสื้อแดง เรื่องชายชุดดำมีอาวุธ และตัดสินใจว่านี่ไม่ใช่การต่อต้านการจลาจลด้วยซ้ำ แต่ถือเป็นการก่อการร้ายและการสู้รบในเมือง


นี่เป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่ต้องมีคนรับผิดชอบ ไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกต่อไป ผู้ฆ่า-ผู้สั่งฆ่า ลอยนวลพ้นผิด มีแต่การคร่ำครวญถึงชะตากรรมของประชาชนยุคแล้วยุคอีกเท่านั้น ดังนั้น เราไม่เสนอทางเลือกที่พรรคเพื่อไทยเลือก


แต่ถือเป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยตัดสินใจเองที่ไม่สนับสนุนข้อเสนอเราแม้แต่ข้อเดียว เช่น การตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อตรวจสอบ เร่งรัด ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่พักต้องพูดถึงข้อเสนอแก้กฎหมายให้นักการเมืองและทหารที่ทำผิดคดีอาญาร้ายแรงต่อประชาชนให้ขึ้นศาลพลเรือนปกติ หรือเหตุการณ์ย่ามใจ ฆ่าประชาชน สั่งฆ่าประชาชนที่เล็งเห็นผลการตายเกิดขึ้น ไม่ต้องเกิดอีกต่อไป อยากให้เข็ดหลาบบ้างว่า ชีวิตประชาชนมีค่า ไม่ใช่แค่โยนเงินเยียวยาแล้วจบกัน!


ดิฉันและคณะฯ ได้พยายามทำเต็มที่ในฐานะกลุ่มองค์กรประชาชนอิสระ (อิสระจริง ๆ ไม่อิงใคร) ไปพบพรรคการเมืองทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลหลายรอบมาก แต่เมื่อพรรคเพื่อไทยเลือกจะทำตามที่พวกท่านคิดได้แค่นั้น คือเอาผิดเฉพาะนักการเมืองบางคน (ซึ่งมีโอกาสเป็นไปไม่ได้สูงมาก) ก็ขอให้ท่านอดีตแกนนำสายพรรคที่พยายามร่วมกับพรรคเพื่อไทย โชคดี!!!!!


ถ้าทำได้ ก็ให้ญาติลองฟ้องร้องตามนั้น (ไปตามเส้นทางที่พวกเขาขีดให้เดิน)


แต่ดิฉันและคณะฯ จะร่วมกับกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน เพื่อดำเนินการต่อในสิ่งที่ต้องทำตามกฎหมาย และการแก้กฎหมายเพื่ออนาคตของประเทศ


ดิฉันเคยเดินหน้าเรื่องศาลอาญาระหว่างประเทศ ICC จนอัยการของศาลอาญาระหว่างประเทศมาขอร้องพรรคเพื่อไทย (รมว.ต่างประเทศ) ขณะนั้น ให้อนุญาตให้เขาเข้ามาดำเนินการสืบสวน พรรคเพื่อไทยก็ไม่อนุญาตมาแล้ว


นี่ก็จะเป็นการพิสูจน์หัวใจพรรคเพื่อไทยอีก ว่าจะทำตามที่ฝ่ายตนเองเห็นชอบเท่านั้น หรือไม่?


เราก็คงยังเดินหน้าต่อไป และให้คนรุ่นใหม่ได้รับความเข้าใจว่า นี่เป็น ความอยุติธรรมในระยะที่เปลี่ยนไม่ผ่าน คือยังอยู่ในระบอบสืบทอดอำนาจเผด็จการจารีตนิยมแท้ ๆ


ธิดา ถาวรเศรษฐ

เลขาธิการกรรมการคณะประชาชนทวงความยุติธรรม 2553 (คปช.53)

30 กันยายน 2567


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #คปช53 #คนเสื้อแดง #เมษาพฤษภา53