วันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2567

"ณัฐพงษ์ " ชี้ 1 ปี "รัฐบาลเพื่อไทย" สูญเปล่า หลายนโยบายไร้ผลรูปธรรม จี้ "แพทองธาร" พูดนอกสคริปต์ ปมแก้รธน ถามนโยบายเรือธง เพื่อประชาชนหรือเพื่อ 3 นาย นายใหญ่-นายหน้า-นายทุน


"ณัฐพงษ์ " ชี้ 1 ปี "รัฐบาลเพื่อไทย" สูญเปล่า หลายนโยบายไร้ผลรูปธรรม จี้ "แพทองธาร" พูดนอกสคริปต์ ปมแก้รธน ถามนโยบายเรือธง เพื่อประชาชนหรือเพื่อ 3 นาย นายใหญ่-นายหน้า-นายทุน


วันนี้ (12 กันยายน 2567) ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานในการประชุม เพื่อพิจารณาครม.แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 162 ต่อมาเวลา 10.20 น. นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน อภิปรายว่า ขอตั้งคำถามว่ามีนโยบายอะไรที่ได้ผลเป็นรูปธรรมบ้าง ทั้งนี้นโยบายด้านสวัสดิการสังคมไม่ได้ทำตามนโยบายที่หาเสียง และนโยบายรัฐบาลชุดที่ผ่านมา เช่น เงินอุดหนุนเด็ก เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เงินอุดหนุนคนพิการ รวมถึงปัญหายาเสพติด สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยไม่มีความมั่นคงในชีวิต หลายปัญหาที่เกิดไม่ใช่ปัญหาใหม่ ทั้งนี้ประชาชนคาดหวังรัฐบาลที่เพื่อไทยเป็นแกนนำมาแก้ปัญหา ช่วง 11 เดือนที่ผ่านมาจากการสำรวจของสำนักข่าวแห่งหนึ่ง ระบุว่า มีข้อสั่งการเทียบเท่ามติครม. 193 เรื่อง ส่งต่อ 251 หน่วยงานรัฐ และ 162 เรื่องไม่มีกรอบเวลามี 10 เรื่องที่หน่วยงานรายงานกลับต่อ ครม. คือ รับลูกและเอาด้วย เพราะรัฐบาลขาดอำนาจนำในการบริหารราชการ และสั่งการที่ราชการไม่ปฏิบัติตาม ซึ่งปัญหาอาจอยู่ที่ไม่เข้าใจระบบราชการ หรือการไม่มีอำนาจ ซึ่งหนึ่งปีของรัฐบาลนั้นสูญเปล่า


นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า 3 ปีของรัฐบาลหลังจากนี้เป็นบทพิสูจน์ว่าจะเจ๊า หรือ เจ๊ง ซึ่งมีความท้าทายในประเด็นเรื่องการศึกษา รวมถึงการแก้ปัญหาอาชญากรรมออมไลน์ รวมไปถึงประเด็นค่าแรง ขณะเดียวกันในปัญหาภัยพิบัติ ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แม้ประเด็นปัญหาดังกล่าวบรรจุในนโยบายรัฐบาล แต่สิ่งที่ต้องการเห็นคือ รายละเอียดที่ต้องการให้ ครม. ตอบ โดยเฉพาะนโยบายเร่งด่วน 10 ข้อต้องมีรายละเอียด พร้อมปฏิบัติได้ทันที


นโยบายเรือธงของรัฐบาลมีเป้าหมายของประชาชนอยู่ตรงไหน คือ เป็น นโยบายเรือธง ให้ 3 นาย คือ นายใหญ่ นายหน้า หรือนายทุน เช่น นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ที่เป็นนโยบายเรือธงให้นายใหญ่ได้ขึ้น นโยบายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่มีข้อสงสัยถึงการเปิดกว้างหรือล็อกการประมูล เพื่อเอื้อนายทุน และโครงการแลนบริดจ์ในการใช้งบประมาณของรัฐเพื่อเวนคืน เอื้อให้นายหน้าค้าที่ดินหรือไม่” นายณัฐพงษ์ กล่าว


นายณัฐพงษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับนโยบายแก้รัฐธรรมนูญควรเป็นนโยบายเร่งด่วน ที่ควรทำเพื่อประชาชนที่เป็นนายของรัฐบาล ซึ่งประเด็นนี้อาจทำให้รัฐบาลเจ๊าหรือเจ๊ง หากไม่ทำในวาระเร่งด่วน น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ และเป็นผู้นำสูงสุดฝ่ายรัฐบาล ตนอยากให้ลุกขึ้นชี้แจงนอกสคริปต์ แสดงบทบาทความเป็นผู้นำที่ดี ชี้นำความคิด และควรชี้นำรัฐบาลว่าการแก้รัฐธรรมนูญเป็นวาระเร่งด่วน คู่ขนานกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ที่พรรคประชาชนเสนอร่างแก้ไข 4 ฉบับ ทั้งประเด็นมาตรฐานจริยธรรม เลิกยุทธศาสตร์ชาติ ยกเลิกมาตรา 279 เพิ่มหมวดป้องกันและต่อต้านการรัฐประหาร รวมถึงการปฏิรูประบบงบประมาณ ภาษี รวมทั้งเรื่องปฏิรูประบบงบประมาณ ระบบภาษี พรรคประชาชนส่งร่างกฎหมายหลายฉบับ และรอให้ นายกฯ ให้คำรับรอง หากเห็นด้วยร่วมกัน ในร่างกฎหมายและนโยบายด้านใด ให้เซ็นกลับมาเดินหน้าในสภาร่วมกันใน 3 ปีต่อจากนี้

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #พรรคประชาชน #อภิปรายนโยบายรัฐบาล