ศาลพิพากษา
5 นักกิจกรรม #ทะลุฟ้า คดีสาดสีหน้าพรรคภูมิใจไทย ยกฟ้องข้อหา ม.215, ม.216 แต่ปรับข้อหา
พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-พ.ร.บ.จราจร-พ.ร.บ.ความสะอาด
และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต
วันนี้
(24 กันยายน 2567) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
รายงานว่า ศาลอาญาพิพากษาคดีของ 5 นักกิจกรรมทะลุฟ้า
เหตุสาดสีหน้าพรรคภูมิใจไทย เมื่อ 30 ก.ค. 64 ยกฟ้อง ข้อหา ม.215 และ ม.216 แต่ลงโทษ #พรกฉุกเฉิน #พรบจราจร #พรบความสะอาด ปรับจำเลยที่ 1 - 2 (ไผ่ จตุภัทร์ - คาริม จิตริน) รวมคนละ 8,000 บาท ส่วนจำเลยที่
3 - 5 (ต๋ง ปนัดดา - ยาใจ ทรงพล - ไดโน่ นวพล) มีความผิด #ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ด้วย
ปรับรวมคนละ 8,200 บาท
สำหรับเหตุที่มาของคดีดังกล่าวมีที่มาจาก
29 เม.ย. 2565 พนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องคดีของ 4
สมาชิกกลุ่มทะลุฟ้า ได้แก่ จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน,
จิตริน พลาก้านตง หรือ คาริม, ทรงพล สนธิรักษ์
หรือ ยาใจ และปนัดดา ศิริมาศกูล หรือ ต๋ง ต่อศาลอาญา
กรณีถูกกล่าวหาจากการทำกิจกรรมหน้าพรรคภูมิใจไทย
เพื่อยื่นหนังสือข้อเรียกร้องให้ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2564 โดยมีการแสดงออกผ่านการปาถุงสีแดงใส่บริเวณหน้าพรรคด้วย
ต่อมาศาลให้ประกันตัว แต่มีเงื่อนไขทั้งให้ติด EM, ห้ามออกนอกเคหสถานช่วงกลางคืน
และห้ามทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์และศาลเสื่อมเสีย
ทั้งที่พฤติการณ์ในคดีไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถาบันฯ แต่อย่างใด
สำหรับคดีนี้
มีผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด 7
คน โดยเป็นคดีของ สน.บางเขน
ทั้งหมดถูกทยอยแจ้งข้อกล่าวหาไม่พร้อมกันในช่วงปี 2564 ก่อนจะมีการแยกสำนวนสั่งฟ้องทั้งหมด
4 คน ก่อน ใน 5 ข้อกล่าวหา ได้แก่
ฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215
มั่วสุมกับตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป
ขู่เข็ญว่าจะใช้กําลังประทุษร้าย หรือกระทำการให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง,
มาตรา 216 เมื่อเจ้าพนักงานสั่งผู้ที่มั่วสุมให้เลิกไป
แต่ไม่เลิก, ร่วมกับขีดเขียนพ่นสี หรือทำให้ปรากฏซึ่งข้อความ
ภาพ ที่กําแพง อาคาร หรือที่สาธารณะ ตาม พ.ร.บ.ความสะอาดฯ
และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต
ขอบคุณข้อมูลจาก
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน