“สุชาติ สวัสดิ์ศรี” แถลงสู้คดี หลังถูกแจ้งข้อหา ม.116 กรณีกลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน กล่าวหาไกลถึงพัทลุง เหตุแชร์คลิป iLaw
ด้านทนาย เตรียมยื่นหนังสือถึง ผบ. ตร.
ให้โอนคดีมาส่วนกลาง-เรียกร้องอัยการควรมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง
เมื่อวันที่
19 ก.ย. 2567 เวลา 14.00 น.
ที่ห้อง 221 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ท่าพระจันทร์ สุชาติ สวัสดิ์ศรี หรือ “สิงห์สนามหลวง”
บรรณาธิการ-นักคิดนักเขียน-อดีตศิลปินแห่งชาติ พร้อมทีมทนายความ
แถลงข่าวถึงกรณีถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ที่สถานีตำรวจภูธรศรีนครินทร์
จังหวัดพัทลุง หลังจากสมาชิกของกลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบันไปแจ้งความกล่าวหาไว้
และสุชาติเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาเมื่อช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2567
สุชาติได้รับหมายเรียกจาก สภ.ศรีนครินทร์
ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และ
พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ในคดีที่มี ทรงชัย เนียมหอม จากกลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน
เป็นผู้กล่าวหา โดยกลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ภาคใต้
ทำการแจ้งความดำเนินคดีประชาชนจำนวนมากที่แสดงความคิดเห็นทางการเมือง
โดยเฉพาะในข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ไว้ในสถานีตำรวจต่าง
ๆ หลายจังหวัด
หมายเรียกดังกล่าวออกโดย
ร.ต.อ.มานพ สุวรรณมณี รองสารวัตรสอบสวน สภ.ศรีนครินทร์
โดยระบุว่าเป็นหมายเรียกครั้งที่ 3 แต่สุชาติยังไม่เคยได้รับหมายเรียกครั้งที่
1 และ 2 มาก่อนแต่อย่างใด
ต่อมาทนายความได้ประสานขอเลื่อนการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาออกไปก่อน จนเมื่อวันที่ 11
ก.ย. 2567 ที่ผ่านมา สุชาติ สวัสดิ์ศรี
พร้อมทนายความและผู้ไว้วางใจ ได้เดินทางไปยังจังหวัดพัทลุง
เพื่อพบพนักงานสอบสวนผู้ออกหมายเรียกดังกล่าว
ต่อมาพบว่าเหตุที่ถูกกล่าวหานั้น
ทรงชัยได้ไปแจ้งความกล่าวหาไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2565 โดยนำโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2565
ซึ่งเป็นการแชร์คลิปวิดีโอจากเพจ iLaw ในเรื่อง
“10 ข้อที่คนไม่รู้เกี่ยวกับ #มาตรา112” มากล่าวหา
และผู้แชร์ข้อความเพียงแต่เขียนข้อความประกอบว่า “ทำไมจึงต้องยกเลิก ม.112 เราจะเลือกพรรคการเมืองที่มีนโยบายชัดเจนเรื่อง ‘ยกเลิก ม.112’ #ปล่อยเพื่อนเรา”
สุชาติถูกพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา
ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116
(1) และ (2) กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา
หนังสือหรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ
หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต
เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กําลังข่มขืนใจ
หรือใช้กําลังประทุษร้าย
เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อ ความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร
และข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พ.ศ. 2560 มาตรา 14
(1) และ (2) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน
หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ
โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนฯ
หรือโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ
ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคง ในทางเศรษฐกิจของประเทศ
หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ
หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
สุชาติให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
และจะยื่นคำให้การเพิ่มเติมต่อไป