วันเสาร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2567

จดหมายจากแดน 4 'อานนท์' เขียนมาเล่า เรือนจำฉาย'มังกรหยก'ให้ดู ภาพสวยมาก ๆ มีนิยายจีนกำลังภายในให้อ่านหลายเล่ม การอ่านเป็นอีกเครื่องมือที่ใช้ฆ่าเวลา รอวันได้พบกัน

 


จดหมายจากแดน 4 'อานนท์' เขียนมาเล่า เรือนจำฉาย'มังกรหยก'ให้ดู ภาพสวยมาก ๆ มีนิยายจีนกำลังภายในให้อ่านหลายเล่ม การอ่านเป็นอีกเครื่องมือที่ใช้ฆ่าเวลา รอวันได้พบกัน 


วันนี้ (6 กันยายน 2567) เพจเฟสบุ๊ค “อานนท์ นำภา” โพส ข้อความจดหมายฉบับ 6 ก.ย. 67 โดยมีใจความว่า


ตอนนี้พ่อได้หนังสือนวนิยายจีนกำลังภายในของ “โกวเล้ง” มา 4 เรื่อง คือ ฤทธิ์มีดสั้น ดาบจอมภพ เหยี่ยวเดือนเก้า และ จอมดาบหิมะแดง สิ่งที่ในคุกมีมากกว่าข้างนอก ก็น่าจะเป็น “เวลา” 4 เรื่องนี้อ่านคงใช้เวลาเป็นเดือน หรือถ้าอ่านแบบเสพย์สำนวน ก็น่าจะใช้เวลา 2-3 เดือน แต่ช่างเถอะ พ่อคิดว่าพ่อมีเวลา


6 กันยายน 2567 ถึง ปราณและขาล ลูกรัก


หลังจากที่คดีของพ่อต้องเลื่อนนัดหลายคดี เพราะมีจำเลยบางคนลี้ภัยการเมือง จำนวนวันที่พ่อต้องออกศาลก็ลดลง จากต้องออกศาลทุกวันก็เหลือแค่สัปดาห์ละครั้ง หรือสองครั้ง ทำให้มีเวลาได้คิด ได้เขียน และได้อ่านหนังสือที่อยากอ่านแต่ไม่ได้อ่านข้างนอกอีกหลายเล่ม การอ่านเป็นอีกเครื่องมือที่ใช้ฆ่าเวลา รอวันได้เจอหน้าพวกเธอกับแม่ ในวันที่พ่อได้ออกศาล และก็เป็นเรื่องบันเทิงมาก วานนี้เรือนจำเอาซีรีย์จีนกำลังภายในเรื่องมังกรหยก ภาค1 (ก้วยเจ๋ง+อึ้งย้ง) มาฉายตอนเย็น เป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ภาพสวยมาก ๆ


พอได้ดูมังกรหยก บทประพันธ์ของ ”กิมย้ง“ ก็ต้องวางฤทธิ์มีดสั้นไว้อ่านตอนดึก การได้ดูมังกรหยก ทำให้พ่อคิดถึงแม่ของพวกเธอ พ่อเคยหลอกให้แม่ดูมังกรหยกจนติดงอมแงม แต่แม่ดูแบบกลับหัวกลับหางคือ ดูภาค 3 2 1 จากเตียบ่อกี้ ก็มาเอี้ยก้วย และ ก้วยเจ๋ง จริง ๆ ก็ไม่ได้งงมากเพราะทั้ง 3 ภาค สามารถดูแยกกัน ดูสลับกันได้ 


กลับมาที่หนังสือบทประพันธ์ของโกวเล้ง จริง ๆ พ่อเคยดูที่เขานำมาทำเป็นหนังแล้ว ตอนเป็นเด็กแต่พอได้เริ่มอ่าน ฤทธิ์มีดสั้น ที่เป็นหนังสือมันได้อะไรมากกว่าเยอะ อยากให้ลูกทั้งสองเป็นนักอ่าน การอ่านจะพาพวกเธอไปสู่โลกกว้าง สู่องค์ความรู้ใหม่ๆ ไว้เจอกันวันที่ 10 นี้ที่ศาล 


รักและคิดถึง ลูกทั้งสองคน

อานนท์ นำภา


สำหรับ อานนท์ นำภา ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ภายหลังศาลอาญาพิพากษาจำคุก 4 ปี ปรับเป็นเงิน 20,000 บาท โดยไม่รอลงอาญา ในคดี #มาตรา112 คดีแรก เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2566 เหตุจากการขึ้นปราศรัยใน #ม็อบ14ตุลา63


จากนั้น 17 ม.ค. 67 ศาลอาญาสั่งจำคุก "อานนท์ นำภา" เพิ่มอีก 4 ปี จากคดีมาตรา 112 (เป็นคดีที่ 2) กรณีโพสต์เฟซบุ๊กปี 2564 โดยให้บวกโทษเก่าอีก 4 ปี ทำให้อานนท์มีโทษจำคุกรวมแล้ว 8 ปี


ต่อมา เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2567 ศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดฟังคำพิพากษาคดีของ อานนท์ นำภา หลังถูกฟ้องใน 4 ข้อกล่าวหา ได้แก่ หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุมาจากการปราศรัยถึงข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ในกิจกรรม ‘เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาชน’ หรือ #ม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์2 ที่ลานหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2564 โดยศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดทุกข้อหาตามฟ้อง พิพากษาจำคุกรวม 3 ปี 1 เดือน ปรับ 150 บาท ก่อนลดเพราะให้การเป็นประโยชน์ เหลือจำคุก 2 ปี 20 วัน และปรับ 100 บาท


ต่อมา 25 ก.ค. 67 ศาลอาญา นัดฟังคำพิพากษาในคดี #ม112 คดีที่ 4 ของ “อานนท์ นำภา” เหตุโพสต์ 2 ข้อความบนเฟซบุ๊ก ในช่วงเดือน ม.ค. – ก.พ. 2564 วิพากษ์วิจารณ์การใช้อำนาจบริหารราชการแผ่นดินของรัชกาลที่ 10


ศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 วรรคหนึ่ง (1), (3) ให้ลงโทษฐาน 112 จำคุกกระทงละ 3 ปี รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 6 ปี


ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษให้กระทงละหนึ่งในสาม คงจำคุก 4 ปี ไม่รอการลงโทษ


ทั้งนี้หลังศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาคดีของอานนท์ไปแล้ว 4 คดี ทำให้อานนท์ถูกลงโทษจำคุกรวม 14 ปี 20 วัน และยังมีโทษในคดีตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากกรณีชุมนุม #ม็อบ27พฤศจิกา2563 ที่ถูกจำคุกอีก 2 เดือน รวมเป็น 14 ปี 2 เดือน 20 วัน


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม #อานนท์นำภา #คืนสิทธิประกันตัวประชาชน