วันพุธที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2567

"พริษฐ์" เผย “ปชน.”มีมติไม่ส่งชิงเก้าอี้รองปธ.สภาฯ รอตั้ง “ผู้นำฝ่ายค้าน” หลังแถลงนโยบาย หวังคนใหม่มีประสิทธิภาพโปร่งใส สานต่องาน “หมออ๋อง”

 


"พริษฐ์" เผย “ปชน.”มีมติไม่ส่งชิงเก้าอี้รองปธ.สภาฯ รอตั้ง “ผู้นำฝ่ายค้าน” หลังแถลงนโยบาย หวังคนใหม่มีประสิทธิภาพโปร่งใส สานต่องาน “หมออ๋อง”


วันที่ 11 กันยายน 2567 เวลา 09.30 น.ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคประชาชนจะไม่ส่งบุคคลเข้าชิงเก้าอี้รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ไม่ว่ารองประธานสภาฯที่จะเลือกวันนี้เป็นใคร แต่ก็หวังให้การทำงานในสภามีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเรื่องของการพิจารณากฎหมายที่ค้างอยู่ในวาระการประชุม ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งประชาชนคาดหวังรอคอย นอกจากนี้ต้องโปร่งใส ประชาชนมีส่วนร่วม ในการเสนอกฎหมาย อยากให้รองประธานคนใหม่สานต่องานที่นายปดิพัทธ์ สันติภาดาทำไว้ ส่วนการตั้งผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ต้องรอให้ครม.ลงตัวก่อนเชื่อว่าไม่นาน เพราะต้องดูว่าพรรคไหนอยู่ฝ่ายรัฐบาลบ้าง ขณะนี้ชัดเจนแล้วว่ามีพรรคการเมืองใดประกอบเป็นรัฐบาลบ้าง อะไรที่เห็นต่างต้องแข่งขันเชิงความคิด อะไรที่เห็นตรงก็ต้องร่วมมือกัน


สำหรับการให้ความช่วยเหลือปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ ของรัฐบาลในขณะนี้ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ทุกฝ่ายต้องร่วมกันแก้ไขปัญหาให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด พรรคประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำท่วมเมื่อคืนด้วยความเป็นห่วง เรามีสส. เขตอยู่ในพื้นที่ประสบภัย ประสานช่วยเหลือเท่าที่ทำได้ ในภาพรวมมี 2-3 อย่างที่รัฐบาลต้องเร่งทำคือ เร่งรักษาความปลอดภัยให้ประชาชนในพื้นที่ ทั้งความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เป็นปัญหาที่เร่งด่วนที่สุด นอกจากนี้ต้องมองเรื่องการเยียวยา และความพยายามมองพื้นที่อื่นรอบข้างที่จะได้รับผลกระทบ ต้องมีกระบวนการรับมือป้องกันปัญหา ที่อาจจะเกิดโดยเร็ว ซึ่งเรื่องของน้ำท่วมเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อย เนื่องด้วยสภาพแปรปรวนทางภูมิอากาศ ภาพรวมต้องเร่งแก้ปัญหา


ในส่วนของการอภิปรายนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา วันที่ 12-13 ก.ย. นี้ นายพริษฐ์ ย้ำว่า มีทุกประเด็นที่ประชาชนสนใจ โดยพรรคประชาชนวางตัวผู้อภิปรายไว้ มอง30 คน 2 วันเต็มจะใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ที่สุด ขอให้มองบริบทการอภิปรายก่อนว่า เราจะรับฟังคำแถลงนโยบายของรัฐบาล ที่มีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี ดังนั้นสส.พรรคประชาชนจะต้องแบ่งเป็น 2 ส่วนคือตรวจการบ้านของปีที่ผ่านมา ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน เคยสัญญา กับประชาชนในการแถลงนโยบายเมื่อปีที่แล้ว ได้ดำเนินการไปแค่ไหน นโยบายตรงจุดมากน้อยแค่ไหน ส่วนที่ 2 คือการมองไปข้างหน้าว่านโยบายที่ถูกเขียนในคำแถลงของนโยบายน.ส.แพทองธาร ชินวัตร มีประเด็นอะไรที่ยังตกหล่นหรือไม่ตอบโจทย์สามารถเสนอแนะ เพื่อประโยชน์ของประชาชนไม่ว่าจะเป็นเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจดิจิทัลวอลล็ต โครงการซอฟพาวเวอร์ เรื่องน้ำ เรื่องที่ดินทำกิน เรื่องการสื่อสารจะมีการพูดถึงทั้งหมด


นายพริษฐ์ยังกล่าวถึงเรื่องแก้รัฐธรรมนูญที่เหมือนจะถูกเอาออกจากนโยบายเร่งด่วน ว่า เป็นการเปลี่ยนหมวดหมู่จากนโยบายเร่งด่วนเป็นนโยบายระยะกลางและระยะยาว และมีการเปลี่ยนข้อความด้วยเช่นกัน แต่ในภาพรวมเป็นการใช้ข้อความที่กว้าง ว่าเร่งจัดทำรัฐธรรมนูญโดยเร็วที่สุด ซึ่งตนมองว่าเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องเดิน 2 เส้นทางคู่ขนาน เส้นทางที่ 1.การเดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยเร็วที่สุด เกิดคำถามว่าตกลงแล้วรัฐบาลวางกรอบเวลาไว้อย่างไร เพื่อให้เกิดการบังคับใช้ทันก่อนการเลือกตั้งครั้งต่อไป และหากจะเดินหน้าทำประชามติ 3 ครั้ง คำถามประชาติรอบแรกที่พรรคประชาชนเคยทักท้วงไปอาจจะก่อปัญหาได้ จะมีการทบทวนหรือไม่ และในส่วนขององค์คณะที่จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หรือส.ส.ร.ก็ต้องถามรัฐบาลว่าจะมาจากการเลือกตั้งร้อยเปอร์เซ็นต์หรือไม่


ส่วนแนวทางที่ 2 คือการแก้รายมาตรา พี่อาจจะต้องอาศัยเวลา ที่เราสามารถแก้รายมาตรา ในกรณีที่จำเป็นเร่งด่วน ซึ่งในวันที่ 25 กันยายนนี้จะมีการ พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา เรื่องการลบล้างผลพวงรัฐประหารอย่างน้อย 3 ร่าง ดังนั้น ท่าทีของรัฐบาลจะสนับสนุนแนวทาง การแก้ร้ายมาตราอย่างไร ส่วนนี้ก็คาดหวังที่อยากจะฟังจากนายกฯคนใหม่และรัฐบาลชุดใหม่เช่นกัน

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #พรรคประชาชน #รองประธานสภาคนที่1