วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2567

“ธิดา” แนะ “เพื่อไทย” ต้องทำให้ประชาชนเห็นว่าไม่ได้อยู่อย่างเซื่อง ๆ ต้องต่อรอง/ทำให้ฝั่งจารีตเข้าใจว่าประเทศต้องเปลี่ยนแปลง

 


“ธิดา” แนะ “เพื่อไทย” ต้องทำให้ประชาชนเห็นว่าไม่ได้อยู่อย่างเซื่อง ๆ ต้องต่อรอง/ทำให้ฝั่งจารีตเข้าใจว่าประเทศต้องเปลี่ยนแปลง


ถอดจากรายการ คมชัดลึก โดย Nation TV

ดำเนินรายการโดย วราวิทย์ ฉิมมณี

เผยแพร่เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2567

ลิงค์ยูทูป https://www.youtube.com/watch?v=ldy5DlH7Alc


กฐินสามัคคีรวมการเฉพาะกิจของศัตรูของพรรคเพื่อไทย (ศัตรูเดิม+ประชาชนที่ไม่พอใจกลายเป็นศัตรูใหม่) สุดท้ายแล้วจะส่งผลกับรัฐบาลชุดนี้อย่างไร เพราะครั้งนี้เป็นเดิมพันอนาคตที่เป็นลูกสาว “ทักษิณ”


อาจารย์เข้าใจว่าคุณทักษิณเองก็คงไม่ได้คิดให้อยากจะให้คุณอุ๊งอิ๊งมาเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะคุณหญิงอ้อด้วย แต่น่าจะเป็นการตัดสินใจของคุณอุ๊งอิ๊งเอง และเป็นเรื่องที่ว่าคนในพรรคมองว่าไม่เช่นนั้นจะยิ่งแย่ ล่มสลาย คือพรรคการเมืองในอดีตฐานของพรรคเป็นประชาชนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะภาคอีสาน ภาคเหนือ แล้วก็เป็นผู้รักประชาธิปไตยผู้ที่ถูกกระทำ บางคนก็ถือว่าเป็นไพร่ชนบท ไพร่ข้าวเหนียว ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นมวลชนชนบท หรือมวลชนในเมืองที่ยากจน แต่การศึกษาสูง แต่เวลายาวนานที่เรามีการบ่มเพาะ มีการทำโรงเรียนการเมืองนปช. และมีเวทีปราศรัย มีการจัดตั้งแกนนำและมีการอบรมต่าง ๆ เป็นเวลาที่บ่มเพาะผู้คนให้เข้าใจว่าอำนาจประชาชนในระบอบประชาธิปไตยเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อที่จะแก้ปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ คือต้องแก้ที่การเมือง ฉะนั้นเขาไม่เคยออกมาประท้วงเพื่อให้รายได้สูงขึ้นนะ คนเสื้อแดงที่เคยมาประท้วงก็เป็นการประท้วงการทำงานทางการเมืองทั้งสิ้น ให้ยกเลิกรัฐบาล ให้ยุบสภา ไม่มีเรื่องเศรษฐกิจ


แต่คุณทักษิณคงวางแผนไว้ว่าจะพยายามทำให้ประสบความสำเร็จในแง่เศรษฐกิจ แต่แม้กระทั่งในแง่เศรษฐกิจคุณทักษิณก็ทำได้ในกรอบเท่าที่จารีตนิยมอนุญาต คุณจะสร้างพายุหมุนไม่ได้ คุณแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้แบบสังคมสงเคราะห์นะ คุณจะข้ามไปแบบลักษณะเป็นสวัสดิการไม่ได้ ทำได้อย่างมากก็แบบลุงตู่ ก็คือกลุ่มยากจนเปราะบาง ความคิดของชนชั้นนำก็คือคิดแบบสังคมสงเคราะห์ ช่วยคนยากคนจนอะไรต่าง ๆ เหล่านี้ ซึ่งเขาพอยอมรับได้ แต่อย่าไปรื้อโครงสร้าง คุณจะทุ่มดิจิทัลวอลเล็ตแล้วให้เป็นพายุหมุนเศรษฐกิจ เสี่ยงกับการที่จะต้องมีหนี้มากมาย แล้วคุณได้คะแนนเสียงจากที่รัฐบาลต้องเป็นหนี้ เขาก็ไม่ให้ทำ


ดังนั้น ถึงคุณจะทำเศรษฐกิจก็ต้องได้รับอนุญาตให้ทำเท่านั้น ก็อาจจะไม่ได้ผลตามที่หวังมากสักเท่าไร แค่เอาตัวให้อยู่รอดจนครบเทอม อาจารย์ว่ายังยากเลย เพราะถนนทุกสายอาวุธทุกชนิดที่เข้ามาทิ่มแทง ประชาชนคงไม่มีอะไรมาทิ่มแทง เพราะว่าเขาจะใช้สิทธิในคูหาเลือกตั้งอย่างเดียว และความผูกพันที่เคยร่วมทุกข์กันมา ก็ทำให้มีสายใย อย่างอาจารย์ก็ยังมีความเป็นห่วงอยู่ (ส่วนตัวนะ) ว่าเขาจะอยู่ได้แค่ไหน ไปครบเทอมหรือเปล่า เพราะว่าอาวุธมันมาทุกสารทิศ

 

จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ก็ต้องทำตามกรอบที่อนุญาต มันเหมือนไม่มีทางออกนะตอนนี้


คุณทำได้คือทำแบบลุงตุ่ไง ก็นี่มัน “ลุงตู่ 3” ไง


แล้วมันตอบโจทย์กับการเลือกตั้งครั้งต่อไปหรือเปล่า?


เขาไม่สน เขาก็ต้องหายุทธศาสตร์ยุทธวิธีใหม่ สิ่งที่ต้องการก็คือขณะนี้พรรคเพื่อไทยมีราคาในฝั่งจารีตอำนาจนิยม เพราะมีพรรคก้าวไกลเกิดขึ้น ลองถ้าไม่มีพรรคก้าวไกล มีแต่พรรคเพื่อไทยเดิมอย่างเดียว มันก็แบบเดิมนั่นแหละ 17 ปี คงเหมือนอย่างนั้นอีก เพราะมันเป็นอะไรที่ทางฝั่งชนชั้นนำเดิมมองว่าเป็นอันตราย แต่ไป ๆ มา ๆ กลายเป็นว่า พรรคก้าวไกล หรือ พรรคประชาชน ดูจะมีอันตรายมากกว่า หรือเปล่า? มันก็เลยเอาก๊กนี้ (พรรคเพื่อไทย) มารวม



แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไว้ใจแนบสนิทอยู่กันไปตลอดรอดฝั่ง


ใช่ ต้องมีเกมบังคับ ซึ่งตรงนี้รัฐบาลและคุณทักษิณต้องบริหารความขัดแย้ง จริง ๆ ตัวเองก็ไม่ใช่จารีตอำนาจนิยมจริง แต่ก็ต้องจับมือกับจารีตอำนาจนิยมเพื่อจะได้เป็นรัฐบาล เพื่อคุณทักษิณ คุณยิ่งลักษณ์ จะได้กลับมา แล้วก็ได้มีโอกาสเป็นรัฐบาล มีอำนาจอยู่ในมือจำนวนหนึ่ง ก็ถือว่าดีกว่าเป็นฝ่ายค้าน ประมาณนั้น แล้วเป็นฝ่ายแค้นเหมือนเดิม มันก็เป็นความเสี่ยงที่เราเข้าใจได้


แต่สำหรับฝ่ายประชาชนถือเป็นความเสียหาย ประชาชนถูกแบ่งแยก พันธมิตรของเราหายไป จากรวมเสียงกัน (เพื่อไทย+ก้าวไกล) เป็น 70% กลายเป็นว่าคุณไปอยู่กับฝั่งที่มีปัญหาในการเข่นฆ่าประชาชน ในการทำนิติสงครามหรือสงครามทางอาวุธอะไรต่าง ๆ มาตลอด อันนี้เป็นเรื่องที่ว่าพูดกันจริง ๆ ประชาชนส่วนหนึ่งก็ให้อภัยไม่ได้ เขาโกรธมาก


เวลาพูดถึง “คนเสื้อแดง” หลายท่านวิเคราะห์ว่ามี 2 กลุ่ม คือแดงอุดมการณ์ กับแดงที่เป็น FC หรือ แดงทักษิณ/แดงเพื่อไทย ไม่ว่าพรรคจะตัดสินใจอะไรก็พร้อมที่จะสนับสนุนร่วมกัน อาจารย์ชั่งน้ำหนักแล้วตอนนี้ถือว่าแดงอุดมการณ์


ไปแล้ว 5 ล้าน (หายแน่ ๆ 5 ล้าน) อาจารย์หมายถึงเลือกตั้งครั้งที่แล้ว สัญญาณชัดแล้ว อย่างน้อยก็หายไปแล้ว 5 ล้าน


แล้วกับแดงที่เป็น FC ที่นิยมชมชอบในคุณทักษิณและพรรคเพื่อไทย


มันรวมกันอยู่กับแดงยุทธศาสตร์ก็คือ 10 ล้านที่เหลือ ในความคิดของอาจารย์ก็คือ อาจารย์ว่าแดงที่เป็น FC ไม่น่าจะมีมากกว่า คือใน 10 ล้านก็มีแดงอุดมการณ์ที่ยังหลงเหลืออยู่ คือแดงยุทธศาสตร์คิเลือกโหวตตามยุทธศาสตร์

 

ตอนนั้นรัฐบาลยังไม่ได้ข้ามขั้ว เขาก็เลยเลือกแม้จะมีทางเลือกใหม่อย่างพรรคก้าวไกลในเวลานั้นก็ตาม แต่หลังจากรัฐบาลข้ามขั้วและมีการดึงประชาธิปัตย์เข้ามาร่วม ส่วนนี้ก็จะเสียหายไปอีก ซึ่งมากกว่าแดง FC

เสียหายไปอีก อย่างมากที่สุดก็ ครึ่ง/ครึ่ง กัน



แล้วจะไปหวังฐานใหม่จากอนุรักษ์นิยมได้มั้ย?


ไม่มีทาง!!! คุณดูพรรคประชาธิปัตย์เป็นตัวอย่าง พรรคประชาธิปัตย์คือแกนนำของอนุรักษ์นิยมมาตั้งแต่ยาวไกล แต่ตอนที่คุณอภิสิทธิ์ซึ่งตอนนั้นไปพูดบนเวทีเพราะเห็นใคร ๆ ก็ไม่เอาลุง แกก็ไม่เอากับเขาด้วย หรือไม่ก็ไปฟังคนหนุ่ม ตอนนั้นคุณไอติมยังอยู่ด้วยล่ะมั้ง ฟังคนหนุ่มด้วยหรือเปล่า เลยอยากจะไม่เอาลุงด้วย คนก็แห่กันไปเลือกพรรคลุงหมด ทั้งพลังประชารัฐ ทั้งรวมไทยสร้างชาติ ความล่มสลายของพรรคประชาธิปัตย์ คือความสำเร็จในฐานะแกนนำของพรรคอนุรักษ์นิยมที่จะเอาชนะพรรคแบบพรรคเพื่อไทยได้ เขาก็เลยไปหาสิ่งใหม่ที่คิดว่าน่าจะมีความสามารถกว่า นี่หมายถึงพรรคประชาธิปัตย์คือตัวอย่าง คืออาจจะไม่รู้ว่าตัวเองเป็นพวกไหน


แต่ว่าถ้าเพื่อไทยตอนนี้ ฐานเดิมเป็นฝั่งประชาธิปไตย ผนวกกับคนที่รักคุณทักษิณในความสามารถ แล้วมันก็มีผสมผเสกันอยู่สองอย่างซึ่งผูกพันกันมา และเห็นใจอยากจะให้คุณทักษิณกลับมา และอยากให้เป็นรัฐบาล ซึ่งอันนี้ก็มีอยู่ส่วนหนึ่ง เราก็ไม่รู้ว่าพอถึงตอนเลือกตั้งครั้งหน้า สมมุติถ้าอยู่ครบเทอมนะ แต่อาจารย์ยังถือว่าเป็นระยะเปลี่ยนผ่านที่คุณทักษิณเพิ่งข้ามขั้วมา แต่ข้ามขั้วมาแล้วจะได้สำเร็จหรือเปล่า? ไม่รู้เหมือนกันนะ! อาจจะถูกจัดการด้วยวิธีไหนหรือเปล่า? คนที่อยากเอาคุณทักษิณเข้าคุกก็มี พวกนี้! แต่ไม่ใช่ประชาชนนะ ถึงต่อให้เขาไม่โหวตให้ อาจารย์เชื่อว่าโดยส่วนตัวฝั่งประชาธิปไตยก็ไม่ได้ถึงกับมีความเกลียดชัง อย่างมากก็คือ ชั้นไม่ชอบละก็ไปโหวตให้พรรคอื่น


แต่ในฝั่งอนุรักษ์นิยมนี่คือ “แค้นฝังหุ่น” นะ เขามีเกมนิติสงคราม ถืออาวุธด้วย ทุกอย่าง คือกลไกรัฐก็อยู่ที่เขา มีทั้งตัวละครความเป็นนักร้อง ตัวละครทางเป็นองค์กรอิสระ ตัวละครที่อยู่ในกลุ่มตุลาการภิวัฒน์ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ก่อนทำรัฐประหารปี 2549 ที่คุณธีรยุทธ บุญมี ออกมาพูดว่าตุลาการควรจะมีบทบาทในฐานะทำตุลาการภิวัฒน์ คือคำว่า “ภิวัฒน์” มาจากคำว่าอภิวัฒน์แบบที่ท่านอาจารย์ปรีดีพูด ความหมายของเขาก็คือการเปลี่ยนแปลง แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ก้าวหน้า ทีนี้คนใช้คำว่า “ปฏิวัติ” อาจารย์ปรีดีเปลี่ยนเป็น “อภิวัฒน์” พวกที่รู้ศัพท์แต่ไม่ได้รู้คิดก็เอามาใช้ พันธมิตรฯ เขาใช้ “ประชาภิวัฒน์” คือคิดว่าตัวเองทำการปฏิวัติก็คือไล่ทักษิณ ต้องไปยึดทำเนียบ ยึดสนามบิน ก็เป็น “ปฏิวัติ” แต่ใช้คำว่า “ประชาภิวัฒน์” ทีนี้ตอนนั้นก็เลยมี “ตุลาการภิวัฒน์” แต่มันไม่ใช่เป็นการทำให้ตุลาการดีขึ้น แต่หมายความว่าใช้อำนาจตุลาการในการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ซึ่งในทัศนะเขาว่าไปในทิศทางที่ดีตามแบบนั้น


อาจารย์มีทางออกให้กับพรรคเพื่อไทยอย่างไร ในฐานะที่เคยสนับสนุนและร่วมต่อสู้กันมา


คือเราก็ไม่ได้มองเขาเป็นศัตรูนะ อาจารย์ก็เตือนคนเสื้อแดงด้วยว่าอย่าเพิ่งคิดว่าเขาเป็นศัตรู เขามีความจำเป็นข้ามขั้วไปก็จริง เราเสียหายมาก เราเจ็บปวด และทำให้เป็นอุปสรรคต่อพัฒนาการการเมืองของประชาชน แต่อาจารย์ก็ไม่รู้ว่าเขาจะไปได้ถึงแค่ไหน


เมื่อกี้ที่เราพูดเขาแก้เศรษฐกิจ เขาก็แก้ได้ระดับหนึ่ง แต่นั่นมันตอนวิกฤตเศรษฐกิจ ขณะนี้ถ้าเราวิเคราะห์สังคมนะ นี่เป็นวิกฤตการเมือง วิกฤตการเมืองทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจและวิกฤตสังคม แต่มันเริ่มต้นด้วยวิกฤตการเมือง ดังนั้น จะแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจโดยไม่แก้วิกฤตการเมืองก็ไม่ได้ จะแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำยังไงก็เขาให้คุณทำสังคมสงเคราะห์อย่างเดียว ให้แจกคนจน อย่าทำอย่างอื่น ในเมื่อการเมืองไม่สามารถแก้ไขได้ เราไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร แต่ว่าถ้าเขาจะบริหารความขัดแย้ง ตรงนี้เขาต้องแก้ปัญหาการเมือง ต้องแตะตรงนี้ให้ได้ ก็ต้องต่อรองกันในเชิงที่ชี้ให้เห็นว่ามันมีผลประโยชน์ดีกว่าถ้าคุณแก้การเมือง แบบนี้ ๆ ยกตัวอย่างเช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญมันเป็นสิ่งจำเป็น การแก้ไขกฎหมายที่ไม่ถูกต้อง โอเคเขาอาจจะยกเลิกคำสั่งคสช.จำนวนหนึ่ง แต่ไป ๆ มา ๆ ภูมิใจไทยยกเลิกมากกว่าตั้ง 70 กว่าฉบับ คือเราใช้กฎหมายของรัฐประหารมายาวนานแล้วทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้




จริง ๆ อย่างที่อาจารย์ทำ ยกตัวอย่างเช่น ทหารทำความผิดทางอาญาต่อประชาชน มีการฆ่าคนกลางถนนและร่วมกับพรรคการเมืองหรือพลเรือนด้วย มันต้องขึ้นศาลพลเรือน อย่างนี้กล้าแก้มั้ย? พ.ร.บ.กลาโหม คุณกล้าแก้มั้ย? คือคุณต้องแตะบ้างจำนวนหนึ่ง อย่างน้อยให้ประชาชนเห็นว่าคุณได้พยายามทำ ไม่ใช่ว่าตามไปอยู่ฝั่งจารีตอำนาจนิยมอย่างเซื่อง ๆ เขาบอกให้ไปซ้ายก็ไปซ้าย ตอนนี้จะเป็นรัฐมนตรีก็ต้องมีใบอนุญาต จะทำอะไรก็ต้องมีใบอนุญาต


ถ้าแค่ประคับประคองรัฐบาลให้อยู่รอดปลอดภัย อย่าหวังผลในการเลือกตั้งครั้งหน้าเลย เมื่อข้ามขั้วไป อนุรักษ์นิยมก็ไม่เลือกคุณอยู่ดี ต้องเลือกที่จะแตะปัญหาโครงสร้างบ้าง แล้วต่อรองให้ขั้วอำนาจเดิมเขายินยอม อย่างน้อยยังสามารถรักษาฐานเดิมเอาไว้ได้บ้าง ไม่เสียหายไปมากกว่านี้ แม้จะย้อนมาเป็นผู้นำทางฝั่งประชาธิปไตยไม่ได้ก็ตาม


ไม่ได้แล้ว ก็ดูประชาธิปัตย์เป็นตัวอย่าง คือขณะนี้โดยความเป็นจริงคุณกลายมาเป็นผู้นำของฝั่งจารีต คุณได้สูญเสียสถานะพรรคผู้นำฝ่ายประชาธิปไตยไปเรียบร้อยแล้ว แล้วพรรคที่เข้ามายืนแทนคุณก็กลายเป็นพรรคประชาชน พรรคก้าวไกล แต่เขาก็ต้องสังเวยถูกเด็ดหัว เขาก็มีความเสี่ยง


ถ้าคุณคิดว่าคุณมีวิธีการทำให้ฝั่งจารีตเข้าใจว่าประเทศไทยต้องเปลี่ยนแปลง สถาบันต่าง ๆ จะอยู่ได้ก็ต่อเมื่อมีการปรับตัวให้สอดคล้องกับยุคสมัยและความเป็นจริง หมายความว่าคุณมีวิธีการอย่างไรที่จะทำให้เขาเข้าใจว่ามันจะอยู่แบบยุคโบราณไม่ได้ มันต้องปรับให้สอดคล้องกับความเป็นจริง เพราะว่าถ้าดื้อรั้นไปจนกระทั่งประชาชนทางออกไม่มี คุณจะเอาแบบพม่าเหรอ?


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ธิดาถาวรเศรษฐ #ทักษิณ #เพื่อไทย #คนเสื้อแดง