ธิดา
ถาวรเศรษฐ :
เสถียรภาพของรัฐบาลขึ้นอยู่กับฝั่งอนุรักษ์นิยมที่ไม่เป็นเอกภาพกัน มี
“บิ๊กดีล” ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะราบรื่น
ถอดจากรายการ
คนดังนั่งคุย ทางช่อง 8
ออกอากาศเมื่อวันที่
10 กันยายน 2567
ลิ้งค์ยูทูป : https://www.youtube.com/watch?v=54hju5U_UWQ
*** ความรู้สึก เพื่อไทย จับมือ ประชาธิปัตย์ ***
ถ้าพูดถึงคนเสื้อแดงทั่วไป
ถ้าย้อนเวลาไปหลายคนก็รู้สึกว่าแผลยังสดอยู่เลย ความเจ็บปวดยังดำรงอยู่
ในกรณีของพรรคประชาธิปัตย์
ดิฉันเชื่อว่าคนเสื้อแดงส่วนใหญ่ยังรู้สึกเจ็บปวดและไม่ยินดีกับการที่มีพรรคประชาธิปัตย์ในรัฐบาล
แต่ว่าเนื่องจากการข้ามขั้วมันเกิดขึ้นก่อน การข้ามขั้วตรงนั้นมันเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
แล้วหลายคนก็คาดอยู่แล้วว่าตอนข้ามขั้วประชาธิปัตย์อาจจะมาร่วมอยู่ด้วยก็ได้
ครั้งนั้นเจ็บปวดอย่างมากไปแล้ว เพราะฉะนั้นก็คือมีประชาธิปัตย์มามันก็เป็นอะไรที่ซ้ำแผลที่เจ็บอยู่แล้ว
แต่ด้านหลักก็คือว่าการที่มาเป็นรัฐบาลร่วมกับพรรคที่เป็นรัฐบาลเดิมของพลเอกประยุทธ์
ได้ก้าวข้ามจากฝั่งสนับสนุนประชาธิปไตยโดยที่บอกว่าสลายความขัดแย้ง
ซึ่งความจริงมันสลายไม่ได้ เพียงแต่ว่าเพื่อมาเป็นรัฐบาลแล้วจะได้เดินทางต่อ
***
ถูกหักหลัง ***
ถ้าเป็นคนเสื้อแดงที่เน้นอุดมการณ์และการต่อต้านรัฐประหารเป็นหลัก
นปช.คือแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ
ดังนั้นก็คือถ้าเน้นตรงหลักการอันนี้ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของคนเสื้อแดง
จุดกำเนิดของคนเสื้อแดงอยู่ที่การต้านรัฐประหารปี 49 ต้านรัฐธรรมนูญปี 50 ซึ่งเป็นผลผลิต
นี่คือจุดกำเนิดของคนเสื้อแดง
แล้วในการต่อสู้ต่อมาก็ยังเป็นประเด็นการต่อต้านรัฐประหารเป็นหลัก
เพราะว่าเรามาเจอรัฐประหารรอบใหม่อีก
ในคนส่วนนี้จะรู้สึกว่าถูกหักหลังตั้งแต่ตอนก้าวข้าม
แต่ว่าเสื้อแดงบางส่วนซึ่งเรียกว่ามีความรู้สึกที่ว่าเป็น FC พรรคเพื่อไทย
มีความผูกพันกันมาก คนเหล่านี้ก็อาจจะถือว่าพรรคเพื่อไทยไปไหนก็ไปด้วย
คือไม่ได้ยึดเรื่องการต่อต้านรัฐประหาร แต่ยึดในฐานะเป็นแฟนคลับของพรรคเพื่อไทย
คนสองส่วนนี้ส่วนไหนมากกว่าเราก็ต้องไปดูตอนโหวต อย่างผลโหวตตอนปี 62, ปี 66
ก็ดูจะเป็นแนวทางที่เห็นว่าพรรคเพื่อไทยก็เสียโหวตเตอร์ไปเยอะ
***
ทักษิณและอนุรักษ์นิยม มีศัตรูร่วมกัน ***
มองว่าเป็นความเสี่ยงของคุณทักษิณนะ
เพราะว่าคุณทักษิณเองก็ไม่ได้เป็นที่ไว้วางใจของฝ่ายอนุรักษ์นิยม
ในส่วนที่เป็นฝ่ายแค้นเก่าหรือกลุ่มจารีตสุดโต่ง
กลุ่มนี้ก็ยังไม่สามารถรับการเข้ามาร่วมของพรรคเพื่อไทยได้ แม้จะเป็นความจำเป็น
แต่ว่าเฉดที่ต้องการดึงเพื่อไทยให้มาร่วมเพื่อเป็นยุทธศาสตร์ในการสืบทอดอำนาจ
ก็ยังจะพยายามให้เพื่อไทยดำรงอยู่ แต่ดิฉันมองว่าเป็นความเสี่ยง ก็คือ
การที่จะสร้างคะแนนนิยมก็เป็นเรื่องที่ไม่ใช่จะทำได้ง่าย ๆ
เพราะคุณจะเจออุปสรรคทั้ง 2 ปีก ทั้งฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่เขาไม่ยินดีกับคุณ คุณจะมี
“นักร้อง” ร้องทุกวันเลย มี 20 คดี 40 คดี มันก็ต้องโดนสักคดีหนึ่งล่ะ
คุณจะต้องเจอตุลาการภิวัฒน์ ซึ่งเขาก็ยังไม่โอเคกับคุณ
ในส่วนประชาชนที่เขาไม่เห็นด้วย เพราะฉะนั้นคุณจะอยู่ในท่ามกลางการขนาบของ 2 ปีกของ
2 ขั้ว แม้ว่าคุณจะบอกว่าคุณข้ามมาแล้ว แต่ทางฝั่งอนุรักษ์นิยมก็ไม่ได้รับเต็มที่
ในขณะเดียวกันฝั่งที่เป็นทหารของคุณก็กลายไปเป็นทหารของพรรคประชาชน
ทำให้การเมืองประเทศไทยกลับมาถึงจุดที่ไม่น่าไว้วางใจอีก ไม่มีเสถียรภาพ
แม้ดูเหมือนว่านักลงทุนจะดีใจ หุ้นขึ้น แต่ว่ายังรับรองไม่ได้ว่ารัฐบาลนี้จะสามารถอยู่ไปได้นานเท่าไหร่
น่าเป็นห่วง!
***
หลอกใช้กันอยู่? ***
เขาคิดว่า
win-win ทั้งคู่ คุณทักษิณก็อยากเป็นรัฐบาล อยากกลับมา อยากมีอำนาจ
แต่ว่าการมาเป็นรัฐบาลตรงนี้ ฝั่งอนุรักษ์นิยมก็ถือว่า win
เพราะว่าสามารถที่จะจัดการพรรคประชาชนออกไปได้
ก็คือยังสามารถเป็นรัฐบาลที่ต่อเนื่องมาจากชุดของพลเอกประยุทธ์เมื่อปี 62 ได้
เพราะเราจะเห็นว่าพรรครัฐบาลเดิมอยู่เต็มเลย แต่ว่าคะแนนเสียงไม่เพียงพอ
เพราะฉะนั้นคุณทักษิณก็เลยกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ได้ไว้วางใจสักเท่าไร
เขาอาจจะมองว่า win-win ทั้งคู่ คุณทักษิณได้เป็นรัฐบาล
ได้กลับมา ทางฝั่งนี้ก็ได้เป็นรัฐบาล
แต่ถ้าอาจารย์มองว่ามันไม่ง่าย! เพราะว่าความไม่เป็นเอกภาพของฝั่งอนุรักษ์นิยม
ก็อาจจะจัดการกับพรรคคุณทักษิณเมื่อไรก็ได้ เพราะว่าฝั่งนี้เขาอาจจะไม่สนใจในความคิดเชิงยุทธศาสตร์ว่าต้องเอาพรรคเพื่อไทยมาอยู่นะ
ไม่งั้นก็ตั้งรัฐบาลไม่ได้
เพราะว่าวิธีคิดของอนุรักษ์นิยมหรือจารีตนิยมที่สุดโต่งไม่สนใจประเทศจะเป็นยังไง
แต่ไม่ต้องการให้ระบอบทักษิณกลับมา
แล้วฝั่งอนุรักษ์นิยมที่มีความคิดเชิงยุทธศาสตร์ที่เอาคุณทักษิณมา
ก็อาจจะควบคุมเขาไม่ได้ เช่น มีนักร้อง มีองค์กรอิสระ มีตุลาการภิวัฒน์
บิ๊กดีลหรืออะไรก็ตามไม่ได้หมายความว่าจะราบรื่น
เพราะฉะนั้นเป็นความเสี่ยงของคุณทักษิณ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นความเสี่ยงของเสถียรภาพทางการเมืองของประเทศไทยที่มันจะถึงไปสู่อนาธิปไตย
***
การรวมตัวกันของ “ม็อบพันธมิตร/กปปส./นปช. ***
ก็น่าจะมีแต่พันธมิตรกับกปปส.
เพราะฝั่งคนเสื้อแดงที่เขาไม่พอใจคุณทักษิณ อาจารย์คิดในอีกแง่แบบที่รู้จักกันนะ
ยังไงเขาก็ยังมองว่าเคยเป็นมิตรกัน คงไม่ได้ออกมาในเชิงขับไล่
และจะให้เขามารวมกับฝั่งกปปส.คงไม่ไหว แผลมันยังมีอยู่ ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 53 แล้วก็การถูกจับกุมคุมขัง,
คดีความอะไรต่าง ๆ มันเยอะมาก ดังนั้นคงจะอยู่เงียบ ๆ มากกว่า แต่อาจจะแสดงบทบาทในโซเชียลมีเดียจำนวนหนึ่ง
แต่คนเสื้อแดงถ้าเป็นรุ่นเก่า ๆ เขาก็คงจะไม่ถนัดในโซเชียลมีเดีย
เพราะฉะนั้นก็คือ
ภาวะในขณะนี้อาจารย์มองว่าคนเสื้อแดงใช้วิธีการต่อสู้โดยการไปเลือกตั้งและเลือกพรรคการเมืองมากกว่าจะใช้วิธีลงถนน
การเลือกตั้งปี 62 เนื่องจากบัตรใบเดียว อนาคตใหม่ก็ได้เสียงมาเยอะ
ตอนนั้นก็ยังมองว่าอาจจะเป็นเพราะยุบไทยรักษาชาติ เสียงเลยไปได้ แต่จริง ๆ
ก็ไม่ใช่อย่างนั้นเสียทีเดียว พอมาเลือกตั้งปี 66
ใช้สีและใช้ครอบครัวเพื่อไทยกลายเป็นสีแดง สีแดงเดิมไม่ใช่สีของพรรคเพื่อไทยนะ
พรรคเพื่อไทยก่อนหน้านี้ไม่ได้จำเป็นต้องใช้สีแดง แต่คนอยากใส่เสื้อแดงเอง
อย่างปี 54 ของคุณยิ่งลักษณ์ คนก็เอาเสื้อแดงตัวเก่าที่ใส่ปี 53 มาปี 54
ตอนนั้นคุณทักษิณไม่อยากให้ใส่เสื้อแดงเลย
แต่ว่าพอมาปี
66 ก็มองเห็นแล้วว่าเสียงหายไปเยอะ ก็ต้องการให้คนเสื้อแดงกลับบ้าน
ก็เลยเปิดเป็นสีของพรรค เป็นสีแดง ต่างไปจากในยุคปีก่อน ๆ มันหายไปแล้วรอบหนึ่ง
พอตอนปี 66 เสียงมันต่างจากคุณยิ่งลักษณ์อยู่เกือบ 5 ล้านเสียง มันจะไปอยู่ที่ไหน
มันก็ต้องไปอยู่ที่พรรคประชาชนมากกว่า
เพราะว่าเสื้อแดงที่มีอุดมการณ์ในการต่อต้านรัฐประหารและอยู่ในฝั่งประชาธิปไตย
เขาก็มีสิทธิจะเลือกเพราะว่านปช.เราบอกว่ามันต้องมี 2 ขาในการต่อสู้
ขาหนึ่งอยู่ในเวทีรัฐสภา คุณจะสนับสนุนพรรคอะไรก็ได้แต่ให้เป็นฝ่ายประชาธิปไตย
ซึ่งเมื่อก่อนมีพรรคเดียว มันก็ไม่มีปัญหาอะไร ชอบ/ไม่ชอบ สส.หรืออะไรก็ต้องเลือก
อีกขาหนึ่งนอกเวทีรัฐสภา ต่อสู้ทางการเมือง ต่อต้านรัฐประหาร คืนอำนาจให้ประชาชนเป็นหลักอย่างเดียว
ไม่ทำเรื่องอื่นเลย นี่คือจุดยืนของคนเสื้อแดง
ดังนั้น
ปี 66 เราเห็นชัด ตอนนั้นยังไม่ข้ามขั้วนะ
คุณณัฐวุฒิยังไปช่วยหาเสียงให้ครอบครัวเพื่อไทย แล้วก็บอกไม่เอา 2 ลุง
แต่มาบอกเอาในตอนหลัง เพราะฉะนั้น
ความชัดเจนของพรรคที่เกิดขึ้นใหม่อาจจะมีส่วนดึงดูด ก็ทำให้เสียงหายไปอย่างมากเลย คนที่มีอุดมการณ์แน่วแน่ที่ถูกปลูกฝังมาตั้ง
10 กว่าปี อาจารย์ว่ามีโอกาสไปเลือกพรรคใหม่สูงมาก
***
มนต์ขลัง “ทักษิณ” เสื่อม ***
คนรุ่นใหม่ต้องการแก้ปัญหาการเมืองก่อน
เพราะว่าวิกฤตเศรษฐกิจมันก็ขึ้นอยู่กับวิกฤตการเมือง
คุณจะแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำยังไง? คุณจะแก้ปัญหาทุนผูกขาดได้ยังไง?
มันเป็นไปไม่ได้ถ้าหากคุณไม่แก้ปัญหาทางการเมือง แล้วคุณไม่เข้าสู่โครงสร้าง
การเข้าสู่โครงสร้างมันอาจจะมีปัญหากับชนชั้นนำ 1% ปัญหาอยู่ก็คือว่าคนรุ่นใหม่ต้องการแตะ
ต้องการแก้ปัญหาโครงสร้าง ในความเชื่ออาจารย์นะ ก็คือเขามองวิกฤตการเมืองเป็นสำคัญเพื่อจะแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ
ถ้าคุณไม่แก้ปัญหาที่วิกฤตการเมือง คุณก็ทำได้อย่างนี้แหละ ทำได้อย่างละชิ้น
แจกเงิน สังคมสงเคราะห์ แจกมากก็ไม่ได้ ต้องแจกเฉพาะคนจนแบบสังคมสงเคราะห์
คุณจะไปทำสวัสดิการหรือแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำที่มีแก้ปัญหาระบบรายได้รายจ่ายของประเทศ
ถ้าคุณไม่แก้การเมืองคุณก็ไปแตะไม่ได้ คุณก็แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้
มันก็เหมือนประพรมน้ำไปเรื่อย ๆ แก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ถ้าสำหรับคนรุ่นใหม่
อาจารย์มองว่าเขาไม่เอา
***
ความหวังของคนเสื้อแดงต่อเพื่อไทย ***
คนเสื้อแดงแบ่งเป็น
2 กลุ่ม กลุ่มที่เป็น FC ไม่ว่าจะขึ้นภูเขา ลงทะเล เขาก็ตาม แต่ถ้าถามว่าใครมากกว่า
อาจารย์ว่าแดงอุดมการณ์มีมากกว่า ไม่มีการนำนปช.ต่อไปแล้ว
แต่ด้วยทิศทางมันเป็นทิศทางเดียวกันคือให้ประเทศเดินไปข้างหน้า
ให้อำนาจเป็นของประชาชน ไม่มีการทำรัฐประหาร
เดินไปเส้นทางที่เป็นระบอบประชาธิปไตยแบบสากล ไม่ใช่แบบไทย ๆ
พอเป็นเส้นทางเดียวกัน เขาก็เรียนรู้โดยอัตโนมัติโดยไม่จำเป็นต้องมีการชี้นำ
ดังนั้น เพื่อไทยในยุคนี้ต้องใช้แนวทางบ้านใหญ่
จะเป็นแนวทางกระแสประชาธิปไตยก็คงไม่ได้แล้ว
ก็คงเปลี่ยนยุทธศาสตร์ในการหาเสียงใหม่ ก็คงต้องเป็นอย่างนั้น
เพราะว่าเสียงฐานเดิมเป็นเสียงฝ่ายประชาธิปไตย แต่พอก้าวข้ามมาสนับสนุนพรรครัฐบาลเดิมที่เป็นฝ่ายสืบทอดอำนาจ
มันก็จะหาเสียงกับฝ่ายประชาธิปไตยยากล่ะ ก็คงต้องเปลี่ยนเป็นยุทธศาสตร์แบบบ้านใหญ่
แบบเดียวกับฝ่ายอนุรักษ์นิยมทั้งหมด
***
เสถียรภาพรัฐบาล จะมั่นคงหรือไม่? ***
อาจารย์ว่าไม่มั่นคง
เพราะว่าไม่ใช่เป็นปัญหาของพรรคประชาชนนะ แล้วก็ไม่ใช่เป็นปัญหาของฝ่ายประชาธิปไตย
หรือฝ่ายมวลชนคนเสื้อแดงนะ
แต่เป็นปัญหาที่ว่าเมื่อคุณทักษิณมาอยู่แล้วมาเป็นรัฐบาล
เป็นปัญหาของฝั่งอนุรักษ์นิยมที่เขาไม่ได้เป็นเอกภาพกัน เขาไม่ได้มีการขึ้นต่อกันโดยสมบูรณ์
คุณทักษิณมีบิ๊กดีลจริง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะราบรื่น คุณก็จะมีนักร้อง
คุณก็มีม็อบ แล้วก็มีตุลาการภิวัฒน์ มีป.ป.ช. มีกกต. ซึ่งยังสืบทอดอำนาจอยู่
ขึ้นอยู่กับว่ามีการทำอะไรที่ผิดพลาดสุ่มเสี่ยง เขาร้องไปสัก 30 เรื่อง
มันอาจจะโดนสักเรื่องหนึ่ง แล้วเขาร้องได้ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการครอบงำ
เรื่องผิดจริยธรรม เรื่องอะไรต่าง ๆ ก็มีได้ ขึ้นอยู่กับว่าเวลาเป็นรัฐบาล
อยู่ในความพึงพอใจส่วนใหญ่ของอนุรักษ์นิยมหรือเปล่า?
คุณไม่สามารถที่จะทำอะไรตามใจชอบได้ อย่าคิดว่ามาเป็นรัฐบาลแล้วจะทำอะไรตามใจชอบ
ดังนั้น
จึงทำให้การเมืองนับแต่นี้ยังไม่มีเสถียรภาพ ไม่อย่างนั้นคุณเศรษฐาจะโดนหรือ?
คุณเศรษฐานั้นใคร ๆ เขาบอก 3 หมื่นเปอร์เซ็นจะรอด เพราะว่าคุณทักษิณมีบิ๊กดีลแล้ว
และดูเหมือนได้รับความสนับสนุนจากพลเอกประยุทธ์ด้วย แต่คุณเศรษฐายังไป
ปัญหาคือแล้วตอนนี้เสี่ยงมั้ย? คุณแพทองธาร ก็เสี่ยงอยู่ แต่สำหรับอาจารย์ก็คือเป็นห่วงเสถียรภาพการเมืองประเทศชาติเพราะไม่ต้องการให้มีรัฐประหารอีกแล้ว
มันจึงเป็นเรื่องที่ทำนายยากว่ารัฐบาลนี้จะอยู่ได้นานแค่ไหน?
เพราะว่าเครือข่ายของอนุรักษ์นิยมมีอยู่มาก ทั้งในด้านกองทัพ ในด้านตุลาการภิวัฒน์
สื่อ กลุ่มม็อบต่าง ๆ องค์กรอิสระ และนักร้อง มันมีอยู่มาก
การที่จะให้คิดเห็นเป็นเอกภาพทั้งหมด อาจจะลำบาก เพราะฉะนั้น
คุณทักษิณอยู่ลำบากแน่!!!