“พริษฐ์” เตรียมถามความชัดเจน นโยบายแก้ รธน.
ตั้งคำถามประชามติตามเดิมหรือไม่ กางโรดแม็ปไว้อย่างไร ส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้ง 100%
หรือไม่ หวังรัฐเดินหน้า จัดทำฉบับใหม่ คู่ขนาน
แก้ไขรายมาตราให้ทันบังคับใช้ “เลือกตั้ง ปี 70”
วันที่
9 ก.ย. 2567 เวลา 11.45 น.ที่รัฐสภา
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน
กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญในคำแถลงนโยบายของรัฐบาลน.ส.แพทองธาร ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี มีข้อสังเกต หรือติดใจอะไรหรือไม่ ว่า
เรื่องนโยบายการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากดูจากเอกสารคำแถลงเปรียบเทียบกับรัฐบาลนายเศรษฐา
ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีรอบที่แล้ว อาจจะมีการปรับเปลี่ยนไปบ้าง
แต่โดยรวมมีข้อความที่พูดถึงประเด็นในลักษณะที่กว้าง ดังนั้นเพื่อความชัดเจน
เราจะมีข้อซักถามเพิ่มเติมในที่ประชุมรัฐสภาในวันแถลงนโยบาย หากจะลงในรายละเอียดมากกว่านั้น
ตนขอยืนยันเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้ ต้องทำ 2 ทางคู่ขนานกันไป
คือ
1. การทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่มีความชอบธรรมทางประชาธิปไตยโดยเร็วที่สุด
ซึ่งต้องยอมรับว่าโรดแมปของรัฐบาลที่วางไว้ว่า จะต้องมีการทำประชามติ 3 ครั้งนั้น แต่การจัดทำรอบแรกยังไม่เกิดขึ้น ซึ่งเมื่อคำนวณดูแล้ว
อาจจะมีความสุ่มเสี่ยงที่จะไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่บังคับใช้พร้อมกับกฎหมายลูกทันการเลือกตั้งปี
70
นายพริษฐ์
กล่าวว่า สิ่งที่ตนตั้งคำถามคือ ประเด็นแรก มีการวางโรดแมปไว้อย่างไร
ประเด็นที่สองหากจะเดินหน้าทำประชามติรอบแรกอย่างไร โดยการถามประชาชนว่า
‘ควรมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่’
และจะยังยืนยันคำถามตามที่คณะกรรมการที่นายภูมิธรรม เวชชชัยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
เป็นประธานเสนอมาหรือไม่ ซึ่งเรามองเห็นว่าเป็นการทำสร้างคำถาม 2 คำถามในคำถามเดียวกัน
ที่อาจสร้างความสับสนในการลงคะแนนได้
เพราะก่อนหน้านี้ได้มีการเรียกร้องให้รัฐบาลของนายเศรษฐามีการทบทวนคำถามดังกล่าวแล้ว
และต้องรอดูว่าท่าทีของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร
จะยืนยันตามคำถามเดิมหรือจะมีการปรับข้อความที่เปิดกว้างและชัดเจนมากขึ้น ประเด็นที่สาม
ต้องดูว่ารัฐบาลจะเสนอหรือสนับสนุนให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.)
ที่มาจากการเลือกตั้ง 100% หรือไม่
เนื่องจากประเด็นนี้ไม่มีการระบุในเอกสารแถลงนโยบาย
แต่หากอ้างอิงกันที่ผ่านมาจะเห็นว่าพรรคเพื่อไทยเคยมีการเสนอในลักษณะนี้
แต่ไม่เคยได้คำยืนยันในนามคณะรัฐมนตรีหรือรัฐบาลเลย
นายพริษฐ์
กล่าวอีกว่า
2. การแก้ไขรายมาตรา
เราไม่ได้บอกว่าต้องแก้ไขแทนที่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
แต่เห็นว่าการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องใช้เวลา 1-2 ปีขึ้นไป
จึงมองว่าหากมีมาตราหรือประเด็นไหนในรัฐธรรมนูญปี 60 ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องแก้ไข
ก็ควรมีการเสนอแก้ไขรายมาตรา ทั้งนี้ พรรคประชาชนได้มีการเสนอไปแล้ว 3 ร่าง ซึ่งล้วนมีวัตถุประสงค์ลบล้างผลพวงรัฐประหาร ทั้งการยกเลิกมาตรา 279
ป้องกันการเกิดรัฐประหาร และยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยจะมีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ซึ่งคาดว่าจะเป็นวันที่ 25 ก.ย.นี้ และจากที่ประชุมวิป 3 ฝ่าย
ได้มีการหารือกันว่า
หากฝ่ายไหนต้องการจะเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราในประเด็นอื่นๆ
ก็สามารถยื่นเข้ามาได้
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่
ที่จะเกิดการประวิงเวลา จนไม่สามารถตั้ง ส.ส.ร.
เพื่อนำไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ นายพริษฐ์ กล่าวว่า หากมองในมุมกว้าง
ตนไม่ได้ติดขัดใดๆ แต่ที่พรรคประชาชนยืนยันมาโดยตลอดคือปีศาจอยู่ในรายละเอียด
คำถามคือรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนใครจะเป็นคนร่าง และมาจาก
ส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้ง 100% หรือไม่
แล้วท้ายที่สุดรัฐบาลวางโรดแมปไว้อย่างไร
ให้เรามีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่บังคับใช้ทันการเลือกตั้งปี 70 รวมถึงมีการสนับสนุนการแก้ไขรายตราที่มีปัญหาเร่งด่วนด้วยหรือไม่ส่วนคำตอบสุดท้ายที่พรรคประชาชนอย่างไรจากรัฐบาลคือ
อยากได้โรดแมปที่ชัดเจนว่าจากวันนี้จนถึงวันที่มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
มีการกำหนดระยะเวลาไว้อย่างไร เพราะเป็นสิ่งที่รัฐบาลนายเศรษฐาเคยสัญญาไว้ จะมีการทบทวนคำถามประชามติรอบแรกหรือไม่
และจะให้มี ส.ส.รที่มาจากการเลือกตั้ง 100% หรือไม่
รวมถึงการแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา คงต้องลงรายละเอียดในแต่ละประเด็น แต่วันที่ 25
ก.ย.นี้ จะได้เห็น. ยืนและท่าทีของสมาชิก ทั้ง สส.ฝ่ายรัฐบาลและ
สว.ชุดใหม่ ต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่ามีการทบทวนนำอำนาจหน้าที่และของศาลรัฐธรรมมนูญและองค์กรอิสระที่มีการขยายขอบเขตให้กว้างมากขึ้น
หากเทียบกับรัฐธรรมนูญก่อนหน้านี้ นายพริษฐ์ กล่าวว่า
แน่นอนว่าอำนาจที่ถูกขยายมามีหลายส่วน เช่น
การยุบพรรคที่อยู่ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง
และอำนาจจริยธรรมที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามาใหม่ในรัฐธรรมนูญปี 60 ซึ่งที่ผ่านมามีการแลกเปลี่ยนความเห็นกันจากทุกฝ่าย
แต่ฝ่ายไหนจะเสนอร่างแก้ไขกฎหมายอย่างไร และจะทันกรอบวันที่ 25 ก.ย.หรือไม่ คงต้องรอดูกันอีกที
เมื่อถามว่าพรรคประชาชนจะมีการเสนอร่างอะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่นั้น
โฆษกพรรคประชาชา กล่าวว่า คงต้องมีการหารือกันภายในพรรคก่อน
แต่หากจะมีการเสนอให้ทันในวันที่ 25 ก.ย.นี้
คงต้องมีการดำเนินการในระยะเวลาอันสั้นนี้
เพื่อให้ผ่านเข้าสู่ขั้นตอนการบรรจุลงระเบียบวาระทัน เราเชื่อมั่นว่า
เราอยากเห็นการพูดคุย เรื่องการแก้ไขรายมาตราคู่ขนาน
กับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มากขึ้น หากใครมีประเด็นที่อยากจะแก้
ซึ่งอาจไม่ทันวันที่ 25 ก.ย.นี้
ก็หวังว่าคงจะมีวาระการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาเพิ่มเติมในวันอื่น
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #พริษฐ์ #ไอติมพริษฐ์ #แก้รัฐธรรมนูญ #ประชามติ