วันพุธที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2567

"พิชัย" เผยค่าเงินบาทแข็งสุดในรอบ 19 เดือน ผลจากนโยบายดอกเบี้ยสหรัฐ ยืนยันค่าเงินเฟ้อยังต่ำกว่ากรอบ ขอผู้ว่าแบงค์ชาติ หันมาพูดคุยกัน ปรับลดดอกเบี้ยให้สอดคล้องนโยบายรัฐบาล และประเทศคู่ค้า

 


"พิชัย" เผยค่าเงินบาทแข็งสุดในรอบ 19 เดือน ผลจากนโยบายดอกเบี้ยสหรัฐ ยืนยันค่าเงินเฟ้อยังต่ำกว่ากรอบ ขอผู้ว่าแบงค์ชาติ หันมาพูดคุยกัน ปรับลดดอกเบี้ยให้สอดคล้องนโยบายรัฐบาล และประเทศคู่ค้า


วันนี้ (25 กันยายน 2567) นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความชัดเจน เรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทยว่า นโยบายอัตราดอกเบี้ยเป็นเรื่องสำคัญกับทุกคนที่ต้องการใช้เงินลงทุนจึงต้องเป็นเรื่องที่ต้องคุยกัน เห็นได้ชัดจากเรื่องค่าของเงินที่แข็งตัวขึ้น จนเมื่อวานนี้อยู่ที่ 23 จึงถือว่าแข็งที่สุดในรอบไป 19 เดือน ซึ่งการที่ค่าเงินแข็งขึ้นจะส่งผลกับผู้ส่งออก เขาหากค่าเงินอ่อนจะสามารถส่งออกได้จำนวนมาก แต่จะส่งผลดีกับผู้ลงทุน เช่นการซื้อเครื่องจักรต่างประเทศ ดังนั้นแต่ละคนจึงมีความต้องการไม่เหมือนกัน แต่สำคัญที่สุดต้องทราบสาเหตุก่อนว่าการที่ค่าเงินแข็งตัวขึ้นมีผลมาจากภายนอก โดยเฉพาะสถานการณ์ของสหรัฐอเมริกาที่มีนโยบายอัตราดอกเบี้ยสูงมาอย่างยาวนาน ดังนั้นทุกประเทศทั่วโลกจะได้รับผลกระทบ เพราะเม็ดเงินจะไหลเข้าสู่ประเทศกำลังพัฒนาและประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ผลที่จะตามมาคือค่าเงินเฟ้อ แต่จากประเมินไม่น่าจะสูงอย่างที่คาดการณ์ไว้ แต่อย่างไรค่าเงินเฟ้อก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะนำมาพิจารณาเรื่องการกำหนดอัตราดอกเบี้ย โดยกำหนดกรอบไว้ 1-3% ดังนั้นหากอัตราเงินเฟ้ออยู่ในกรอบก็ต้องดูว่าแล้วอัตราดอกเบี้ยสูงเกินไปหรือไม่ เพิ่งจะส่งผลต่อความมั่นใจของผู้ผลิตมากขึ้น ซึ่งนโยบายของรัฐบาลมุ่งเน้นให้เศรษฐกิจเติบโตแต่ แต่ถ้าดันให้ดอกเบี้ยสูงมันจะสวนทางกัน ซึ่งหากกังวลว่าหากปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะทำให้เกิดการใช้จ่ายเงินจำนวนมากทำให้เกิดเงินเฟ้อ ขอยืนยันว่าอัตราเงินเฟ้อต่ำกว่ากรอบต่ำ และอยากให้มาทำนโยบายการเงินการคลังร่วมกัน และเป็นไปตามที่รัฐบาลได้เคยสัญญาไว้กับประชาชน


" หากกลัวว่าดอกเบี้ยลงแล้วคนจะกู้มากขึ้นและทำให้เป็นหนี้มากขึ้น เราก็มองเห็นว่าแนนั้นใช่ในภาวะที่คนเงินเยอะ แต่ถ้าดอกเบี้ยลงในภาวะที่คนไม่มีเงินจะเอาที่ไหนไปกู้ อันนี้อาจต้องเอามานั่งดูกันว่าตรรกะที่แท้จริงคืออะไร "


ส่วนผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะรับรู้และรับทราบถึงสถานการณ์ทั้งหมดหรือไม่นั้น นายพิชัย กล่าวว่า คนเข้าใจในสถานการณ์ การจะคุยกันเรื่องนี้ต้องถอดใจมาฟังลูกหนี้และคนหาสินเชื่อว่าเขาคิดอะไร ถ้าจะพูดเรื่องความมั่นคงก็ต้องถอดใจไปฟัง สถาบันการเงิน ดังนั้นการจะพูดเรื่องอัตราดอกเบี้ยก็ต้องดูว่า ใครได้รับผลกระทบบ้าง ดอกเบี้ยลงเนี่ยดังนั้นเชื่อว่าหากมีการปรับลดดอกเบี้ยลงจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ทั้งหมดเพื่อภาพรวม เชื่อว่าหากมองร่วมกันน่าจะเห็นอะไรที่ตรงกันบ้าง


ขณะที่นายเผ่าภูมิ ย้ำว่า อัตราเงินเฟ้อของไทย ขณะนี้ยังต่ำกว่ากรอบที่คาดการณ์ไว้ และไม่มีแนวโน้มที่จะเข้าสู่กรอบในระยะเวลาอันใกล้ และอัตราการแลกเปลี่ยนยังถือว่าดีกว่าเพื่อนบ้าน ส่วนใครจะดูว่าดอกเบี้ยนโยบายมีความเหมาะสมหรือไม่ให้ดูการเติบโตทางเศรษฐกิจซึ่งตอนนี้เราต่ำไป เราจึงต้องเหยียบคันเร่งโดยการ จ่ายเงินเข้าไปในระบบเศรษฐกิจกว่าแสนล้านบาท  ซึ่งสถานการณ์ของหลายประเทศทั่วโลกขณะนี้มีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง นั้นนโยบายของประเทศจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องสอดคล้องกับนโยบายการเงินของประเทศคู่ค้า


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ค่าเงินบาท #ระบบเศรษฐกิจ