ธนาธรบุกบุรีรัมย์ รับคำท้าปักธง ส.ส.ก้าวไกล พอกันทีการเมืองไม่มีอุดมการณ์ ทุจริตคอรัปชั่น เชื่อประชาชนไม่มีเจ้าของ ขอคนบุรีรัมย์เลือกเพื่อความหวังและความเปลี่ยนแปลง
วันนี้ (8 พ.ค. 66) ด้านคาราวานสายเลือดอีสาน ซึ่งนำโดย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล, อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล, ทวีศักดิ์ ทักษิณ และ คำพอง เทพาคำ ได้กระจายขบวนคาราวานต่อไปตามพื้นที่ต่างๆ ของ จ.บุรีรัมย์ ที่ อ.หนองกี่ อ.กระสัง อ.ห้วยราช อ.พุทไธสง และที่ จ.สุรินทร์ ที่ อ.สังขะ อ.ศีขรภูมิ อ.ชุมพลบุรี อ.เมืองสุรินทร์
ก่อนที่ทั้งหมดจะมาร่วมกันเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ที่ลานเซาะกราว อ.เมืองบุรีรัมย์ พร้อมแนะนำผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ ทั้ง 9 เขตของพรรคก้าวไกล ประกอบด้วย เขต 1 ธนายุทธ ยืนยั่ง (เบอร์ 7), เขต 2 วิทธิลักษณ์ จันทร์ธนสมบัติ (เบอร์ 5), เขต 3 ทรงพล ทะรารัมย์ (เบอร์ 4), เขต 4 นันทภพ ทองนุ่น (เบอร์ 4), เขต 5 ธนากร สัมมาสาโก (เบอร์ 4), เขต 6 ภูวดล ศรีหามาตย์ (เบอร์ 5), เขต 7 สุพิศ คิดรอบ (เบอร์ 2), เขต 8 วินัย จีนโน (เบอร์ 1) และ เขต 9 เสนาะ แก้วมุกดา (เบอร์ 8)
โดยที่เวทีนี้มีอดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกลสิงคน คือ สุรชัย ศรีสารคาม และ พล.ท.พงศกร รอดชมภู มาร่วมเป็นผู้ปราศรัยในวันนี้ด้วย โดยมีชาวบุรีรัมย์หลายพันคน เข้าร่วมฟังการปราศรัยในวันนี้จนแน่นเต็มลานเซาะกราว พร้อมส่งเสียงเชียร์พรรคก้าวไกลตลอดการปราศรัย
ในช่วงหนึ่งของการปราศรัย ธนาธร ระบุว่าการเดินทางของเรา 4 ปีที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลไม่ได้มีแต่คนหนุ่มสาวแต่ยังมีคนที่มีวัยวุฒิและคุณวุฒิ บุคลากรของพรรคก้าวไกลมีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ธีรัจชัย พันธุมาศ ที่อภิปรายรัฐมนตรีที่มีปัญหายาเสพติด, วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้เปิดโปงขบวนทลายรัง IO ของกองทัพ ทำให้ประชาชนเห็นว่าขบวนการที่ทำให้ประชาชนชังเกลียดกัน และฝ่ายอนุรักษ์นิยมก็ใช้ความเกลียดชังนั้นทำให้ตนเองอยู่ในอำนาจได้ เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.คนแรกในสภาที่กล้าชนธุรกิจผูกขาดพลังงานที่ทำให้ค่าไฟประชาชนแพง จนถูกกลุ่มฟ้อง 100 ล้านบาท, พริษฐ์ วัชรสินธุ คนที่ทำให้นโยบายการศึกษาไทยสมบูรณ์และรอบด้านมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการลดเวลาเรียน คืนเวลาทำงานเอกสารให้คุณครู ทำให้โรงเรียนปลอดอำนาจนิยม, วรรณวิภา ไม้สน ส.ส.ปีกแรงงานที่ต่อสู้เพื่อสิทธิแม่บ้านที่ทำงานในอาคารรัฐสภา, ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ผู้ตรวจสอบการทุจริตในกระทรวงคมนาคมว่าในมีห้างหุ้นส่วนที่รับโครงการก่อสร้างนับพันล้านมีผู้ถือหุ้นตัวจริงคือรัฐมนตรี นำมาซึ่งคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ของรัฐมนตรีที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน หรือสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้เปิดโปงความจริงส่วนต่างรถไฟฟ้าสายสีส้ม 68,000 ล้านบาท
“นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าพวกเราทำงานอย่างหนักหน่วงตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ที่ประชาชนเดินทางมาตรงนี้ไม่ใช่เพราะพิธาหน้าตาดี แต่เพราะประชาชนเห็นการทำงานของเราผมเชื่อว่าผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคก้าวไกลมีความหนักแน่นไม่ต่างจาก อดีต ส.ส.พรรคก้าวไกลที่ผมได้ยกตัวอย่างมาแล้ว” ธนาธรกล่าว
ธนาธรกล่าวต่อว่าในการเลือกตั้งรอบที่แล้ว มีบางพรรคบอกว่าจะไม่ร่วมงานกับประยุทธ์ แต่หลังเลือกตั้งจูบปากกันเฉยเลย บ้านเมืองถึงได้ย่ำแย่กันถึงวันนี้ เพื่อแลกกับตำแหน่ง อำนาจ ผลประโยชน์ แบบที่ปกรณ์วุฒิและสุรเชษฐ์เปิดโปง และตั้งคำถามว่าเงินที่พวกเขาเอามาแจกมากจากกระเป๋าของพวกเขาเองหรือมาจากการหาผลประโยชน์จากโครงการรัฐ ธนาธรกล่าวว่าการเมืองที่ไม่มีอุดมการณ์ การเมืองที่ซื้อสิทธิขายเสียง การเมืองที่ทุจริตคอรัปชั่นนั่นไม่ใช่พรรคก้าวไกล
ธนาธรยังกล่าวต่อไป ว่าเมื่อไม่นานมานี้พรรคก้าวไกลได้มาดีเบตที่บุรีรัมย์ มีพรรคการเมืองหนึ่งปรามาศว่าพรรคก้าวไกลจะไม่ได้ ส.ส.ในบุรีรัมย์เลยแม้แต่เขตเดียว แต่ตนเชื่อว่าชาวบุรีรัมย์ไม่มีเจ้าของ ประชาชนทุกคนมีเจตจำนงเสรี ตัดสินใจเองได้ และไม่มีนักการเมืองคนไหนเป็นเข้าของประชาชนคนใดทั้งสิ้น พรรคก้าวไกลวันนี้มาที่นี่ มาเพื่อประกาศรับคำท้า และยืนยันว่าพรรคก้าวไกลจะปักธงในบุรีรัมย์ได้
“นี่คือการเลือกตั้งแห่งการเปลี่ยนแปลง อนาคตของประเทศไทยและบุรีรัมย์อยู่ในมือทุกคน ทุกคนเลือกได้ว่าจะให้การเลือกตั้งครั้งนี้พาประเทศไทยไปสู่อนาคต ถ้าทุกคนเชื่อเหมือนกับเราว่าประเทศไทยและบุรีรัมย์ดีกว่านี้ได้ ขอให้ร่วมเดินไปกับพวกเรา เราไม่มีหัวคะแนนที่เป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือ อสม. เครือข่ายเดียวที่เรามีคือผู้รักประชาธิปไตยและความเป็นธรรม คือหัวคะแนนธรรมชาติอย่างทุกคนในที่นี้เท่านั้น” ธนาธรกล่าว
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ก้าวไกล #เลือกตั้ง66