วันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

ปล่อยคาราวานก้าวไกลวันแรก ประชาชนทุกภาคตอบรับดีเยี่ยม ‘พิธา’ อ้อนคนจันท์ กาก้าวไกลยกจังหวัด เข้าสภาฯ สร้างการเปลี่ยนแปลง ด้าน ‘ธนาธร’ ปราศรัยอุบลฯ ย้ำก้าวไกลแก้เรื่องยากให้จบ ไม่ส่งต่อปัญหาให้ลูกหลาน

 


ปล่อยคาราวานก้าวไกลวันแรก ประชาชนทุกภาคตอบรับดีเยี่ยม ‘พิธา’ อ้อนคนจันท์ กาก้าวไกลยกจังหวัด เข้าสภาฯ สร้างการเปลี่ยนแปลง ด้าน ‘ธนาธร’ ปราศรัยอุบลฯ ย้ำก้าวไกลแก้เรื่องยากให้จบ ไม่ส่งต่อปัญหาให้ลูกหลาน

 

เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2566 หลังจากพรรคก้าวไกลถือเวลา 09.09 น. เปิดตัว ‘คาราวานก้าวไกล ถนนทุกสายมุ่งสู่ทำเนียบ’ ซึ่งเป็นแคมเปญหาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง โดยคาราวานแบ่งออกเป็น 5 สาย กระจายไปตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ แล้วจึงมาบรรจบกันที่กรุงเทพฯ ก่อนการปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายวันที่ 12 พฤษภาคม

 

การเลือกตั้งคือโอกาสเปลี่ยนแปลงประเทศ

 

สำหรับคาราวานสายบูรพาไม่แพ้ นำโดย ศิริกัญญา ตันสกุล, เบญจา แสงจันทร์ และวิโรจน์ ลักขณาอดิศร บรรยากาศตลอดวันเป็นไปอย่างคึกคัก เริ่มต้นที่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ก่อนเดินทางต่อไปที่ อ.เมือง เพื่อช่วยหาเสียง ศักดินัย นุ่มหนู ผู้สมัคร ส.ส.ตราด เขต 1 พรรคก้าวไกล จากนั้นเดินทางต่อไปร่วมเวทีปราศรัยที่ตลาดนัดวัดมหาคงคาราม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี โดย มีพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ขึ้นปราศรัยปิดท้ายท่ามกลางประชาชนต้อนรับและรอฟังปราศรัยจำนวนมาก

 

พิธากล่าวว่า เมื่อการเลือกตั้ง 2562 พี่น้องชาวจันทบุรีลงคะแนนให้พรรคอนาคตใหม่ถึง 88,000 คะแนน แต่เมื่อเป็น ส.ส. กลับมีคนทรยศความไว้วางใจของประชาชน อย่างไรก็ตาม พรรคก้าวไกลมีระยะเวลาในการคัดเลือกผู้สมัครมากกว่าพรรคอนาคตใหม่ ทุกคนผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้นถึง 4 ด่าน ถูกทดสอบทั้งเรื่องอุดมการณ์และเรื่องประสิทธิภาพในการทำงาน ดังนั้น ขอให้มั่นใจและเลือกผู้สมัครของพรรคก้าวไกลทั้ง 3 เขตเข้าสภาฯ ไปเป็นผู้แทนประชาชน

 

พิธากล่าวว่า พรรคก้าวไกลมี 3 นโยบายเพื่อตอบโจทย์ปัญหาของชาวจันทบุรี นโยบายที่หนึ่งคือการปฏิรูปที่ดิน การเดินทางไปตำบลทับช้างเป็นจุดเริ่มต้นของการอภิปรายกระดุม 5 เม็ดของตน จึงถือว่าติดหนี้บุญคุณของคนจันทบุรี ที่ทำให้เข้าใจปัญหาที่ดินที่ซับซ้อน ครั้งนี้พรรคก้าวไกลเสนอนโยบาย เปลี่ยนที่ดิน ส.ป.ก. ให้เป็นโฉนดอย่างเป็นธรรม

 

นโยบายที่สอง คือการกระจายอำนาจเพื่อจัดการปัญหาช้างป่า ให้ท้องถิ่นได้ใช้ทรัพยากรและเทคโนโลยีในการแก้ปัญหา คนจันทบุรีไม่ต้องรองบประมาณจากส่วนกลาง คนที่เสียชีวิตต้องได้รับการเยียวยาและใช้เทคโนโลยีเพื่อจับความร้อนหาช้างป่า ให้คนกับช้างอยู่ด้วยกันได้ และนโยบายที่สาม คือการสร้างสวัสดิการถ้วนหน้าแก่ประชาชนทุกคนทุกช่วงวัย ให้คนจันทบุรีมีคุณภาพชีวิตที่ดีขั้นพื้นฐานตั้งแต่วันแรกถึงวันสุดท้ายของชีวิต เช่น เงินเด็กเล็ก 1,200 บาทต่อเดือน เบี้ยผู้สูงวัย 3,000 บาทต่อเดือน

 

พิธากล่าวว่า เลือกตั้งครั้งนี้คือโอกาสเปลี่ยนแปลงประเทศ ไม่ใช่เรื่องของพิธา ของพรรคก้าวไกล หรือของใคร แต่เป็นเรื่องของทุกคน จึงขอให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิกันมากๆ กาก้าวไกล 2 ใบให้ถล่มทลาย เลือกผู้สมัคร ส.ส.จันทบุรี พรรคก้าวไกลเข้าสภาฯ เลือกพิธาเป็นนายกฯ ยุติ 8 ปีที่แปดเปื้อน สร้างประเทศไทยที่การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต

 

เลือกก้าวไกล กล้าเปลี่ยนแปลง ไม่มีโอกาสไหนเปิดกว้างเท่าวันนี้

 

สำหรับคาราวานก้าวไกลสายเลือดอีสาน นำโดย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล และอดีต ส.ส.พรรคก้าวไกล ประกอบด้วย อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล, ทวีศักดิ์ ทักษิณ และ คำพอง เทพาคำ ได้เริ่มต้นขบวนโดยเปิดเวทีปราศรัย ที่วัดไชยคำ อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ พร้อมแนะนำผู้สมัคร ส.ส.อำนาจเจริญ ทั้ง 2 เขต ประกอบด้วย เขต 1 ประภาส เวชกรณ์ (เบอร์ 6) และ เขต 2 ไมตรี แก้วมงคล (เบอร์ 1)

.

หลังจากนั้น ขบวนคาราวานฯ ได้กระจายออกหาเสียงพร้อมผู้สมัคร ส.ส.อำนาจเจริญ ทั้งที่ อ.ลืออำนาจ และ อ.เมืองอำนาจเจริญ ก่อนร่วมเดินทางเข้า จ.อุบลราชธานี หาเสียงที่ อ.โพธิ์ไทร, อ.ตระการพืชผล, อ.ศรีเมืองใหม่ และ อ.เมืองอุบลราชธานี จากนั้นช่วงเย็น ได้ร่วมกันเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ทุ่งศรีเมือง พร้อมผู้สมัครทั้ง 11 เขตของ จ.อุบลราชธานี ประกอบด้วย เขต 1 วิศรุต สวัสดิ์วร (เบอร์ 10), เขต 2 สมภพ จันทรวงศ์ (เบอร์ 7), เขต 3 สหธวัชชัย อนุสนธ์ (เบอร์ 4), เขต 4 วัฒนชัย มากมูล (เบอร์ 7), เขต 5 เพทาย ศรีสวัสดิ์ (เบอร์ 5), เขต 6 ชิราวุธ แก้วชิณ (เบอร์ 7), เขต 7 ภานุภพ ยุตกิจ (เบอร์ 7), เขต 8 ภคมน แก้วปัญญา (เบอร์ 8, เขต 9 บรรจง อินทร์ขาว (เบอร์ 8, เขต 10 ประภัสสร สายเพ็ชร (เบอร์ 5) และ เขต 11 พิทักษ์ชัย จิตจันทร์ (เบอร์ 6)

 

ในช่วงหนึ่งของการปราศรัย ธนาธรระบุว่าสิ่งที่พรรคก้าวไกลเสนอมาตลอดคือการแก้ปัญหาที่ต้นตอ แม้หลายคนจะกังขาว่าพรรคก้าวไกลจะกล้าทำหรือไม่ แต่ผลงานของพรรคก้าวไกลได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว ทั้งการอภิปรายเรื่องตั๋วช้าง ทุนจีนสีเทา ยาเสพติด ‘มันคือแป้ง’ ก็อภิปรายมาแล้ว ไม่เคยเกรงกลัว

 

เรื่องประสบการณ์ก็เช่นกัน ตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่มาถึงพรรคก้าวไกล เราถูกสบประมาทตลอดว่าเป็นพวกคนไม่มีประสบการณ์ แต่ตนคิดกลับกัน ว่าคนมีประสบการณ์อย่างพวกคุณไม่ใช่หรือ ที่พาประเทศไทยมาได้เท่านี้ เพราะฉะนั้น อย่ากลัวอนาคต ถ้าเราไม่กล้าเปลี่ยนแปลง ไม่กล้าเปิดประตูบานใหม่ๆ ประเทศของเราจะไม่มีทางเจริญก้าวหน้าได้เลย ถ้าอยากเห็นความเจริญก้าวหน้า ต้องกล้าที่จะเผชิญหน้ากับมัน แม้ยากแต่จำเป็นต้องทำเพื่อลูกหลาน และไม่มีโอกาสไหนจะเปิดกว้างเท่าวันนี้อีกแล้ว

 

กาก้าวไกล 2 ใบ มีแต่คะแนนเติมน้ำ ไม่มีตกน้ำ

 

คาราวานก้าวไกลสายอีสานมิตรภาพ นำโดย ปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล, อรรถพล บัวพัฒน์, อภิชาติ ศิริสุนทร และนายิกา ศรีเนียน ระหว่างเส้นทางคาราวาน ได้ช่วยหาเสียงผู้สมัคร ส.ส. ใน 3 จังหวัด ประกอบด้วย จ.บึงกาฬ นาวินทร์ ลครแก้ว (เขต1) สำรวย ศรีทิน (เขต 2) ณัฐพงษ์ ป้องปิ่น (เขต 3) และ จ.นครพนม เทิดศักดิ์ แพงสาร (เขต 1) ก่อนปิดท้ายด้วยเวทีปราศรัยที่ จ.สกลนคร แนะนำผู้สมัครทั้ง 7 เขต

 

ปิยบุตรกล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนนายกฯ และเปลี่ยนขั้วรัฐบาลได้แน่นอน สำหรับพรรคก้าวไกลนั้น มีทั้งความสดใหม่และความพร้อมในการเป็นรัฐบาล ได้เตรียมนโยบายมากกว่า 300 เรื่องเพื่อแก้ปัญหาประชาชน

 

หลายเรื่องที่เราต้องการเข้าไปทำ เช่น ปฏิรูปกองทัพ กระจายอำนาจ ทลายทุนผูกขาด เรื่องยากๆ เหล่านี้จะสำเร็จได้ จำเป็นต้องมีจำนวน ส.ส. มากเพียงพอ ดังนั้น หากพี่น้องประชาชนอยากเห็นความเปลี่ยนแปลง ขอให้เลือกพรรคก้าวไกลทั้ง 2 ใบให้ถล่มทลาย ให้พรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล ให้พิธาเป็นนายกฯ รับรองไม่มีคะแนนตกน้ำ มีแต่คะแนนเติมน้ำ ช่วยกันเลือกเพื่อเปลี่ยนประเทศไทยให้ไม่เหมือนเดิม การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต

 

สำหรับบรรยากาศของสายมิตรภาพ มีประชาชนให้การต้อนรับเป็นอย่างดีตลอดทาง โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนที่รอพบและถ่ายภาพกับปิยบุตร ประชาชนบางกลุ่มขี่มอเตอร์ไซค์ติดตามพร้อมส่งเสียงเชียร์ บางกลุ่มมอบน้ำดื่มและอาหารเพื่อให้กำลังใจ

 

สามจังหวัดใต้ตอบรับนโยบาย-จุดยืนก้าวไกลชัดเจน

 

สำหรับคาราวานสายในใต้หล้า นำโดย รังสิมันต์ โรม, พริษฐ์ วัชรสินธุ, เดชรัต สุขกำเนิด, ประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์, รอมฎอน ปันจอร์ และภคมน หนุนอนันต์ วันนี้เดินทางผ่าน 3 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ นราธิวาส ยะลา ปัตตานี ได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างอบอุ่น

 

รังสิมันต์ เปิดเผยว่า ประชาชนใน 3 จังหวัดหลากหลายวัย ไม่ใช่แค่คนรุ่นใหม่ แสดงความชื่นชอบพรรคก้าวไกล ทั้งเรื่องความชัดเจนในจุดยืน ‘มีลุงไม่มีเรา มีเราไม่มีลุง’ และนโยบายของพรรคก้าวไกลที่เสนอการปฏิรูปกองทัพ เปลี่ยนพื้นที่ความมั่นคงทางทหารเป็นพื้นที่ความมั่นคงทางอาหาร โดยตอนนี้ทุกคนกำลังตื่นเต้น อยากเห็นนายกฯ ที่ชื่อพิธา และอยากเห็นรัฐบาลก้าวไกล

 

14 พฤษภา กาก้าวไกล พาประเทศไปสู่อนาคตที่ดีกว่า

 

ส่วนคาราวานสายมาเหนือ นำโดย ชัยธวัช ตุลาธน, พรรณิการ์ วานิช และกรุณพล เทียนสุวรรณ เดินทางผ่าน 2 จังหวัด คือเชียงรายและพะเยา บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนโบกมือให้กำลังใจ ชูสามนิ้ว และเข้ามาขอถ่ายภาพ โดยระหว่างทางได้ช่วยหาเสียง รัตน์ธนวัตร พุทธจันทร์ ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย เขต 2

 

ชัยธวัช กล่าวว่า ขอฝากพี่น้องประชาชนช่วยกันจับตาการเลือกตั้งให้เป็นไปอย่างโปร่งใส สังเกตการณ์การนับคะแนน การเลือกตั้งครั้งนี้ ถึงเวลาที่ประชาชนจะร่วมกันแสดงพลังว่าต้องการการเปลี่ยนแปลง ส่งพิธาเป็นนายกฯ คนใหม่ ชัยชนะในวันที่ 14 พฤษภาคม จะไม่ใช่แค่ชัยชนะของพรรคก้าวไกล แต่เป็นชัยชนะของทุกคน นำพาประเทศออกจากการเมืองแบบเดิม ๆ ไปสู่อนาคตที่ดีกว่าเดิม

 

สำหรับคาราวานก้าวไกลในวันที่ 7 พฤษภาคม นี้ สายภาคเหนือจะเดินทางต่อไปที่ จ.ลำปาง จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ และ จ.ลำพูน, สายอีสานมิตรภาพ เดินทางต่อไปที่ จ.สกลนคร และ จ.อุดรธานี, สายเลือดอีสาน เดินทางต่อไปที่ จ.อุบลราชธานี และ จ.ศรีสะเกษ, สายในใต้หล้า เดินทางต่อไปที่ จ.ปัตตานี และ จ.สงขลา และ สายภาคตะวันออก เดินทางต่อไปที่ จ.ระยอง

 

โดยไฮไลท์สำคัญ สายในใต้หล้า ช่วงเช้าจะมีการปราศรัยที่บริเวณค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี ก่อนที่ช่วงเย็น พิธา รังสิมันต์ และพริษฐ์ จะร่วมเวทีปราศรัยใหญ่ที่แยกสะพานดำ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมกับผู้สมัคร ส.ส.สงขลา ทั้ง 9 เขต ส่วนสายอีสาน ปิยบุตรและธนาธรจะร่วมเวทีปราศรัยใหญ่ที่สวนประตูเมือง จังหวัดขอนแก่น ในเวลา 18.00 น.

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ก้าวไกล #เลือกตั้ง66