แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล
ทยอยเดินทางถึงโรงแรม เข้าถกครั้งสุดท้ายก่อน MOU ปัด ตอบเนื้อหาก่อน ขณะที่
‘กังฟู วสวรรธน์’ ลั่น ไม่ได้มาเอาตำแหน่ง แต่มาเอาตำนาน
เมื่อเวลา
16.30 น. วันที่ 22 พฤษภาคม ที่ห้องบอลรูมโรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ
ซึ่งเป็นสถานที่พรรคก้าวไกล ในฐานะพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
นัดพรรคฝ่ายประชาธิปไตย ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย, พรรคประชาชาติ, พรรคเสรีรวมไทย, พรรคไทยสร้างไทย, พรรคเพื่อไทยรวมพลัง, พรรคเป็นธรรม และพรรคพลังสังคมใหม่ เซ็นเอ็มโอยูเพื่อจัดตั้งรัฐบาล
โดยเวลา
14.35 น. นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล แกนนำพรรคก้าวไกลมาถึงโรงแรมพร้อมติดกิ๊ฟส้ม
โดยกล่าวถึงการลงนามเอ็มโอยูในการจัดตั้งรัฐบาลว่า ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อย
ขณะนี้บรรดาแกนนำกำลังทยอยมา
โดยจะมีการหารือกันกับพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดก่อนที่จะเริ่มงานแถลงข่าว
ซึ่งจะมีหัวหน้าพรรคและทีมของแต่ละพรรค ในส่วนของพรรคก้าวไกลจะเข้าไป 7 คน
แบ่งสัดส่วนคนเข้าหารือตามขนาดของพรรค
เมื่อถามว่า
ร่างเอ็มโอยูพร้อมแล้ว จะไม่มีการแก้ไขแล้ว และมี 23 ข้อเหมือนเดิมใช่หรือไม่
นางอมรัตน์กล่าวว่า “ยังพูดอะไรไม่ได้ ฟังพร้อมกัน เดี๋ยวไม่เหมาะสม”
เมื่อถามว่า
บรรยากาศในวันนี้ราบรื่นดีหรือไม่ นางอมรัตน์ กล่าวว่า ราบรื่น หมดยุคทหารแล้ว
เมื่อถามว่า
มีความกังวลหรือไม่ ในกรณีที่กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม
จะเดินทางไปชุมนุมหน้ารัฐสภา เพื่อกดดันส.ว.ที่จะมีการประชุมในวันที่ 23
พฤษภาคมที่จะถึงนี้ นางอมรัตน์ กล่าวว่า “ไม่กังวล”
ขณะที่
เวลา 14.40 น. นายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ
เดินทางมาถึงสถานที่จัดงาน และให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าห้องประชุม ถึงข้อตกลง 23 ข้อ
โดยบอกว่า ขณะนี้ยังไม่เห็น ส่วนข้อที่เกี่ยวข้องกับสมรสเท่าเทียมและสุราก้าวหน้า
ตอนนี้มีการแก้ไขแล้วเรียบร้อย
เมื่อถามว่า
เป็นที่พอใจแล้วหรือไม่ นายนายวันมูหะหมัดนอร์ กล่าวตอบเพียงสั้น ๆ ว่า
"ครับ" แล้วเดินเข้าห้องประชุมไป
จากนั้น
เวลา 14.42 น. น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล
ได้เดินทางเข้าประชุมก่อนการแถลงผลเจรจา MOU โดยผู้สื่อข่าวพยายามถามถึงเนื้อหา
MOU ว่าทั้ง 23 ข้อ มีการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า "ขอให้รอดูกันต่อ"
ต่อมา
เวลา 14.50 น. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ เดินทางมาถึงโรงแรม
ด้านพลตำรวจตรีสุพิศาล
ภักดีนฤนาถ กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า
ต้องคัดเลือกจาก ส.ส. และพิจารณาชื่อจากคณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล
เรื่องนี้ขอให้ถามนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค และเมื่อถามว่าเป็นใคร
พลตำรวจตรีสุพิศาล บอกว่า ก็เห็นชื่อกันอยู่
จากนั้นเวลา
15.05 น. นายวสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทรวมพลังเดินทางมาถึงโรงแรมโดยให้สัมภาษณ์ว่า
ตนไม่ได้อึดอัดอะไรสำหรับข้อตกลง และคิดว่าทุกพรรคสามารถคุยและเจรจากันได้ ยอมถอยคนละก้าวสองก้าว
เพื่อที่จะได้ก้าวไปด้วยกัน และเราช่วยกันประคับประคอง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล
ให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 และจัดตั้งรัฐบาลได้ ทั้งนี้ สำหรับในเอ็มโอยู มี 3
ประเด็นด้วยกัน ได้แก่ เพิ่มเติม ตัด และแก้ไข ซึ่งเราได้คุยกันแล้วย้ำว่าไม่มีปัญหา
และไม่มีบรรยากาศการขัดแย้งกันในการประชุม
เมื่อถามว่า
ประเด็นที่บอกว่าถอยกันคนละก้าว สองก้าว เป็นประเด็นอะไร นายวสวรรธน์ กล่าวว่า
ประเด็นสมรสเท่าเทียมและสุราก้าวหน้า ที่พรรคประชาชาติเห็นชอบให้มีการแก้ไข
เมื่อถามถึง
ความกังวลเรื่องเสียงของส.ว.ในการโหวตนายกรัฐมนตรี นายวสวรรธน์ กล่าวว่า ไม่กังวล
ทุกคนใช้การเจรจาต่อรอง พูดคุยให้เขาเข้าใจว่าวันนี้เสียงของประชาชนเป็นเช่นนี้
นายวสวรรธน์
ยังกล่าวถึงวันครบรอบการรัฐประหารด้วยว่า เมื่อ 9 ปีที่แล้ว ตนอยู่บนรถส่วนตัว
และทราบว่าประเทศไทยมีรัฐประหาร เมื่อช่วงบ่ายซึ่งก็รู้สึกว่าไม่ได้เกินความคาดหมาย
และจะออกมาเป็นเช่นนี้ เราต้องทำให้ประชาธิปไตยที่บิดเบี้ยว
ให้รู้ว่าวันนี้หมดเวลาแล้ว โดยต้องสร้างให้เป็นวัฒนธรรมใหม่
ว่าประชาธิปไตยคือเสียงข้างมาก
นายวสวรรธน์
กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า “ไม่ได้มาเอาตำแหน่ง แต่มาเอาตำนาน”
15.10
น. นายกัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรคเป็นธรรม เดินทางมาถึง พร้อมเปิดเผยว่า
เนื้อหารายละเอียดเป็นกรอบที่เข้าใจง่าย และต้องมีความครอบคลุม รวมถึงมีทิศทาง
ดังนั้น 23 ข้อที่ทราบกันอยู่แล้วและพรรคเป็นธรรมพอใจกับกรอบ MOUดังกล่าว
ทั้งนี้พรรคเป็นธรรมต้องการผลักดันคือ
เรื่องการสร้างเสรีภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และยืนยันว่าจะต้องมีคำว่า “ปาตานี”
ในการสร้างเสรีภาพแบบยั่งยืนให้ได้
ทั้งนี้เพื่อเป็นการพลิกโฉมการเมืองไทยการเมืองใหม่
โดยจะขอให้พรรคก้าวไกลเพิ่มเข้าไป เพราะเป็นจุดยืนของพรรคเป็นธรรม
เวลา
15.05 น. พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย
เดินทางเข้าร่วมวงเจราจา โดยทันทีที่มาถึงผู้สื่อข่าวได้ถามว่า
พรรคก้าวไกลแก้ไขเนื้อหา MOU ถูกใจหรือไม่
พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ยิ้มพร้อมตอบว่า ถ้าพูดจริง ๆ ก็ยังไม่ถูกใจ
เมื่อถามย้ำว่า
จะไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ บอกว่า ปัญหาก็มีอยู่ ที่ยังไม่พอใจ
เนื่องจากเห็นว่าหลักการต้องกว้าง ไม่ใช่การเขียนละเอียด
และครั้งนี้เป็นการหารือครั้งสุดท้าย ซึ่งยังไม่รู้จะแก้ไขทันหรือไม่ แต่ยืนยันว่า
ยังเซ็น MOU
เพราะอยากได้รัฐบาลใหม่
ส่วนวันพรุ่งนี้จะมีการชุมนุมหน้าสภาเพื่อเรียกร้องให้
ส.ว. โหวตนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น
พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ไม่ถูกต้อง ต้องปล่อยให้สภาดำเนินการไป
เมื่อถามย้ำว่ากลุ่มผู้ชุมนุมกดดันให้
ส.ว. โหวตนายพิธานั้น พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า จะไปกดดันอะไรเขา
เมื่อถามว่าได้ติดต่อ
ส.ว. ไว้กี่คนแล้ว พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ได้ควักกระดาษรายชื่อมาให้สื่อมวลดู
ก่อนเก็บใส่กระเป๋า ทำให้สื่อมวลชนส่งเสียงร้องขออีกครั้ง เพราะเห็นไม่ชัด
15.25น.นายพิธา
ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางมาถึงห้องประชุมชั้น 2 โรงแรมคอนราด
เพื่อหารือครั้งสุดท้ายก่อนการแถลงข่าว MOU จัดตั้งรัฐบาล
โดยได้ทักทายสื่อมวลชนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่ยังไม่ได้ให้สัมภาษณ์ จากนั้น
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกลเดินทางมาถึง
15.20
น. นายปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม เปิดเผยว่า การนำหลักการมนุษยชนสากลและมนุษยธรรมมาใช้ในการแก้ไขปัญหา
3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งได้ระบุไว้ในการทำ MOU จึงขอขอบคุณพรรคก้าวไกล
และยืนยันว่า พรรคเป็นธรรมไม่ได้ติดขัดอะไรในการเซ็น MOU
ต่อมา
หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ตอบคำถามสื่อมวลชนหลังถามถึงแนวทางการทำงานร่วมกันใน
MOU จะเป็นการผูกมัดพรรคร่วมหรือไม่ว่า สิ่งที่อยู่ใน MOU เป็นสิ่งที่คิดว่าจะทำร่วมกัน ส่วนนโยบายของแต่ละพรรคที่ไม่ได้อยู่
MOU แต่ละพรรคก็มีสิทธิ์ที่จะเสนอ
เมื่อถามว่ามาตรา
112 ไม่อยู่ใน MOU
ทั้งที่สมาชิกวุฒิสภามองว่าเรื่องนี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะโหวตเลือกหัวหน้าพรรคก้าวไกล
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี ถือเป็นอุปสรรคหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์
กล่าวว่า การที่ไม่ได้อยู่ใน MOU แปลว่าไม่ได้มีเงื่อนไขแล้วต้องทำ
ดังนั้นสิ่งที่อยู่ใน MOU คือสิ่งที่ต้องทำ เรื่องมาตรา 112
จะเป็นนโยบายแต่ละพรรคที่จะไปผลักดันในสภา ไม่เกี่ยวกับการร่วมรัฐบาล
ถามย้ำว่าหากพรรคก้าวไกลแก้ไขมาตรา
112 ในสภาจะไม่เป็นเงื่อนไขในการถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์
บอกว่า ไม่เกี่ยวกัน หากเป็นกฎหมายที่พรรคใดพรรคหนึ่งอยากผลักดัน
ก็สามารถที่จะเสนอได้ แต่รัฐสภาจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยนั้น ตนไม่ทราบ
ทั้งนี้จุดของพรรคเราชัดเจนตั้งแต่แรก
และย้ำว่าจุดยืนของเราไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #MOU #รัฐบาลก้าวไกล #จัดตั้งรัฐบาล2566