‘ธนาธร’ หาเสียงวันสุดท้ายสายตะวันออก
ขอแรงประชาชนเฝ้าหน่วยเลือกตั้งปกป้องคะแนนเสียง ย้ำภารกิจเปลี่ยนประเทศไม่จบแค่ 14
พ.ค. ต้องเขียนรัฐธรรมนูญใหม่โดย สสร. ที่ประชาชนเลือก
วันที่
13 พฤษภาคม 2566 ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ร่วมกิจกรรมหาเสียงวันสุดท้ายที่ 3 จังหวัด ประกอบด้วย ระยอง ชลบุรี และสมุทรปราการ
เริ่มด้วยการเปิดเวทีปราศรัยขนาดย่อม 2 จุด ที่ตลาดดิโอโซน
อ.เมืองระยอง และที่ตลาดเจริญชัย อ.นิคมพัฒนา พร้อมผู้สมัคร ส.ส.ระยอง พรรคก้าวไกล
ทั้ง 5 เขต ประกอบด้วย เขต 1 กมนทรรศน์
กิตติสุนทรสกุล (เบอร์ 1), เขต 2 กฤช
ศิลปชัย (เบอร์ 5), เขต 3 นครชัย
ขุนณรงค์ (เบอร์ 8, เขต
4 ชุติพงศ์ พิภพภิญโญ (เบอร์ 2) และเขต
5 สว่างจิตต์ เลาหะโรจนพันธ์ (เบอร์ 3)
จากนั้น
ได้เดินทางเข้าสู่ จ.ชลบุรี เปิดเวทีปราศรัยบนรถแห่สองจุดร่วมกับผู้สมัคร
ส.ส.ชลบุรี ที่ตลาดเพลินการ์เด้น อ.บ่อวิน ร่วมกับผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี เขต 7 สหัสวัต
คุ้มคง (เบอร์ 10) และที่ อ.บางละมุง ร่วมกับผู้สมัคร
ส.ส.ชลบุรี เขต 8 จรัส คุ้มไข่น้ำ (เบอร์ 4), เขต 9 ยอดชาย พึ่งพร (เบอร์ 8และ เขต 10 นิชนันท์
วังคะฮาต (เบอร์ 5)
ส่วนในช่วงบ่ายไปจนถึงเย็นที่
จ.สมุทรปราการ ธนาธรได้ร่วมขบวนแห่หาเสียงไปบนถนนสายหลักทั่วทั้งจังหวัด
พร้อมกับผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ ทั้ง 8 เขต ประกอบด้วย เขต 1 พนิดา มงคลสวัสดิ์ (เบอร์ 3), เขต 2 รัชนก สุขประเสริฐ (เบอร์ 2), เขต 3 พิชัย แจ้งจรรยาวงศ์ (เบอร์ 2), เขต 4 วุฒินันท์ บุญชู (เบอร์ 6), เขต 5 นิตยา มีศรี (เบอร์ 5), เขต 6 วีรภัทร
คันธะ (เบอร์ 8, เขต 7
บุญเลิศ แสงพันธุ์ (เบอร์ 2) และ เขต 8
ตรัยวรรธน์ อิ่มใจ (เบอร์ 4) ก่อนจบกิจกรรมหาเสียงทั้งหมดในเวลา
17.00 น. โดยประมาณ
การปราศรัยของธนาธรวันนี้
ได้เน้นย้ำไปที่การขอแรงจากประชาชนและผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลทุกคน
โดยระบุว่าคงไม่ใช่การกล่าวเกินไป หากจะพูดว่าอนาคตของประเทศไทยจะเป็นอย่างไร
ขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้
การตัดสินใจของทุกคนจะส่งผลต่ออนาคตของลูกหลานและของประเทศไทย
วันนี้พรรคก้าวไกลแสดงให้เห็นถึงความพร้อมที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่อนาคตที่สดใส
จากพรรคอนาคตใหม่มาสู่พรรคก้าวไกล ภารกิจของเราคือการฟื้นฟูประชาธิปไตย
นำความเจริญก้าวหน้ามาสู่สังคมไทย แต่สิ่งต่างๆ
ที่พูดไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ทันทีในวันที่ 14 พฤษภาคม
ต่อให้ชนะในการเลือกตั้งแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าภารกิจสำเร็จแล้ว
เรายังต้องเดินทางอีกไกล
อย่างเช่น
การเอารัฐธรรมนูญฉบับ 2560
ออกไป
เริ่มต้นด้วยการทำประชามติว่าประชาชนต้องการรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่
เมื่อผ่านได้เราก็ต้องไปเลือก สสร. เพื่อมาร่างรัฐธรรมนูญ
เสร็จแล้วก็ต้องทำประชามติว่าประชาชนจะรับร่างรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่
ต้องหย่อนบัตรกันอีก 3 รอบ ถ้าไม่ออกแรงกันอีกทั้ง 3 รอบ รัฐธรรมนูญไม่ถูกแก้ไข ชีวิตของทุกคนก็จะต้องเป็นแบบนี้ต่อไป
ถ้าไม่ออกแรงไปเลือก สสร. กัน
เราก็จะได้ฝ่ายอนุรักษนิยมมาร่างรัฐธรรมนูญที่แย่ออกมาอีก เพราะฉะนั้น
ต่อให้หย่อนบัตรเลือกตั้งแล้ว ภารกิจของเราก็ไม่ได้จบที่ 5 โมงเย็นของวันที่
14 พฤษภาคมแน่ๆ
ธนาธรยังกล่าวต่อไปว่า
นอกจากนั้น หลังปิดหีบในช่วง 17.00 น.
พวกเรายังมีภารกิจที่ต้องช่วยกันไปเฝ้าหน่วยเลือกตั้งต่อ
ไม่ว่าท่านจะเลือกพรรคอะไร
เลือกตั้งรอบนี้ประชาชนไม่อาจประมาทได้และต้องร่วมกันปกป้องคะแนนของเรา
ไม่ให้ความพยายามของหัวคะแนนธรรมชาติทุกคนที่ช่วยกันลงแรงหาคะแนนมา
ต้องกลายเป็นความสูญเปล่า เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไปได้ ใครกาสิบโมงเฝ้าถึงเที่ยง
ใครกาเที่ยงเฝ้าถึงบ่ายโมง ใครกาบ่ายโมงเฝ้าถึงบ่ายสอง
ใครกาตอนเย็นเฝ้าถึงสองทุ่มไปเลย
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ก้าวไกล #เลือกตั้ง66