“เพื่อไทย”
ตัวจริง สู้เผด็จการมาตลอด 20 ปี ผ่านรัฐประหาร-ยุบพรรค ก็ยังยืดหยัดสู้ต่อ
“จาตุรนต์ ฉายแสง” ซัดพรรคใหม่ อวดสู้จริงกว่าใคร ทั้งที่พึ่งเกิด
“ณัฐวุฒิ-จิราพร” ปลุกเลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ปักธงประชาธิปไตยประเทศไทย
วันที่
12 พฤษภาคม 2566 พรรคเพื่อไทย เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ #เลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ประเทศไทยเปลี่ยนทันที #เพื่อไทย29 เพื่อสื่อสารกับพี่น้องประชาชนก่อนที่จะถึงการเลือกตั้งใหญ่ในวันที่ 14 พฤษภาคม
2566 ซึ่งในช่วงที่ 2 เป็นการปราศรัยของนายจาตุรนต์ ฉายแสง
คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย นายดนุพร ปุณณกันต์
ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง กรุงเทพมหานคร นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย นางสาวจิราพร สินธุไพร ผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด
พรรคเพื่อไทยและนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด
รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย
โดย
นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา
คนไทยได้รู้ว่าพรรคไทยรักไทยเป็นพรรคเดียวที่ประกาศนโยบายแล้วทำให้เกิดผลใน 1 ปี
ทำสำเร็จใน 4 ปี ทำให้เศรษฐกิจไทยผงาดขึ้น สามารถใช้หนี้ไอเอ็มเอฟได้ก่อนกำหนด
ใช้นโยบายการคลังแบบสมดุล ไม่มีการผลาญเงินภาษี มีแต่การใช้เงินภาษีของประชาชนอย่างเป็นประโยชน์ที่สุด
ทำให้ความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น แก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ
นี่คือประชาธิปไตยกินได้ เกิดขึ้นจากไทยรักไทยเท่านั้น
พรรคไทยรักไทยเป็นพรรคการเมืองแรกใน 25 ปีที่ยืนขึ้นต่อสู้กับอำนาจเผด็จการ
และไม่ยอมให้เผด็จการกำหนดอนาคตของประเทศ เมื่อไทยรักไทย
รวมตัวใหม่เป็นพลังประชาชน และสู้ต่อเป็นพรรคเพื่อไทย
เกิดการต่อสู้ของประชาชนคนเสื้อแดงที่ต่อสู้ให้ยุบสภา
ให้ประชาชนพิสูจน์ว่าใครจะเป็นรัฐบาล จะมีพรรคการเมืองไหนที่สู้มากที่สุด
ถ้าไม่ใช่พรรคเพื่อไทย
“บางคนบอกว่าเกิดรัฐประหารซ้ำซากเพราะพรรคการเมืองในอดีตไม่ต้านรัฐประหาร
ไม่สู้จริง ถ้าเป็นพวกเรา เกิดรัฐประหารจะไปยืนหน้าสภา ลงถนน
ที่คือพูดถึงเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้น เป็นดราม่าโรแมนติกเท่านั้น
ไม่มีหลักฐานอะไรเลย แต่ถ้านำประาชนมาสู้จริงๆ
เป็นเรื่องถูกต้องหรือไม่ที่พาประชาชนไปต่อสู้กับทหารที่มีกำลังอาวุธ
ชีวิตผมผ่านการรัฐประหารมาไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง
เห็นนักการเมืองต่อต้านด้วยวิธีการต่างๆ
นักการเมืองหลายคนอยู่ไทยรักไทยมาถึงเพื่อไทย ก็นำประชาชนต่อต้านเผด็จการ
ไม่ได้คัดค้านในวันยึดอำนาจ แต่ขัดขวางการสืบทอดอำนาจ ตัวผมเองตอนยึดอำนาจปี 2557
นักการเมืองพรรคเพื่อไทยถูกจับไปคุมตัวที่ค่ายทหาร แต่ผมไม่ได้ไปรายงานตัว
ก็โดนจับขังที่ค่ายทหาร ขึ้นศาลทหาร สู้คดี 6 ปี”นายจาตุรนต์ กล่าว
นายณัฐวุฒิ
ใสยเกื้อ กล่าวว่านับจากนาทีนี้ ชัยชนะรออยู่ไม่ไกล
เหมือนผลไม้บนต้นที่สุกงอมเต็มที่ รอแค่เอื้อมสอย เราต้องสอยและไปให้ถึง
แล้วดึงลงมาด้วยการแลนด์สไลด์
และพรรคการเมืองที่จะทำได้คือพรรคเพื่อไทยเพราะเราเข้าถึงใกล้ที่สุด
แต่ถ้าเราไม่ดึงลงมา ผลไม้จะสุกงอมคาต้นกลายเป็นผลไม้เน่าลงบนหัวประชาชน
ถ้าเราต้องการเปลี่ยนแปลง เราจะทำไม่ได้ถ้าไม่เริ่มต้นนับ 1 ด้วยการเปลี่ยนรัฐบาล
และจะเปลี่ยนรัฐบาลได้ พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย ต้องได้รับชัยชนะให้เด็ดขาด
ถามใจคนทั้งประเทศเห็นตรงกันว่าพรรคเพื่อไทย คือพรรคที่เราใกล้เป้าหมายมากที่สุด
“ไม่ว่าจะคิดเรื่องประชาธิปไตยอย่างไร
ไม่ว่าจะใจผูกสมัครพรรคไหน แต่ขอให้มองเป้าหมายเป็นตัวตั้ง ถ้าเป้าหมายคือล้มเผด็จการ
ปักธงประชาธิปไตย เราต้องมารบด้วยกันในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ไม่มิเช่นนั้น
พลเอกประยุทธ์ไม่ต้องรอลุ้นอะไรนอกจากรอแทรกขึ้นมาตรงกลางในระหว่างพรรคประชาธิปไตย
วันนี้ ไม่ใช่เรื่องโง่ ฉลาด กล้าไม่กล้า แต่อยู่ที่ว่ามองปัญหาอย่างไร
จัดการปัญหาอย่างไร พรรคเพื่อไทย เจ็บมามาก บอบช้ำมามาก
จึงมองว่าการจัดการปัญหาเผด็จการแบบนี้ ต้องเดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ
และคำแรกที่จะอิ่มด้วยกันคือคำว่าแลนด์สไลด์ และขอให้เลือกให้เด็ดขาด
ไม่ใช่เลือกด้วยความกลัว แต่เลือกด้วยความชัวร์ เช็คบิลเผด็จการ เพื่อไทย 2 ใบ
แลนด์สไลด์ไปพร้อมกัน” ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทยกล่าว
นายดนุพร
กล่าวว่า การเดินทางของพรรคเพื่อไทย ที่เริ่มต้นจากพรรคไทยรักไทย ต่อเนื่องมากว่า
20 ปี เราเป็นพรรคที่เอานโยบายนำการเมือง
เราทำความเชื่อของพี่น้องประชาชนเกิดขึ้นว่า เราสามารถนำนโยบายที่หาเสียง
มาปฏิบัติได้จริง เราสามารถทำให้พี่น้องเชื่อได้ว่า ประชาธิปไตยของประเทศนี้
เป็นประชาธิปไตยที่กินได้ แม้หนทาง 20 กว่าปี จะเจอทั้ง รัฐประหารในปี 2549, 2557
และผ่านการถูกยุบพรรคไปอีก 2 ครั้ง เรายังลุกมา
และยืนยันสิทธิของเราในคูหาเลือกตั้ง ทำให้คนปฏิวัติรู้ว่าพวกเขาเสียของ เพราะเพื่อไทยกลับมาได้ด้วยความไว้วางใจของประชาชน
พวกเราคิดใหญ่และทำเป็น
เราพร้อมจับมือพี่น้องที่อยู่ในอุโมงค์อันมืดมิด
จับมือกันเพื่อพาไปสุ่แสงสว่างอันสดใส แสงสว่างแห่งประชาธิปไตย
ที่เราไฝ่ฝันกันมาตลอด 9 ปี
นางสาวจิราพร กล่าวว่า
ความสำคัญของการเลือกตั้งแบบมียุทธศาสตร์ให้พรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์
จากการเลือกตั้งปี 2562 ที่แม้พรรคเพื่อไทยจะมี ส.ส. มากที่สุด แต่
ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะอำนาจ ส.ว.
การเลือกตั้งในวันอาทิตย์นี้จึงต้องเลือกให้พรรคเพื่อไทยชนะขาดแบบแลนด์สไลด์เท่านั้น
พรรคเพื่อไทยสู้กับระบอบเผด็จการจนยุบพรรคถึง 2 ครั้ง
ถ้าสู้ไม่จริงคงไม่มีพรรคเพื่อไทยในปัจจุบัน
คงไม่สู้เคียงข้างประชาชนมาเป็นระยะเวลาเกือบ 20 ปี
“เราเลือกเกิดไม่ได้
แต่เราเลือกตั้งได้ เราเลือกรัฐบาลที่จะมากำหนดทิศทางชีวิตของเราได้
เราจะเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้นได้เราต้องเปลี่ยนรัฐบาล
ผ่านการเลือกตั้งครั้งนี้เท่านั้น ดังนั้น 14 พฤษภาคมนี้ เข้าคูหากาเพื่อไทย
เพื่อปักธงประชาธิปไตยไปทั้งประเทศ” ผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย กล่าว
นายอนุสรณ์
เอี่ยมสะอาด กล่าวว่าสถานการณ์ประเทศไทยวันนี้เหมือนคนป่วย
เราอยู่บนทางแยกที่รัฐบาลปล่อยให้คนไทยโง่ จน และเจ็บมาตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา
และเวลานี้มีหมอรักษาประเทศไทยอยู่ 4 แบบ คือ หมอคน 1 เป็นหมอที่รักษาเรามา 8-9 ปี
ให้แต่ยาพารากับยาเขียว รักษาแล้ว รักษาอยู่และรักษาต่อ หมอคน 2 เป็นหมอก้าวข้ามความขัดแย้ง แต่เราอยากบอกว่า
หมอควรไปก้าวข้ามบันไดให้ได้ก่อน หมอคน
3 เป็นหมอหนุ่มใหม่ไฟแรงโอปป้า
คนไข้คนป่วยกำลังจะตาย แทนที่จะรักษาอาการ
กลับเสนอปรับโครงสร้างด้วยการรื้อโรงพยาบาล
รักษาเอาไว้แต่ต้องรื้อโครงสร้างก่อน หมอคน 4 เป็นหมอมากฝีมือ
รักษาฉกาจรักษาอาการหนักเป็นเบา ทุเลาเป็นหาย เราเห็นฝีมือมา 20 ปี ดีตลอด
หมอคนนั้นคือหมอเพื่อไทย
“สถานการณ์นาทีนี้เหมือนเรารบอยู่หน้าค่ายหมายตีเมือง
พี่น้องต้องมุ่งมั่น อย่าลังเลสงสัย ตั้งใจให้มั่น
ทุบหม้อข้าวเข้าไปตีเมืองด้วยกัน วันที่ 14 พฤษภาคมนี้ อยากได้เพื่อไทยเป็นรัฐบาล เลือก เพื่อไทย ทั้ง
2 ใบไม่ลังเล ให้เพื่อไทยไปเป็นรัฐบาล” นายอนุสรณ์ กล่าว
#UDdnews #ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย #เลือกตั้ง66