วันพุธที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

เพื่อไทยชวนชาวเชียงใหม่ลาออกจากความจน ‘แพทองธาร’ เชียงใหม่คือหมุดหมายเมืองท่องเที่ยวโลก รัฐบาลเพื่อไทยพร้อมดันต่อ ‘เศรษฐา’ แชร์ประสบการณ์รัฐประหาร แม่ถูกควบคุมตัว หวนคิดถึงสมัยรัฐบาลไทยรักไทย เศรษฐกิจพุ่ง แรง ปัง ยก ‘แพทองธาร’ หญิงแกร่ง

 


เพื่อไทยชวนชาวเชียงใหม่ลาออกจากความจน ‘แพทองธาร’ เชียงใหม่คือหมุดหมายเมืองท่องเที่ยวโลก รัฐบาลเพื่อไทยพร้อมดันต่อ  ‘เศรษฐา’ แชร์ประสบการณ์รัฐประหาร แม่ถูกควบคุมตัว หวนคิดถึงสมัยรัฐบาลไทยรักไทย เศรษฐกิจพุ่ง แรง ปัง ยก ‘แพทองธาร’ หญิงแกร่ง


วันที่ 10 พฤษภาคม 2566 เมื่อเวลา 17.30 น. พรรคเพื่อไทย เปิดเวทีปราศรัย  ‘เลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ เชียงใหม่เปลี่ยนทันที’ ณ ประตูท่าแพ อําเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีประชาชนเข้าร่วมฟังการปราศรัยกว่า 2,000  คน


นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย อู้กำเมืองทักทายพี่น้องประชาชนชาวเชียงใหม่ที่มารอฟังปราศรัยของพรรคเพื่อไทยอย่างหนาแน่น พร้อมบอกตลอดระยะเวลาตั้งแต่สมัยรัฐบาลไทยรักไทยจนถึงเพื่อไทย เราเล็งเห็นศักยภายในด้านภูมิประเทศและภูมิอากาศของจังหวัดเชียงใหม่เสมอมา


พรรคเพื่อไทยมองเห็นอนาคตของจังหวัดเชียงใหม่ที่จะพัฒนาเป็นหมุดหมายการท่องเที่ยวของโลกอย่างมีประสิทธิภาพ แม้ในช่วงระยะเวลาเกือบ 10 ปีที่ผ่านมาต้องเจอกับการหยุดแช่แข็งกิจการจาการทำรัฐประหาร แต่เลือกตั้งครั้งนี้พี่น้องชาวเชียงใหม่ต้องช่วยพรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์ไล่อำนาจทหารออกไปให้ได้


พรรคเพื่อไทยมีนโยบายมากมายทั้งการพัฒนาเขตเศรษฐกิจใหม่ หรือปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่ ส.ส. จักรพล ได้นำเสนอ พ.ร.บ.อากาศสะอาด ตั้งแต่เป็นฝ่ายค้าน เพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวเชียงใหม่ และหากเรื่องตั้งครั้งนี้พรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาล แน่นอนสิ่งดี ๆ นโยบายดี ๆ ที่พี่น้องชาวเชียงใหม่จะได้รับต้องมีมากกว่านี้แน่นอน


นางสาวแพทองธาร ทิ้งท้ายไว้ว่า เหลือเวลาอีกเพียง 4 วันก่อนวันเลือกตั้ง ขอพี่น้องประชาชนอย่าเพิ่งปันใจให้ใคร เลือกเพื่อไทย 2 ใบให้แลนด์สไลด์ ใบสีเขียวเบอร์พรรคกา 29 และใบสีม่วงเบอร์เขต ส.ส. จากพรรคเพื่อไทย


นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวแสดงความพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา เหตุการณ์บ้านเมือง เศรษฐกิจ สิทธิเสรีภาพ เลวร้ายลง เป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้ตนเดินเข้าสู่เส้นทางทางการเมือง จากนี้ 4 ปี หากนายกรัฐมนตรีมาจากพรรคเพื่อไทย เราได้รับฉันทามติแลนด์สไลด์ เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล คะแนนเสียงส่วนมาก ได้คุมกระทรวงหลัก ความยากจนต้องหมดไป สิทธิเสรีภาพของพี่น้องประชาชนต้องถูกคืน


ในการประชุม ครม.ครั้งแรก ลดค่าไฟทันที ตั้ง สสร.ร่วมกันเขียนรัฐธรรมนูญ ให้ประชาชนเลือกมาเลย การเลือกเพศสภาพ สมรสเท่าเทียมต้องเกิดขึ้น สิทธิเสรีภาพในการเลือกประกอบอาชีพต้องเกิดขึ้น ไม่จำเป็นต้องเป็นทหาร ไม่ต้องกลัวว่าถ้าไม่อยากเป็นทหารแล้วจะถูกผู้ใหญ่ในบ้านเมืองมาตราหน้าว่าชังชาติ ถ้าชังบางคนไม่เห็นไร อาชีพทหารไม่ได้เป็นเจ้าของคำว่ารักชาติ


ทั้งนี้ ดัชนีด้านเศรษฐกิจในปัจจุบันทุกตัวล่อแหลมมาก ทั้งหนี้ครัวเรือน หนี้สาธารณะ ความสามารถในการจัดเก็บภาษี แม้ตนมีประสบการณ์ในแวดวงธุรกิจมากว่า 30 ปี เป็นผู้นำทางด้านภาคอุตสาหกรรมที่ทำอยู่  มีความตั้งใจจริงที่จะเข้ามาช่วยเหลือพี่น้อง ตนไม่ได้มาคนเดียว  มาพร้อมกับพรรคเพื่อไทย สถาบันการเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 20 ปี ชนะการเลือกตั้งมาตลอด


นายเศรษฐา  กล่าวว่า ที่ผ่านมาจนเป็น CEO หรือผู้บริหารสูงสุดขององค์กร คนเข้าใจผิดมาตลอดว่ามีอำนาจเบ็ดเสร็จ แต่ตนจะทำอะไรต้องมีขั้นตอน ต้องเป็นทีมเวิร์ค  หากก้าวขึ้นสู่เวทีการเมือง เป็นนายกรัฐมนตรี มีหลายภาคส่วน แน่นอนพี่น้องประชาชนสำคัญที่สุดผ่านกระบวนการรัฐสภา ผ่าน ส.ส. 500 คน นับเป็นประชาชน  ไม่รวมอีกอีก 250 คน ตนยืนยันต้องยึดโยงกับประชาชนเป็นหลัก ข้าราชการเป็นภาคส่วนที่สำคัญด้วย 


ผมมีความหวัง มีแรงบันดาลใจว่าถ้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี ผมจะมีความสามารถในการพูดคุยกับข้าราชการ ผ่านนโยบายดี ๆ ของพรรคเพื่อไทย ข้าราชการเป็นส่วนหนึ่งที่อยากเห็นประเทศชาติเดินไปข้างหน้าได้ เพียงแต่เขาขาดผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ ที่มีความสามารถ ที่มีจิตใจยึดโยงกับพี่น้องประชาชน


ทั้งนี้ ตนเป็นนักธุรกิจ 30 ปี มีหน้าที่การงานที่ดีแล้ว ถ้ารักสบาย คงไม่ก้าวข้ามเส้นมาเป็นนักการเมือง ถ้าก้าวเข้ามาแล้วไม่มีคำว่ากลัว เพราะเข้ามาอยู่ในพรรคเพื่อไทยที่ยึดโยงพี่น้องประชาชนเป็นหลัก มีนโยบายดีๆ ที่ยึดหลักนิติธรรม  ไม่นอกเส้น แต่ถ้ามีคนใส่ชุดทหารเอาปืนมาจี้ก็ไม่กลัว และเรียนว่าไม่ใช่ไม่เคย สมัยรัฐประหารปี 57 เป็นนักธุรกิจคนแรกๆ ที่เชิญไปในกรมทหาร มีทหารถือเอ็ม 16 อยู่ข้างหลัง ต้องไปรายงานตัว ถูกขู่ต่าง ๆ นานา เวลาบินออกนอกประเทศต้องไปขออนุญาต แล้วก็กลั่นแกล้ง กว่าจะอนุญาต เครื่องบินจะเทคออฟแล้วถึงอนุญาตให้ไป เขาเอารถแฮมเมอร์มีทหารใส่ยูนิฟอร์มไปจอดอยู่หน้าบ้าน กลุ่มคนเหล่านี้มาขู่เข็ญคุณแม่ผมซึ่งอายุ 80 กว่า ไม่เกี่ยวข้องอะไรเลย ถ้ามาขู่ผม ผมไม่ว่า แต่เขารู้อยู่เต็มอกว่าผมไม่อยู่ นี่คือประเด็นที่ทำให้ผมเดินหน้าเข้าสู่การเมือง” นายเศรษฐา กล่าว


ทั้งนี้ ตนเชื่อว่านางสาวแพทองธารไม่กลัวเหมือนกับตน เพราะเจอมาเยอะกว่า เจอตามสถานที่ เจอการโห่ไล่ เป็นหญิงแกร่ง มั่นใจว่าเราจิตใจเดียวกัน ส่วนการเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 3 คนของพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า ทั้งสามคน มีความรัก มีความเข้าใจกัน ทำงานเป็นทีมเพื่อไทยด้วยกัน ส่วนบางพรรคโดนร้องเรียนเรื่องถือหุ้น ตนไม่อยากให้ความเห็น


สำหรับที่ถูกถามถึงการจับมือกับพรรคการเมืองต่าง ๆ เช่น พลังประชารัฐ ไปจนถึงรวมไทยสร้างชาติ นายเศรษฐาตอบว่า ตัวเองเป็นนักการเมืองหน้าใหม่ พยายามให้เกียรติทุกพรรคการเมือง คู่แข่งของตนไม่ใช่พรรคการเมือง แต่เป็นความยากจน ความไม่เสมอภาค ความไม่เท่าเทียม ตนมีหัวใจประชาธิปไตย ยึดโยงกับพี่น้องประชาชน ตนไม่สามารถจินตนาการได้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์การรัฐประหารได้อย่างไร จากนั้น นายเศรษฐา กล่าวปราศรัยต่อพี่น้องประชาชน โดยชวนให้ลองหมุนเวลากลับไปปีที่พรรคไทยรักไทยชนะถล่มทลาย 377 เสียงจาก 500 เสียง นายกรัฐมนตรีชื่อ ดร.ทักษิณ ชินวัตร ลูกหลานของเมืองเชียงใหม่ คนเชียงใหม่มีความหวังและแรงบันดาลใจ สามารถบริหารจัดการคณะรัฐมนตรีได้ มีวิสัยทัศน์ เดินทางไปทั่วโลก เปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานของการกระจายความเจริญ เป็นช่วงเวลาที่เรายังหวนหา เป็นเวลาที่เราอยากให้กลับมาอีก


กับ 8 ปีที่ผ่านมา แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นรายจ่ายเพิ่ม รายได้ลด สิทธิเสรีภาพในการเลือกเพศสภาพ ไม่จำเป็นต้องชายแต่งงานกับหญิง หรือหญิงแต่งงานกับชาย จะเป็นเพศใดก็ตาม เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องให้สิทธินั้นแก่ทุกๆ คน ไม่ได้ขอหน้าที่ที่มากกว่าชายแต่งงานกับหญิง หรือหญิงแต่งงานกับชาย แต่ขอสิทธิเสรีภาพที่เท่าเทียมกัน อยู่ในกรอบกฎหมายเดียวกัน อยู่ได้ในสังคมอย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ไม่เข้าใจว่าทำไมรัฐบาลนี้ถึงให้ไม่ได้ สิทธิเสรีภาพในการเลือกประกอบอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสมัครใจเกณฑ์ทหารก็ตามที เป็นเรื่องที่กินใจเป็นอย่างมาก 8 ปีที่ผ่านมา เชื่อว่าพอแล้ว


วันที่ 14 พฤษภาคม การเลือกตั้งครั้งสำคัญ เราต้องเลือกตั้งอย่างมียุทธศาสตร์ ที่พูดมาถึงความเหลวแหลกในการบริหารจัดการแผ่นดินนี้ไม่ได้สร้างความกลัว ไม่ได้บอกว่ากลัวพลเอกประยุทธ์กลับมา แต่อยากจะสร้างความหวังว่าถ้าไม่มีพลเอกประยุทธ์ เอาความชัวร์ๆ เลยว่าวันที่ 14 พฤษภาคม นี้ ถ้ากาเพื่อไทยทั้งสองใบให้แลนด์สไลด์ ให้ได้คะแนนเสียงส่วนมาก เพื่อเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล นโยบายดี ๆ ต่าง ๆ ที่ได้บอกไปจะถูกทำให้เป็นไปได้ ทำให้คนไทยมีความสุข เป็นการเลือกตั้งอย่างมียุทธศาสตร์ ประเทศไทยกำลังอยู่ในโคม่า ไม่มีเวลาสำหรับมือใหม่ ทีมงานที่เคยอยู่กับ ดร.ทักษิณ ก็ยังอยู่ในที่นี้ การที่เราต้องการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ดูแลกระทรวงสำคัญหลาย ๆ กระทรวง เพราะต้องการผลักดันนโยบายให้เป็นไปได้


มีเรื่องเล็ก ๆ ที่อยากเล่าให้ฟัง เรื่องแรกที่เล่าแล้วจะสามารถโยงได้หลาย ๆ กระทรวง เมืองน่าน เป็นจังหวัดบ้านพี่เมืองน้องกับเชียงใหม่ เป็นเมืองที่ได้รับฉายาว่าเป็นเมืองคู่แฝดกับหลวงพระบาง หลวงพระบางได้รับการยอมรับจากยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลก ทำให้มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก เมืองน่านมีทุกอย่างที่หลวงพระบางมี ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล จะผลักดันให้เมืองน่านเป็นมรดกโลก การจะเป็นเมืองมรดกโลกได้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมต้องเห็นด้วย ทุกคนพูดถึงกระทรวงใหญ่ๆ อย่างคมนาคม พาณิชย์ เกษตร อุตสาหกรรม แต่หน้าที่ความรับผิดชอบของกระทรวงที่จะทำให้เมืองน่านเป็นมรดกโลกคือกระทรวงวัฒนธรรม ถ้าทำได้ เมืองน่านต้องมีสนามบินอินเตอร์ที่บินได้ระหว่างลาวกับไทย แต่ปัจจุบันสนามบินน่านยังไม่ใช่สนามบินอินเตอร์ ก็ต้องพึ่งกระทรวงคมนาคมด้วย ถ้าได้เป็นมรดกโลก มีสนามบินอินเตอร์ ก็ต้องพึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่จะผลักดันให้คนมาท่องเที่ยวจังหวัดน่านมากขึ้น เหล่านี้เป็นต้น การที่เราต้องการคะแนนเสียง ต้องการให้พี่น้องยกเชียงใหม่ทั้งจังหวัดให้กับพรรคเพื่อไทย เพื่อให้ได้ 300 คะแนนเสียงบวก ๆ โดยไม่ต้องพึ่ง ส.ว. 250 เสียง อย่างไรก็ตาม มีความหวังว่าจิตวิญญาณของ ส.ว. 250 คน ของการเขียนรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ถึงไม่เห็นด้วยกับที่มาของ ส.ว. แต่มีความเชื่อว่าจิตวิญญาณของ ส.ว. 250 คนจะยึดโยงกับพี่น้องประชาชน ถ้าเกิดว่าเราได้ 300 เสียง เกินครึ่งหนึ่ง ส.ว.ควรต้องโหวตให้กับพรรคเพื่อไทย


เราไม่อยากเป็นนายกรัฐมนตรีที่มาเกี้ยเซียะ มาแบ่งปันมาต่อรองผลประโยชน์กับพรรคร่วมรัฐบาลหลาย ๆ พรรค สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าเราได้คะแนนเสียงมาก ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลต้องเกรงใจเรา ทำให้เราผลักดันนโยบายดี ๆ ออกไปสู่พี่น้องประชาชนได้ นายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยครั้งยิ่งใหญ่ ทำให้พี่น้องอยู่ดีกินดี มีความเสมอภาค มีความเท่าเทียม ส่งต่ออนาคตที่ดีกว่าให้กับลูกหลานของเราทุกคน” นายเศรษฐา กล่าว


นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์  ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยจะกลับมานำเอานโยบายพลิกฟื้นชีวิตให้พี่น้องประชาชนสามารถยืนบนลำแข้งด้วยตัวเองได้อีกครั้งหนึ่ง เพราะปัจจุบันนี้ประชาชนเต็มไปด้วยหนี้สิน พี่น้องที่หาเช้ากินค่ำเดือดร้อนมานาน  เพราะค่าแรงโดนแช่แข็งมานาน แทบจะไม่ปรับขึ้นในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ มา 8 ปี ค่าแรงเพิ่มขึ้นเพียง 40 บาท แต่ค่าครองชีพค่าน้ำ ค่าไฟ ปรับขึ้นจนพี่น้องประชาชนเดือดร้อน ดังนั้นเราจึงต้องกระจายความมั่ง ด้วยนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท กระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เศรษฐกิจไทยเหมือนคนป่วย ต้องฉีดยาและกระตุ้นหัวใจให้ลุกขึ้น และพรรคเพื่อไทยจะจับมือท่านเพื่อเดินและวิ่งไปด้วยกัน


ทั้งนี้ ตนจินตนาการนึกถึงวันที่นายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย เดินมาหน้าเวทีเปิดงานเอานิ้วจิ้มลงไปที่ปุ่มโอนเงินให้ทุกคน 10,000 บาท เช้าวันรุ่งขึ้นทุกคนได้ออกจากบ้านทุกคนเพราะทุกคนมีเงินในกระเป๋า ในครอบครัวจะกลายเป็นเงินแสน และจะกลายเป็นเงินล้าน เป็นการสร้างโอกาสให้กับพี่น้องประชาชนขอให้พี่น้องเตรียมพร้อมกับโอกาสที่จะเข้ามา ดังนั้น วันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ขอเชิญทุกท่านประกาศให้ทุกคนได้รู้ "เชียงใหม่คือบ้านของพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทยคือเชียงใหม่" ด้วยการกาให้พรรคเพื่อไทยทั้ง 2 บัตร 2 ใบ


นางสาวทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตั้งแต่พลเอกประยุทธ์ทำการรัฐประหาร ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของพี่น้องประชาชนทุกด้าน ทั้งอากาศสะอาดบริสุทธิ์ เศรษฐกิจวิบัติ ใช้มาตรา 44 ปิดกั้นการแสดงความคิดเห็น เขาเอากฎหมายปิดปากพี่น้อง ทั้งเยาวชน ทั้งผู้เห็นต่างทั้งหมด โดยเฉพาะประเด็นของรัฐธรรมนูญปี 2560 รวมถึงตนด้วย ก่อนจะมาเป็นรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่เปิดโอกาสให้พี่น้องได้ลงประชามติ แต่วันนั้นคือประชามติอัปยศ ตนมีเพียงร่างจดหมายเกี่ยวกับที่วิจารณ์เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญปี 2560 เรื่องที่มาของ ส.ว. 250 คน ที่เขาเลือกกันมาเอง เป็นการเอาเปรียบพี่น้องประชาชน มีการดำเนินคดีกับตน เอาทหารตำรวจ 40-50 คน ไปจับน้องสาวตนที่เป็นทันตแพทย์ ซึ่งไม่ได้ทำอะไรผิด อยู่ในค่ายทหาร 7 วัน วันแรกปิดตามัดมือให้อยู่ในรถ อยู่บ้านเก่า ๆ โยนแล้วธรรมนูญปี 2560 ให้อ่าน และเขียนข้อดีส่งพรุ่งนี้ ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่มีข้อดีแม้แต่ข้อเดียว จึงถูกดำเนินคดีที่ศาลทหาร เผด็จการแจ้งข้อหาอั้งยี่ ซ่องโจร ก่อความวุ่นวายในราชอาณาจักร ตนสู้คดีมากว่า 5 ปี กว่าจะพ้นข้อหา ทั้งหมดถือเป็นเผด็จการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนแรง


หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล จะมีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ที่มาจากพี่น้องประชาชน เราจะให้มีการเลือกตั้ง สสร.ซึ่งมีที่มาจากประชาชน รวมทั้งปฏิรูปกองทัพเป็นอันดับแรก  การเกณฑ์ทหาร ต้องเป็นไปด้วยความด้วยความสมัครใจ ไม่เอาแล้วทหารเกณฑ์ต้องไปรับใช้นายพล


การเลือกตั้งครั้งที่จะมาถึงนี้ มีทางเดียวที่พี่น้องจะหลุดพ้นจาก 3 ลุงนั้น พรรคเพื่อไทยยืนยันลุงไหนเราก็ไม่เอา ป.ไหนเราก็ไม่เอา เราจะไม่รวมกับพรรคที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำรัฐประหาร ยืนยันว่า 2 ลุง 3 ป. เราก็ไม่เอา เราแก้ไขเศรษฐกิจไปพร้อมกับโครงสร้าง ปากท้อง โครงสร้างทางการเมือง เราจะเดินเป็นคู่ขนานกันและยืนยันอีกครั้ง เพื่อไทยไม่รวมกับ 3 ลุง จะตอนไหนเราก็ไม่รวม” นางสาวทัศนีย์กล่าว


นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 22 ปี ในการต่อสู้ทางประชาธิปไตย พรรคเพื่อไทยไม่เคยทรยศความรู้สึกของประชาชนแม้แต่ครั้งเดียว เราจับมือต่อสู้ไปกับประชาชน และประชาชนไม่เคยทิ้งเรา  เพราะในอดีตเรามีนโยบายมากมาย ทั้งโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน หมู่บ้านละ 1 ล้านบาท OTOP และมีนโยบายเพื่อคนเชียงใหม่ เช่น การจัดงานพืนสวนโลก ไนท์ซาฟารี ศูนย์ประชุมนานาชาติจังหวัดเชียงใหม่ ถนน R3A R3B


ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยพร้อมผลักดันให้เชียงใหม่ให้ดีกว่า ด้วยเชียงใหม่มหานคร ผลักดัน Digital Nomad Paradise, City of wellness, Creative city และ Manmade Landmark ผลักดันสนามบินนานาชาติแห่งที่ 2 นอกจากนี้เรายังมี ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ทั้งหมดนี้จะทำให้เชียงใหม่กลับมาเป็น Hero ของการท่องเที่ยวอีกครั้ง เราจะแก้ไขที่โครงสร้างด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน พร้อมผลักดัน พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมเพื่อคนเท่ากัน ผลักกัน พ.ร.บ. อากาศสะอาด ฉบับประเทศไทย เพื่อคืนอากาศที่บริสุทธิ์แก่คนไทยอีกครั้ง


“14 พฤษภาคมนี้ ขอเชิญชวนคนเชียงใหม่ ลาออกจากความยากจน ไปลาออกจากความสิ้นหวัง ไปลาออกจากรัฐบาลที่ไร้ประสิทธิภาพ เลือกจักรพลเบอร์ 1 ไปรับใช้ เลือกเพื่อไทยไปเป็นรัฐบาล เลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ จังหวัดเชียงใหม่เปลี่ยนแปลงได้ทันที” นายจักรพล กล่าว


นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า การเลือกตั้งคราวนี้อาจเป็นโอกาสสุดท้ายของฝ่ายประชาชน ถ้าหยุดพลเอกประยุทธ์ได้ บ้านเมืองจะไปต่อ ถ้าหยุดพลเอกประยุทธ์ไม่ได้ ประเทศไทยไม่มีทางเดินเร็วกว่าพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ดังนั้น การตัดสินใจของพี่น้องจึงสำคัญ รักชอบใครเข้าใจได้ แต่สำคัญคือเป้าหมาย เป้าหมายคือตั้งรัฐบาลประชาธิปไตย และถ้าจะบรรลุผลได้ ฝ่ายพรรคประชาธิปไตยต้องชนะให้ขาด และถ้าจะชนะขาด ภาษามวยเรียกว่า ต้องชนะน็อคเท่านั้น จะหวังชนะคะแนนไม่ได้ เพราะครั้งนี้คือการเลือกตั้งที่ไม่น่าไว้วางใจที่สุด ไว้ใจ ส.ว. ไม่ได้ กกต.ไว้ใจไม่ได้  ดังนั้น ต้องน็อคเท่านั้น ชาวเชียงใหม่ต้องตื่น ตื่นขึ้นมากาเพื่อไทยทั้ง 2 ใบน็อคประยุทธ์ไปด้วยกัน และพรรคเพื่อไทยที่เป็นรัฐบาลจะเริ่มต้นทำงานทันทีโดยไม่ต้องมีไหว้ครู


ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยไม่กล้าประกาศว่าตนเองนั้นสู้มากกว่าใคร แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือสู้มานาน สู้ตลอดมาและจะสู้ตลอดไป เพราะพรรคเพื่อไทยผ่านการถูกรัฐประหารมา 2 ครั้ง ผ่านการถูกยุบพรรค ส.ส.พรรคเพื่อไทยถูกจับไปขังคุก เพราะเราสู้นี่คือเรื่องจริง ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เราจะยืนยัดหลักการประชาธิปไตยในหัวใจเราอย่างมั่นคง


นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า แม้วันนี้ผมจะใส่เสื้อแดงพรรคเพื่อไทยมาที่นี่ แต่ผมเชื่อมั่นว่าผมกับพี่น้องหลายคนในที่นี่ เคยมีเสื้อสีแดงอีกตัวหนึ่ง เราเคยใส่เสื้อสีแดงตัวนั้นออกมาต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยด้วยกัน แม้เสื้อตัวนั้นเรายังเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้า แต่ผมมั่นใจว่า เสื้อแดงตัวนั้นจะห่อหุ้มหัวใจของท่านไปพร้อมกับคนในพรรคเพื่อไทยที่เคยใส่เสื้อตัวเดียวกับท่าน หนีกระสุนปืนมากับท่าน ผ่านร้อนหนาวผ่านการดูถูกหเยียดหยามไล่ยิงจับขังจับฆ่ามาด้วยกันในวันนั้น กลับไปบ้านคืนนี้ หยิบเสื้อตัวนั้นมากอดเพื่อบอกกับหัวใจเราว่า เราจะทำศึกใหญ่เพื่อประชาธิปไตยอีกครั้ง


เราจะทำศึกใหญ่ไล่ประยุทธ์ เราจะเดินหน้าด้วยเกียรติยศศักดิ์ศรีของประชาชนที่เผด็จการเคยเหยียบย่ำ ถึงเวลาเอาคืน และการเอาคืนดีที่สุดคือชนะน็อค เอาชนะให้เด็ดขาด ไม่มีวิธีใดเอาชนะเผด็จการได้นอกจากเลือกรัฐบาลประชาธิปไตย เลือกเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ แล้วแลนด์สไลด์ไปด้วยกัน” นายณัฐวุฒิ กล่าว


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย #เลือกตั้ง66