อมรัตน์ปราศรัยใหญ่อำลาบทบาทผู้แทนราษฎร
ลั่นขอใช้เวลาต่อจากนี้ทำหน้าที่กรรมการบริหารพรรค
ตรวจสอบพิธาให้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน
วันที่
12 พฤษภาคม 2566 ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 ในการปราศรัยใหญ่ของพรรคก้าวไกล อมรัตน์ โชคปมิตรกุล อดีต ส.ส.พรรคก้าวไกล
และกรรมการบริหารพรรคได้ขึ้นปราศรัยใหญ่
โดยถือเป็นการปราศรัยใหญ่เพื่ออำลาการทำหน้าที่ ส.ส.
หลังจากที่อมรัตน์ตัดสินใจไม่ลง ส.ส. ในสมัยต่อไป
อมรัตน์เริ่มต้นด้วยการกล่าวว่า
เมื่อ 4 ปีที่แล้ว พรรคอนาคตใหม่คือพรรคที่กล้าฝันถึงความเปลี่ยนแปลง เมื่อ 4
ปี ผ่านไป เราทำให้ความหวังและความฝันจับต้องได้ด้วยผลงาน 4 ปีในสภา 4 ปีแห่งความเติบโตอย่างก้าวกระโดดของพรรคก้าวไกล
ไม่ได้เกิดเพราะว่าโชคช่วย
แต่การเติบโตอย่างก้าวกระโดดเป็นที่ยอมรับของพรรคก้าวไกล
เกิดจากความทุ่มเททำงานอย่างหนัก ใช้เวลาทุกนาทีในสภายืนอยู่ข้างประชาชน เสนอกฎหมายที่ก้าวหน้า
และออกมายืนเคียงข้าง
ประชาชนและเยาวชนบนท้องถนนที่พวกเขามาเรียกร้องสิทธิเสรีภาพในระบอบประชาธิปไตย
“นับตั้งแต่การปฏิวัติรัฐประหารในปี 2549 และปี 2557
นับถึงวันนี้ 17 ปีแล้ว ไม่มีเวลาไหนใน 17
ปี ที่จะเข้าใกล้ชัยชนะเท่ากับครั้งนี้ ใน 60 ชั่วโมงข้างหน้า
การต่อสู้ของนักต่อสู้รุ่นที่ผ่านมา ตกทอดมรดกการต่อสู้ทั้งหมดไม่ได้สูญหายไป
แต่ทั้งหมดขบวนการต่อสู้ที่ผ่านมาคือการสะสมชัยชนะ
เพื่อส่งต่อให้คนรุ่นเราทำให้สำเร็จในรุ่นของเรา” อมรัตน์กล่าว
อมรัตน์กล่าวอีกว่า
ตนรู้สึกตื่นเต้นและเป็นเกียรติยศที่ได้มีโอกาสเข้ามาเป็นผู้แทนราษฎรของพรรคก้าวไกล
ตนในให้คำมั่นสัญญากับทุกคนในที่นี้ ว่านอกจากจะใช้เวลาทุกวันในการทำงานทางความคิด
บทบาทอีกอย่างหนึ่งคือการเป็นตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล
อมรัตน์สัญญาว่าจะใช้บทบาทของกรรมการบริหารพรรค ทำหน้าที่ตรวจสอบพิธา ชัยธวัช และพรรคก้าวไกลให้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน
อมรัตน์กล่าวว่า
ตนในฐานะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ที่จะกำหนดทิศทางนโยบายของพรรคก้าวไกลได้
สัญญาว่าจะตรวจสอบ กำกับดูแลให้พรรคก้าวไกลร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน
ไม่ให้เขาทรยศหักหลังประชาชนที่ให้ความไว้วางใจเลือกรัฐบาลก้าวไกล จะกำกับดูแลให้ปฏิรูปกองทัพ
ให้ยกเลิกเกณฑ์ทหาร ให้เขาทำตามนโยบาย 300 นโยบายให้ลงนามในสัตยาบรรณ ICC
ทันที และทำตามกรอบระยะเวลา คือการทำใน 100 วันแรกหลังรัฐบาลก้าวไกลมีอำนาจ
“พี่น้องคะ ดิฉันสัญญาว่าจะเปล่งเสียงแทนทุกท่าน ว่าจะเรียกร้องและตรวจสอบตัวเอง
ตรวจสอบพรรคก้าวไกลด้วยกันเอง ดิฉันสัญญาว่าจะไม่ทรยศหักหลัง
และจะไม่ให้พี่น้องต้องประสบเหตุแบบเดิม ๆ พายเรือมาส่งพวกเราถึงหน้าทำเนียบ
แล้วพอขึ้นฟังก็ถีบหัวเรือส่ง บอกว่าส่งเราถึงฝั่งแล้ว หมดหน้าที่
กากระบาดในคูหาเลือกตั้ง 4 วินาทีแล้ว พวกท่านหมดหน้าที่
ท่านส่งเราถึงฝั่งแล้ว เดี๋ยวเราจะเดินต่อไปเอง”
นอกจากนี้
อมรัตน์ยังกล่าวอีกด้วยว่าจะเตือนพวกเขา ไม่ให้ประสบกับความเจ็บปวด เสียใจ
แบบที่เคยเป็นมา โดยยึดหลัก ‘แก้แค้น ไม่ใช่แก้ไข’ การแก้แค้นไม่ใช่ไปหยิบอาวุธ
ก่อม๊อบทำความวุ่นวายให้บ้านเมือง เราจะแก้แค้นด้วยการออกกฎหมาย
แก้กฎหมายความมั่นคงที่ป้องกันการรัฐประหารทั้งหมด
“คำสัญญาของดิฉันในวันนี้ ดิฉันขอแสดงยินดีกับทุกท่านที่อยู่ในที่นี้
ทุกท่านที่อยู่้ข้างนอก รวมถึงแสดงความยินดีกับตัวเองด้วย ว่าภายในอีกไม่ถึง 60
ชั่วโมงข้างหน้านี้เราจะมีชัยชนะที่เด็ดขาดสำคัญของประชาชน
คำตอบสุดท้ายของพวกเรา คือ ‘กาก้าวไกลทั้งแผ่นดิน’
ไม่ใช่เพื่อเพียงส่งพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่การชนะครั้งนี้คือการชนะครั้งสำคัญ
ไม่ใช่ชัยชนะของพรรคก้าวไกล แต่คือชัยชนะของประชาชน ผู้ทรงอำนาจสูงสุดตัวจริง”
อมรัตน์กล่าวทิ้งท้าย