‘ชูวิทย์’ ส่งสัญญาณเตือน ‘ก้าวไกล’ ต้องเลือกผลประโยชน์ระหว่าง ร้านค้า
กับ ประชาชน หลัง ‘ศิริกัญญา’ ระบุ นำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด
พร้อมคุ้มครองร้านค้าที่มีใบอนุญาตถูกต้อง พร้อม เปิดภาพร้านกัญชาใกล้สถานศึกษา
วันนี้
(25 พ.ค. 66) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ แถลงข่าวกรณี MOU
มาตรการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดของพรรคก้าวไกล และพรรคร่วมรัฐบาล
ที่ศูนย์ต่อต้านกัญชาเสรี โรงแรมเดอะเดวิส ซอยสุขุมวิท 24
จากกรณีที่นางสาวศิริกัญญา
ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกลตอบคำมวลชนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเกี่ยวกับการออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เพื่อให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติด โดยที่จะต้องไม่กระทบต่อผู้ประกอบการ
และผู้ปลูกกัญชา ที่ทำถูกต้องตามกฎหมายแล้วแน่นอน ด้วยการออกประกาศคุ้มครองผู้ปลูก
และผู้จำหน่าย ที่ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างไม่มีปัญหา
นายชูวิทย์ ระบุว่า
ตนเองอยากส่งสัญญาณไปถึงพรรคก้าวไกลว่าต้องเลือกปกป้องสังคมไม่ใช่ร้านค้า
ต้องเลือกเอาผลประโยชน์ของใครระหว่างเยาวชน คนในสังคม หรือผลประโยชน์ของร้านค้า
นายชูวิทย์
ระบุต่อว่า ตนเองได้รวบรวมรายชื่อผู้ปกครองที่ไม่เห็นด้วยกับการเปิดร้านกัญชาใกล้สถานศึกษากว่า
3,000 คนในโรงเรียนเดียว พร้อมระบุอีกว่าร้านกัญชาเหล่านี้ขาดทุนหมด
เพราะมีการเปิดมากเกินไป ซึ่งกัญชาที่ใช้ในด้านสันทนาการนั้น
เป็นกัญชาจากประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากมีค่า THC สูงกว่า
โดยมีข้อมูลว่าผู้ใช้กัญชาในเชิงสันทนาการเพิ่มขึ้นจากปี 62
มาปี 65 กว่า 900 เท่า
หากพรรคก้าวไกลจะนำกลับไปเป็นยาเสพติดแล้วจัดโซนสูบ ก็จะกลายเป็นโรงฝิ่น โรงสูบ
นายชูวิทย์
กล่าวต่อว่า ตนเองจึงข้อเสนอแนะคือ ต้องเลิกร้านกัญชาที่อยู่ใกล้โรงเรียน
หน้าโรงเรียนที่ให้นักเรียนเข้าไปซื้อได้ ร้านกัญชาที่เพิ่มสูงขึ้น
ไม่มีการตรวจสอบจากทางเจ้าหน้าที่เพราะเจ้าหน้าที่มีน้อยกว่าจพนวนร้านที่เปิด
และถ้าเป็นกัญชาทางการแพทย์ต้องมีใบกำกับยาจากแพทย์
ที่ระบุชัดเจนถึงจำนวนและปริมาณการใช้ ซึ่งแต่ละพื้นที่ที่ขายเป็นที่ท่องเที่ยว
รวมถึงคนขายกัญชาต้องไม่ใช่คนที่เสพกัญชา ต้องผ่านการตรวจสอบประวัติ
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า
หากพรรคก้าวไกลยืนยันจะทำให้ร้านค้าที่ได้รับใบอนุญาตเปิดร้านกัญชาถูกต้องตามกฎหมาย
ไม่เดือดร้อน สามารถขานต่อไปได้ จะทำอย่างไรต่อ นายชูวิทย์ ระบุว่า
ตนเองก็จะต่อสู้ต่อไป เพราะไม่อยากให้สังคมติดกัญชา
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ก้าวไกล #MOU