‘พิธา’ ลุยสมุทรปราการ พบ 45 สหภาพแรงงาน
ยืนยันทำตามสัญญา เดินหน้าทำงานเพื่อการเปลี่ยนแปลง
พร้อมขึ้นรถปราศรัยขอบคุณประชาชน หลังก้าวไกลชนะยกจังหวัด
วันที่
26 พฤษภาคม 2566 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์
หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย พริษฐ์ วัชรสินธุ
ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบาย พรรคก้าวไกล เดชรัต สุขกำเนิด
ผู้อำนวยการศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต (Think Forward Center) และว่าที่
ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปีกแรงงาน ได้แก่ เซีย จำปาทอง, สุเทพ
อู่อ้น รวมถึง ชุมพล หลักคำ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ ทวีศักดิ์ ทักษิณ อดีต
ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลงพื้นที่เทศบาลตำบลบางเสาธง จ.สมุทรปราการ
เพื่อพบปะกลุ่มแรงงานในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ
รับฟังข้อเสนอเพิ่มเติมและตอบคำถามด้านนโยบายจากกลุ่มสหภาพแรงงาน
เพื่อเชื่อมต่อให้เกิดการทำงานร่วมกันต่อจากนี้
พิธากล่าวว่า
นโยบายแรงงานเป็นเรื่องที่พรรคก้าวไกลให้ความสำคัญมาโดยตลอด
จะเห็นได้ว่าในบันทึกความเข้าใจร่วมกันในการจัดตั้งรัฐบาล (MOU) ข้อที่
19 ระบุเรื่องการยกระดับสิทธิแรงงานทุกอาชีพให้มีสภาพการจ้างงานที่เป็นธรรม
และได้รับค่าแรงที่เป็นธรรมสอดคล้องกับค่าครองชีพและการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ตอนนี้ตนได้เดินหน้าพูดคุยกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้เห็นภาพรวมทางเศรษฐกิจทั้งหมด
และเห็นความจำเป็นร่วมกันว่าทำไมต้องขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 450 บาทต่อวัน
โดยยืนยันว่าพรรคก้าวไกลคิดเรื่องนี้อย่างเป็นระบบ เสนอนโยบายเป็นแพ็กเกจ
ทั้งการยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน เช่น สิทธิในการรวมตัว สิทธิลาคลอด 180 วัน การกำหนดชั่วโมงทำงาน และการดูแลผลกระทบที่จะเกิดกับผู้ประกอบการ เช่น
การที่รัฐช่วยสมทบค่าประกันสังคมในส่วนของผู้ว่าจ้างในช่วง 6 เดือนแรกหลังการขึ้นค่าแรง การเปิดให้ SME นำค่าแรงมาหักค่าใช้จ่ายทางภาษีได้
2 เท่าในช่วง 2 ปีแรก นโยบายหวยใบเสร็จ
เป็นต้น
“เรื่องค่าแรง 450 บาทต่อวัน เราไม่ได้คิดเอง
แต่พิจารณาจากอัตราเงินเฟ้อ การเติบโตทางเศรษฐกิจ ผลิตภาพของแรงงาน เพื่อให้ค่าแรงเป็นอัตราที่ยุติธรรมต่อคนทำงาน
เดินทางมาวันนี้เพื่อยืนยันว่าเราจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้
จะดูแลทั้งพี่น้องแรงงานและผู้ประกอบการ
เพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตควบคู่กับการลดความเหลื่อมล้ำ” พิธากล่าว
จากนั้น
เปิดให้แรงงานกลุ่มต่างๆ จากทั้ง 45 สหภาพ ถามคำถามและยื่นข้อเสนอ
ประกอบด้วย แรงงานในโรงงานอุตสาหกรรม เช่น เหล็ก ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์
อาหารและยา ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ สิ่งพิมพ์ , แรงงานนอกระบบ
เช่น ฟรีแลนซ์ หาบเร่แผงลอย แรงงานแพลตฟอร์ม แรงงานสร้างสรรค์, แรงงานภาคบริการ เช่น บุคลากรทางการแพทย์ ธนาคาร, รัฐวิสาหกิจ
เช่น องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และ กลุ่มลูกจ้างภาครัฐ
ส่วนใหญ่สะท้อนปัญหาเรื่องข้อกฎหมายที่ทำให้แรงงานเสียเปรียบ
เรื่องสิทธิสวัสดิการที่คนทำงานบางกลุ่มได้รับอย่างไม่เท่าเทียม
โดยพิธาและแกนนำพรรคก้าวไกลยืนยันว่าจะนำข้อเสนอต่างๆ
ไปผลักดันแก้ไขทันทีเมื่อเป็นรัฐบาล โดยเฉพาะการผลักดันร่างกฎหมายเกี่ยวกับแรงงาน 2 ฉบับที่พรรคเตรียมไว้แล้ว
พร้อมยื่นเข้าสภาฯ ได้แก่ ร่าง พ.ร.บ. แรงงานสัมพันธ์ และ ร่าง พ.ร.บ.
คุ้มครองแรงงาน ซึ่งจะประกันสิทธิในการรวมตัวกันของแรงงานทุกประเภท
นำแรงงานนอกระบบเข้าสู่ระบบประกันสังคมถ้วนหน้า
เสริมสร้างสวัสดิการที่ดีขึ้นให้กับพี่น้องแรงงานทุกคน
เสร็จจากวงพบปะแรงงาน
พิธาขึ้นรถขยายเสียงปราศรัยบริเวณลานหน้าเทศบาลตำบลบางเสาธง
ท่ามกลางประชาชนจำนวนมากที่ส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจ โดยพิธากล่าวว่า
ขอขอบคุณพี่น้องชาวสมุทรปราการที่ให้การตอบรับอย่างดี
ขอบคุณทุกความไว้วางใจที่ทำให้พรรคก้าวไกลได้รับการเลือกตั้งยกจังหวัดทั้ง 8 เขต
สัญญาจะไม่ทำให้ผิดหวัง
แม้วันนี้ยังไม่ได้เป็นนายกฯ
เต็มตัว แต่ก็เดินหน้าทำงาน รักษาผลประโยชน์ของประชาชน
จากการพูดคุยกับพี่น้องแรงงานวันนี้ เราเห็นตรงกันว่ามีวาระสำคัญที่ต้องผลักดันเพื่อทำให้คุณภาพชีวิตของคนทำงานทุกคนดีขึ้น
เพราะเราทุกคนคือแรงงาน และแรงงานคือคนสร้างชาติ
พิธากล่าวต่อว่า
สมุทรปราการจะเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่น่าอยู่กว่านี้ หากอุตสาหกรรมมีความรับผิดชอบ
ดูแลสิ่งแวดล้อม พรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล ยืนยันจะผลักดันกฎหมายสิ่งแวดล้อม
ดูแลบุคลากรทางการแพทย์ ปรับปรุงระบบสาธารณสุข
เพื่อให้สมุทรปราการเป็นเมืองที่ดีของประชาชนและคนรุ่นต่อไป
“พรรคก้าวไกลจะทำงานให้คุ้มกับความไว้วางใจที่ประชาชนมอบให้เรา
ส.ส.สมุทรปราการก้าวไกลจะดูแลทั้งแรงงาน สิ่งแวดล้อม และสาธารณสุข เพื่อให้สมุทรปราการเปลี่ยนแปลง
ให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม” พิธากล่าว
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #รัฐบาลก้าวไกล